นักเตะคู่บารมี ! จัดอันดับดาวเตะคู่บุญของ โชเซ่ มูรินโญ่

ในฐานะที่ผ่านการคุมทีมชั้นยอดมาหลายสโมสร เจ้าของฉายา "สเปเชี่ยล วัน" จึงได้ร่วมงานกับดาวเตะนามกระเดื่องมาแล้วมากมาย

ในจำนวนนี้ มีหลายรายที่ผู้จัดการทีมโปรตุกีสเซ็นสัญญาคว้าตัวมาเป็นลูกทีมของเขาเกินกว่าหนึ่งครั้ง

แต่ใครกันที่ถือเป็นนักเตะคู่บารมีอันดับหนึ่งของ เฮียมู เราจะไปจัดอันดับกันดูสักหน่อย

11. ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า

ดิยาร์ร่า ถูก มูรินโญ่ ดึงมาร่วมทีม เชลซี ในปี 2005  และคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสรในซีซั่น 2005/06

ย้ายไปค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล ในปี 2007 เพื่อมองหาโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอต่อด้วยการเซ็นสัญญากับ พอร์ทสมัธ แล้วลงเอยกับ เรอัล มาดริด ในปี 2009

กระทั่งปี 2010 ก็ได้ร่วมงานกับ มูรินโญ่ อีกรอบเนื่องจากกุนซือเลือดฝอยทองได้รับการแต่งตั้งให้กุมบังเหียน ราชันชุดขาว ซึ่งแม้ว่าทีมดังของ ลา ลีกา จะดึง ซามี่ เคดิร่า มาเสริมทัพ แต่ ดิยาร์ร่า สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของเขาได้จากการโชว์ฟอร์มที่ดีก่อนย้ายออกจาก เบร์นาเบว ในปี 2012 รวมแล้วดาวเตะเฟรนช์แมนลงเล่นให้ มูรินโญ่ กับสองสโมสรรวม 96 นัด

10. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

ก่อนผิดใจกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ บาร์เซโลน่า อิบราฮิโมวิช ประสบความสำเร็จร่วมกับ มูรินโญ่ ในทีม อินเตอร์ มิลาน

นอกจากนี้ สตาร์ทีมชาติ สวีเดน ยังได้เป็นลูกทีมของเจ้านายเลือดฝอยทองอีกหนภายใต้สังกัด แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยตอนที่เขาย้ายมาร่วมทีม ปีศาจแดง แบบไม่มีค่าตัวในปี 2016 

รวมกันสองสโมสร กองหน้าร่างยักษ์ลงเล่นให้ มูรินโญ่ 100 นัด และยิงได้ 58 ประตูรวมทั้งได้แชมป์ เซเรียอา , ยูโรปาลีก และ ลีกคัพ

9. เฮนริค มคิตาร์ยาน

มคิตาร์ยาน เริ่มต้นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างน่าพอใจในยุคของ มูรินโญ่ แถมสอยตาข่ายได้อีกต่างหากในเกมชิงชนะเลิศ ยูโรปาลีก แมตช์พิชิต อาแจ็กซ์ 2-0

อย่างไรก็ดี ซีซั่นถัดมาสถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเขาถูกนำไปเป็นตัวแถมในการเซ็นสัญญากับ อเล็กซิส ซานเชซ หัวหอก อาร์เซน่อล แต่ในที่สุดเจ้าตัวก็ได้ร่วมงานกับ เฮียมู อีกยกในทีม โรม่า และได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดชิงชนะเลิศ คอนเฟอเรนซ์ลีก ก่อนย้ายไปหากินกับ อินเตอร์ ซึ่งรวมแล้วเขารับใช้ "สเปเชี่ยล วัน" ทั้งหมด 107 นัด

8. ฆวน มาต้า

ถือเป็นเรื่องแปลกไม่น้อยที่ มูรินโญ่ ยอมปล่อย มาต้า ให้ย้ายไปร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2014 ทั้งๆที่เขาเพิ่งได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ เชลซี เป็นสมัยที่สอง

อย่างไรก็ดี ทั้งสองได้ร่วมงานกันอีกหนในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2016 จึงทำให้กองกลางสแปนิชลงเล่นให้ มูรินโญ่ ทั้งหมด 117 นัด

7. มิคาแอล เอสเซียง

ลงบู๊ให้ มูรินโญ่ 147 นัดหลัง เชลซี ควักกระเป๋า 24.4 ล้านปอนด์ดึงกองกลางวัย 22 ปีในขณะนั้นมาร่วมทีมซึ่งทำให้ เอสเซียง ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะแอฟริกันที่มีค่าตัวแพงที่สุดในปี 2005

จากนั้นในปีต่อมา เอสเซียง มีชื่อได้ร่วมชิงรางวัล บัลลงดอร์ ก่อนล้มเจ็บจนกระทั่งปี 2012 กุนซือโปรตุกีสยืมลูกทีมคู่ใจมาร่วมทีม เรอัล มาดริด และเขาอุทิศประตูที่สองซึ่งเป็นประตูสุดท้ายของเขากับ ราชันชุดขาว ให้กับเจ้านายในวันสุดท้ายของ มูรินโญ่ กับถิ่น เบร์นาเบว

6. คริส สมอลลิ่ง

สมอลลิ่ง กำลังเข้าสู่ช่วงฟอร์มตกจนกระทั่ง มูรินโญ่ เข้ามาคุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2016 ซึ่งทำให้เขากลายเป็นขุนพลคนสำคัญของ ผีแดง ตลอดระยะเวลาสามปีต่อมา

