ระวังบ่อน้ำมันฝั่งขวา, อาแจ็กซ์ โหดกว่าเดิม! เจาะ 5 ข้อก่อนเกม ลิเวอร์พูล ดวล อาแจ็กซ์

ระวังบ่อน้ำมันฝั่งขวา, อาแจ็กซ์ โหดกว่าเดิม! เจาะ 5 ข้อก่อนเกม ลิเวอร์พูล ดวล อาแจ็กซ์
เจอร์เก้น คล็อปป์ มีภารกิจสำคัญในการเรียกศรัทธาจากสาวก "เดอะ ค็อป" กลับคืนมา หลังพวกเขาต้องรับมือ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ วันอังคารที่ 13 กันยายนนี้ โดยสถานการณ์ของ "หงส์แดง" ไม่ค่อยสู้ดีนักเมื่อเกมแรกบุกไปแพ้ นาโปลี ยับเยิน 1-4 ฉะนั้นแมตช์นี้เป้าหมายเดียวที่ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ต้องการก็คือการคว้า 3 คะแนนให้ได้ เพราะหากทำไม่สำเร็จ สถานการณ์ของทีมอาจจะย่ำแย่ และส่งผลกระทบไปถึงสภาพจิตใจ และฟอร์มการเล่นในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วย

1. เกมรุกอัตคัดการทำประตู 


หนึ่งในปัญหาใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ก็คือเกมรุกที่ขาดแคลนจำนวนประตู หากไม่นับ หลุยส์ ดิอาซ แล้ว ต้องยอมรับว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ดาร์วิน นูนเญซ ยังไม่สามารถควานหาฟอร์มเก่งได้เลย โดยเฉพาะ "บังโม" กับ นูนเญซ ต้องบอกว่าฟอร์มน่าผิดหวังจริง ฝ่ายแรกผลงานที่เคยโหดในช่วงที่ผ่านมายังไม่โผล่ให้เห็นมากนักในซีซั่นนี้ ส่วน ดาวเตะชาวอุรุกวัย สภาพดูเหมือนกลายเป็นแข้งร้อนรน จับบอลไม่นิ่ง วิ่งมั่วซั่ว ขาดความมั่นใจ นี่เป็นจุดที่ คล็อปป์ จะต้องเรียกสติ นูนเญซ กลับมาให้ได้ไม่งั้นชีวิตในการค้าแข้งของเขาจะพังพินาศแหงๆ ขณะที่ตัวความหวังอีกรายอย่าง ดีโอโก้ โชต้า แม้จะหายเจ็บแล้ว แต่นักเตะยังขาดแมตช์ความฟิต ฉะนั้นต้องใช้เวลาอีกซักพักในการเรียกฟอร์มสุดยอดกลับคืนมา ด้วยเหตุนี้ในเกมกับ อาแจ็กซ์ ถ้าแนวรุกของเจ้าบ้านไม่สามารถกลับมาเปิดโหมดโหดได้ คงเป็นเรื่องยากที่จะคว้าสามคะแนนที่ต้องการได้ 

2. แนวรับต้องขันน็อตความมั่นใจ

สำหรับในเรื่องแผงแบ็กโฟร์ตอนนี้พวกเขาต้องเจอกับปัญหาใหม่นั่นก็คืออาการเดี้ยงของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฉะนั้นเกมนี้ทางริมเส้นฝั่งซ้ายจะเป็นโอกาสของ คอสตาส ซิมิคาส ที่จะได้ลงโชว์ลีลาอีกครั้ง สำหรับแข้งกรีกศักยภาพไม่ค่อยแตกต่างจาก โรเบิร์ตสัน แถมยังมีจุดเด่นเรื่องการเปิดบอลที่แม่นยำ ฉะนั้นนี่จะเป็นโอกาสที่เขาจะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง อย่างไรก็ตามข่าวดีที่ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" พอใจโล่งใจได้บ้างก็คือการที่ โฌแอล มาติป กลับมาฟิตสมบูรณ์เต็มร้อย และพร้อมลงเล่นร่วมกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ หลังจากเกมที่ผ่านมา โจ โกเมซ ทำเอาทีมต้องย่ำแย่จากการเล่นที่หละหลวมและโฉ่งฉ่างจนทีมเสียหายหนัก ขณะที่ยักษ์ดัตช์ที่ฟอร์มหลุดน่าจะกลับมามั่นใจมากขึ้นเมื่อได้ยืนคู่กับ มาติป งานนี้ถ้าคู่เซนเตอร์แบ็กสามารถกลับมาประสานงานได้อย่างลงตัวอีกครั้ง แนวรุกของอาแจ็กซ์คงยากที่จะเจาะเข้าไปสร้างความอันตราย

