ซิโมเน่ อินซากี้ นายใหญ่ อินเตอร์ ระบุ บอลมันออกหลังไปก่อนในจังหวะที่ทีมของตนจะได้ประตูขึ้นนำ แต่บอกว่า ฟิออเรนติน่า ก็ได้ลูกจุดโทษที่ไม่สมควรได้
ซิโมเน่ อินซากี้ เทรนเนอร์ อินเตอร์ มิลาน ยอมรับว่าจังหวะที่ทีมของตนได้ประตูขึ้นนำ ฟิออเรนติน่า บอลมันออกหลังไปก่อนจน "เนรัซซูรี่" ไม่สมควรได้ลูกเตะมุม แต่บอกว่าทีมของตนก็เสียประโยชน์จากการตัดสินของกรรมการทั้งหลายเกมก่อนหน้านี้และในนัดล่าสุดเช่นกัน
อินเตอร์ เพิ่งเปิดบ้านชนะ ฟิออเรนติน่า 2-1 โดยประตูขึ้นนำ 1-0 ของพวกเขามันมาจากจังหวะที่เจ้าถิ่นได้เล่นลูกเตะมุมก่อนที่ มาริน พอนกราซิช แข้งของทีมเยือนจะทำเข้าประตูตัวเอง
สำหรับจังหวะที่ทำให้ อินเตอร์ ได้เล่นลูกเตะมุมในครั้งนี้มันเริ่มจากการที่ อเลสซานโดร บาสโตนี่ นักเตะของ อินเตอร์ สไลด์โยนบอลเข้ามาก่อนที่หลังจากนั้นนักเตะของ ฟิออเรนติน่า จะทำบอลออกหลัง แต่บางคนมองว่าที่จริงบอลมันออกหลังไปตั้งแต่ก่อนหน้าที่ บาสโตนี่ จะเปิดเข้ามาแล้ว
ทั้งนี้ อินซากี้ ยอมรับว่าจังหวะนี้บอลมันออกหลังไปก่อนจริง แต่ระบุว่า ฟิออเรนติน่า ก็ไม่ควรได้ลูกจุดโทษที่ทำให้สกอร์เสมอเป็น 1-1 เช่นกัน แถมบอกว่าก่อนหน้านี้ อินเตอร์ ก็เคยเสียประโยชน์จากการตัดสินถึงหลายหน
"ฟิออเรนติน่า โกรธกับประตูที่พวกเขาเสียไป ซึ่งพวกเขาสมควรรู้สึกแบบนั้น เพราะผมก็เคยเป็นแบบนั้นในเกมที่ เลเวอร์คูเซ่น ตอนที่เราเสียประตูจากลูกเตะมุมทั้งที่มันควรจะเป็นจังหวะล้ำหน้าของอีกฝ่าย"
"ผมไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น บรรยากาศมันตึงเครียดกันสุดๆ ผมกลับไปย้อนดูภาพช้าในจังหวะลูกจุดโทษด้วยและมันก็ไม่ควรเป็นลูกจุดโทษ ที่จริงตอนเกมดาร์บี้ (มิลาน ดาร์บี้) วีเออาร์ ก็ไม่ได้เข้ามาแทรกแซงเหมือนกัน และเราก็น่าจะเป็นฝ่ายชนะเกมนั้น"
"ผมเข้าใจอารมณ์ของ ปัลลาดิโน่ เป็นอย่างดี เพราะบอลมันออกไปแล้ว แต่ว่า วีเออาร์ ไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงจังหวะแบบนี้ได้ แต่ผมก็ขอวกกลับไปประเด็นที่กรรมการตัดสินว่า ดาร์เมี่ยน ฟาวล์จนเสียลูกจุดโทษทั้งที่เขาอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 1 เมตรครึ่ง จังหวะนั้น วีเออาร์ เข้ามาตรวจสอบแล้วสุดท้ายก็มีการตัดสินให้ลูกจุดโทษทั้งที่สำหรับผมแล้วมันไม่ควรจะเป็นลูกจุดโทษเลย"