ยิ่งไปกว่านั้นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวเมืองผู้ดีโชว์ลีลาได้อย่างน่าประทับใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเจ้านาย-ลูกน้องคู่นี้ได้ร่วมงานกันอีกหนในทีม โรม่า ปี 2021 ซึ่งทั้งสองได้แชมป์ คอนเฟอเรนซ์ลีก ร่วมกันอันทำให้ สมอลลิ่ง ได้แชมป์ร่วมกับเจ้านายโปรตุกีสรวมสี่รายการจากการลงสนาม 188 นัด

5. เปาโล แฟร์เรยร่า

มูรินโญ่ เปลี่ยนตำแหน่งให้ แฟร์เรยร่า ย้ายจากการทำหน้าที่มิดฟิลด์ฝั่งขวามารับบทแบ็คขวาตอนที่ทั้งสองร่วมงานกันในทีม ปอร์โต้ และได้แชมป์หูใหญ่ปี 2004 ด้วยกัน

จากนั้นในช่วงซัมเมอร์ เฮียมู ก็คว้ากองหลังคู่บุญไปร่วมงานกันต่อทันทีในทีม เชลซี โดยสตาร์เลือดฝอยทองรับใช้ สิงห์บลูส์ จนถึงปี 2013 ก่อนรีไทร์เนื่องจากบาดเจ็บซึ่งทำให้เขาลงเล่นให้เจ้านายร่วมชาติกับสองสโมสรรวมทั้งสิ้น 212 นัด

4. โรเมลู ลูกากู

จากการรับใช้ มูรินโญ่ กับสามสโมสร ลูกากู มีผลงานลงบู๊ 83 นัด และพังประตูได้ 39 ลูก

แม้กุนซือเลือดฝอยทองจะไม่ค่อยใช้บริการหัวหอกทีมชาติ เบลเยี่ยม ในทีม เชลซี แต่เขาควักกระเป๋า 75 ล้านปอนด์คว้าสตาร์ร่างยักษ์มาร่วมงานกันอีกหนในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2017 ซึ่ง ลูกากู กระทุ้งประตูได้ 27 ลูกจากทุกรายการในซีซั่นแรกกระทั่งล่าสุด เฮียมู มอบโอกาสให้เขาย้ายมาสร้างชื่ออีกรอบกับ โรม่า ด้วยสัญญายืมตัว

3. มานิเช่

เป็นอีกคู่ที่ได้ร่วมงานกันสามวาระเริ่มตั้งแต่ทีม เบนฟิก้า ก่อนที่ มานิเช่ จะถูกขายให้กับ ปอร์โต้ ซึ่งทำให้เขาได้เป็นลูกทีมของ มูรินโญ่ อีกหนในปี 2002

แม้จะประสบความสำเร็จด้วยกัน แต่ถึงปี 2005 พ่อค้าแข้งเลือดฝอยทองก็ย้ายไปหากินกับ ดินาโม มอสโกว์ ซึ่งกลายเป็นการตัดสินใจที่ล้มเหลวกระทั่งเดือนม.ค.2006 เขาก็ถูก เฮียมู ยืมมาเล่นให้ เชลซี ซึ่งเศรษฐีลอนดอนคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ

2. เนมานย่า มาติช

มาติช ย้ายจาก เบนฟิก้า กลับมาค้าแข้งกับ เชลซี อีกหนในปี 2014 ช่วงที่ มูรินโญ่ เป็นผู้จัดการทีมเงินถังแห่งกรุงลอนดอนรอบสองเช่นกันโดยทั้งสองได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2014/15 ซึ่งส่งผลให้ดาวเตะทีมชาติ เซอร์เบีย ผงาดเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดของยุโรป

แม้นายใหญ่ชาวเมืองฝอยทองจะย้ายออกจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่ มาติช ยังรับใช้ สิงห์บลูส์ ต่อไปกระทั่งปี 2017 มูรินโญ่ ก็เซ็นสัญญาฉุดเขาไปร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด โดยพ่อค้าแข้งร่างโย่งลงเล่นให้ ผีแดง จนถึงปี 2022 แล้วย้ายไปร่วมงานกับกุนซือคู่บุญแบบไม่มีค่าตัวในทีม โรม่า เป็นสโมสรที่สาม

1. ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่

อันดับหนึ่งในข่ายนี้ต้องยกให้กับ คาร์วัลโญ่ เนื่องจากเซ็นเตอร์ฮาล์ฟโปรตุกีสลงเล่นให้ เฮียมู มากถึง 293 นัดกับสามสโมสร

คาร์วัลโญ่ เป็นหนึ่งในคีย์แมนของ มูรินโญ่ ในทีม ปอร์โต้ ก่อนตามกันมาประสบความสำเร็จเพิ่มเติมกับ เชลซี ซึ่งดาวเตะเลือดฝอยทองจับคู่กับ จอห์น เทอร์รี่ ได้อย่างแข็งแกร่งกระทั่งทำให้ทีม สิงห์บลูส์ มีคลีนชีต 25 นัดในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2004/05

หลังรับใช้ทีมดังแห่งกรุงลอนดอนจนถึงปี 2010 "สเปเชี่ยล วัน" ก็ดึง คาร์วัลโญ่ ไปลงบู๊ให้ เรอัล มาดริด และทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีในตอนแรกก่อนที่เขาจะเริ่มล้มเจ็บ และย้ายไปค้าแข้งกับ โมนาโก หลังหมดสัญญาท้ายซีซั่น 2012/13