3. เทรนต์ ต้องตั้งสติกลับมาเป็นคนเดิม


เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ต้องพิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่าเขาไม่ใช่นักเตะ "ติดเก๊ก" หรือ "เย่อหยิ่ง" อย่างที่โดนวิจารณ์มาตลอดนับตั้งแต่เปิดซีซั่นนี้ ผลงานที่ไม่เคยสนใจเกมรับ และมักจะเดินทอดน่องจนทำให้ทีมต้องเสียหาย จะต้องไม่เกิดขึ้นในเกมนี้ และเกมต่อๆ ไป จริงๆ แล้ว "หนุ่มเทรนต์" เป็นนักเตะที่มีศักยภาพมากพอที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแบ็กขวาที่เก่งที่สุดในโลก แต่ด้วยการที่เขาไร้คู่แข่งในการแย่งตำแหน่งเวลาอยู่กับ "หงส์แดง" อาจส่งผลต่อความมุ่งมั่น และความทะเยอทะยาน ฉะนั้นสิ่งที่นักเตะต้องทำก็คือเรียกสติให้กลับคืนมาอีกครั้ง อย่าลืมว่าสมัยที่เจ้าตัวเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่เขาจะเดินเอ้อระเหยลอยชายตอนที่เล่นเกมรับ ที่สำคัญตอนนี้ฝั่งขวาดูเหมือนจะเป็น "บ่อน้ำมัน" ที่คู่แข่งจ้องจะเล่นงาน นั่นทำให้ ดาวเตะเลือดผู้ดี ต้องมีสมาธิในการเล่นให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น การเติมเกมรุกมันอยู่ในสายเลือดแต่ถ้าอยากเพิ่มความสมบูรณ์ในการเล่นก็ต้องมีความรับผิดชอบในเกมรับด้วย ! 

4. อาแจ็กซ์เปลี่ยนไปเยอะแต่ยิ่งอันตราย


อาแจ็กซ์ ในยุคใหม่ภายใต้การกุมบังเหียนของ อัลเฟร็ด ชรอยเดอร์ ผลงานโดดเด่นเหลือเกิน แม้พวกเขาจะหายนักเตะตัวหลักอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ อันโตนี่ ไปให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมกับกุนซือเอริก เทน ฮาก ก็ย้ายไปทำงานที่นั่น แต่ฟอร์มของทีมนับตั้งแต่เปิดซีซั่นยังคงดุดัน และน่าจะโหดกว่าสมัยที่ เทน ฮาก คุมทัพด้วยซ้ำ โดยฟอร์มในลีกลงแข่ง 6 เกมคว้าชัยชนะแบบร้อยเปอร์เซนต์ แถมตะบันประตูไป 21 ลูกเสียแค่ 3 เท่านั้น ขณะที่ผลงานในแชมเปี้ยนส์ ลีก เกมแรกก็จัดการสอยยับ เรนเจอร์ส ทีมจากดินแดนสหราชอาณาจักร 4-0 ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของ อาแจ็กซ์ที่เกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์นี้ กลายเป็นสร้างแรงกระตุ้นที่จะทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม ฉะนั้นในช่วงเวลาที่ ลิเวอร์พูล กำลังระส่ำระส่ายแบบนี้ อาจจะเป็นโอกาสทองที่พวกเขาจะได้ยัดเยียดความปราชัยให้กับทีมของคล็อปป์ต่อหน้าสาวก "เดอะ ค็อป" 

5. ชัยชนะเป็นมากกว่า 3 คะแนน


แม้ว่า คล็อปป์ มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการคว้าชัยชนะต่อหน้าแฟนบอลที่แอนฟิลด์ในเกมนี้ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือรูปแบบการเล่นของทีมก็ต้องโดดเด่น และอันตรายควบคู่ไปด้วย อย่าลืมว่าในสถานการณ์ที่ทีมกำลังเผชิญอยู่ ถ้าหากทำผิดพลาดไม่ได้สามคะแนนที่ตั้งเป้าเอาไว้ บอกเลยว่าภายในห้องแต่งตัวของทีมคงเต็มไปด้วยบรรยากาศมาคุ เพราะนั่นหมายถึงความมั่นใจของพวกเขาจะยิ่งหดหายไปอีกหลายเท่า แม้ในเกมลีกสุดสัปดาห์มีการประกาศงดก็ตาม แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นผลดี เนื่องจากความรู้สึกผิดหวังมันจะค่อยๆ กัดกินความมั่นใจไปเรื่อยๆ และกว่าที่ทีมจะลงแข่งมันจะกลายเป็นปัญหาสะสมจนทำให้ทีมเล่นอย่างขาดสมาธิ ดังนั้นสิ่งที่ นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช ต้องการก็คือการนำลูกทีมคว่ำ อาแจ็กซ์ ให้ได้ เพราะนั่นจะเปรียบเสมือนยาชูกำลังชั้นดีที่จะทำให้พวกเขาฝืนตัวจากฟอร์มและผลงานที่ย่ำแย่ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport