จบไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับบิ๊กแมตช์ของ คาราบาว คัพ รอบ 4 ประจำฤดูกาลนี้ โดยที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายได้ไปต่อจากการเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม เอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ 3-2
แม้จะเป็นเกมแบบเป็นทางการนัดแรกของทั้งคู่นับตั้งแต่จบศึก ฟุตบอลโลก 2022 แต่นี่ก็เป็นเกมที่สนุกและสูสีในระดับหนึ่ง ซึ่งมันยังทำให้เกิดเกร็ดที่น่าสนใจบางประเด็นด้วย โดยเราจะมายกตัวอย่างให้ได้รับทราบกัน
- ดูโออันตราย
ตั้งแต่ตอนที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ เซ็นสัญญากับ แมนฯ ซิตี้ ใหม่ๆ นั้น หลายคนก็คาดกันเอาไว้อยู่แล้วว่าเกมรุกของ "เรือใบสีฟ้า" จะโหดสุดๆ เพราะเขาจะได้มีโอกาสเล่นร่วมกับ เควิน เดอ บรอยน์ หนึ่งในคนที่ปั้นเกมได้ดีที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้
เกมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ตอกย้ำถึงเรื่องนั้น เพราะว่า เดอ บรอยน์ ได้รับเครดิตให้เป็นคนทำแอสซิสต์ให้กับ ฮาลันด์ ในจังหวะที่ แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูแรก ซึ่งนั่นทำให้ตอนนี้ทั้ง ฮาลันด์ และ เดอ บรอยน์ เป็นนักเตะจากทีมใน พรีเมียร์ลีก ที่ทำประตูได้มากที่สุดจากทุกรายการ และทำแอสซิสต์ได้เยอะที่สุดจากทุกรายการประจำซีซั่น 2022-23 ตามลำดับ โดยจนถึงตอนนี้ ฮาลันด์ กดไปแล้ว 24 ประตู ส่วน เดอ บรอยน์ ทำได้ถึง 14 แอสซิสต์ด้วยกัน
- ซาลาห์ ตัวอันตรายสำหรับ แมนฯ ซิตี้
แม้ว่าจะต้องกลับบ้านพร้อมกับความปราชัย แต่นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ ซาลาห์ สามารถเจาะตาข่ายของ แมนฯ ซิตี้ ได้สำเร็จ ส่งผลให้เขาถือเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถทำประตูใส่ "เรือใบสีฟ้า" ในยุคของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ได้อย่างน้อย 10 ลูกเมื่อนับรวมผลงานจากทุกรายการ
นอกจากนี้ แมนฯ ซิตี้ ก็ยังถือเป็นเหยื่อรายที่ 3 ที่เสียประตูให้กับดาวเตะทีมชาติอียิปต์อย่างน้อย 10 ประตูด้วย โดย 2 รายก่อนหน้านี้ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
- ฮาลันด์ ประเดิมสวยอีกครั้ง
จากการที่ในเกมรอบ 3 ที่ แมนฯ ซิตี้ ชนะ เชลซี ได้ 2-0 นั้น ฮาลันด์ เป็นตัวสำรองที่ไม่ถูกใช้งาน ทำให้เกมนี้ถือเป็นการลงเล่นรายการ คาราบาว คัพ นัดแรกในชีวิตของเจ้าตัว และสุดท้ายเขาก็ประเดิมได้สวยทั้งทำประตูได้รวมถึงช่วยทำให้ทีมได้รับชัยชนะ
นี่นับเป็นรายการที่ 7 เข้าไปแล้วที่ ฮาลันด์ สามารถทำประตูได้ตั้งแต่การลงเล่นนัดแรก โดย 6 รายการก่อนหน้านี้ประกอบด้วย นอร์วีเจี้ยน ฟุตบอล คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, บุนเดสลีกา เยอรมัน, เดเอฟเบ-โพคาล, เดเอฟแอล-ซูเปอร์คัพ และ พรีเมียร์ลีก
- ปัญหาการจบสกอร์ของ นูนเญซ
4 ครั้ง คือจำนวนหนที่ ดาร์วิน นูนเญซ มีโอกาสลุ้นทำประตูในเกมล่าสุดที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม แต่เขากลับไม่สามารถยิงตรงกรอบได้แม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งนั่นกลายเป็นการทำให้เขาดูแย่ตามไปด้วยทั้งที่ถ้าพิจารณาจากการเล่นส่วนอื่นนั้นแข้งชาวอุรุกวัยทำได้ดีในระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ หากนับเฉพาะเกมที่เขามีโอกาสทำประตูมากกว่า 1 หนแล้วล่ะก็ นี่ก็นับเป็นเกมที่ 3 ในสีเสื้อ "หงส์แดง" ที่แข้งวัย 23 ปีไม่สามารถยิงตรงกรอบได้เลย โดยอีก 2 นัดก่อนหน้านี้คือเกมลีกนัดเสมอกับ คริสตัล พาเลซ 1-1 เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่เขามีจังหวะลุ้นประตูถึง 5 ครั้ง และเกมลีกนัดที่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ พิชิต แมนฯ ซิตี้ 1-0 เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยนัดดังกล่าวเขามีจังหวะพยายามทำประตู 3 หน
- เด็กเกร็ดบอล -