อันที่จริงต้องพึงสังวรไว้ว่าคุณโชคดีแล้ว...โธมัส ทูเคิ่ล
ก็โชคดีที่ว่าตอนนี้โรมัน อบราโมวิชไม่อยู่แล้ว ลองเป็นยุคก่อนหน้านี้ดูซิก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่อาจกระเด็นตกเก้าอี้ไปก่อนแล้ว ต่อให้จะชักแม่น้ำทั้งห้ามาอ้างถึงสาเหตุที่ทีมฟอร์มไม่เป็นโล้ไม่เป็นพายก็เถอะแต่ยี่ห้ออบราโมวิชไม่เคยปราณีให้ใคร
ยิ่งบนข้อแม้ที่ว่าตลาดหน้าร้อนที่ผ่านมาลงทุนไปถึง 250 ล้านปอนด์ด้วย ก็ไม่มีสโมสรไหนจ่ายมือเติบเท่านี้
เกิดอะไรขึ้นกับเชลซี?? ทำไมทูเคิ่ลถึงโดนฟ้าผ่าตอนสายของวันพุธ??? หลายคนโดยเฉพาะสาวกสิงโตสีน้ำเงินคงคิ้วขมวดเข้าหากัน เรื่องนี้ต้องย้อนไปตั้งแต่ซีซั่นที่แล้วเมื่อนับจากเดือนเมษายนเป็นต้นมาผลงานค่อยๆดำดิ่งลง จากที่เคยดูเหมือนจะเป็น'ม้าตัวที่สาม'ก็ล้มกลิ้งกลางทาง
ชนะได้แค่ 4 จาก 10 เกมในลีก จอดรอบแปดทีมบอลยุโรปแถมเข้าชิงบอลถ้วยสองรายการในประเทศก็อกหักจากการดวลลูกโทษทั้งสอง ถึงกระนั้นในเวลานั้นก็น่าเห็นใจทูเคิ่ลที่ต้องทำงานภายใต้สายลมกรรโชกของความเปลี่ยนแปลง
ปัญหาอยู่ว่าทำไมเจ้าของใหม่ก็มีแล้ว เป็นอเมริกันชนที่ดูต่างจากทั่วไป ดูใจดี ดูใจถึงทว่าเชลซีก็ยังดูไม่มีวี่แววว่าจะได้ลุ้นโทรฟี่ ต่อให้ยุคนี้ใครต่อใครจะยิ้มได้กับการจบท็อปโฟร์ก็เถอะ หากนั่นย่อมไม่ใช่มาตรฐานของสโมสรที่อบราโมวิชเคยสร้างไว้
ตลอดซีซั่นมานี้มีกี่เกมที่พวกเขาเล่นได้น่าประทับใจ?
คำตอบ : 1 เกม(เรื่องนี้นักข่าวที่ตามเชลซีทั้งเหย้า-เยือนบอกเอง)
เกมนั้นได้แก่วันที่เสมอท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์สอย่างดุเดือด2-2ซึ่งนอกจากนั้นก็มีโชคมาอุ้มชูบ้างที่เอาชนะมาได้ ยกตัวอย่างก็ล่าสุดในลีกที่บดเวสต์แฮม2-1โดยมีข้อกังขาจากVAR
เท่ากับว่าเหตุผลที่ทีมดูกวัดแกว่งจึงไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุ มันคือเรื่องจริงที่แม้แต่ทูเคิ่ลเองก็ยังหาต้นตอไม่ได้ ก็ลองอ่านประโยคที่โค้ชชาวดอยทช์ให้สัมภาษณ์ไว้ดูครับ
"พวกเราสมควรแล้วที่แพ้เพราะพวกเราไม่ดีพอจริงๆ พวกเราไม่กระหายที่จะสู้ แน่นอนว่าผมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบ ผมต้องหาทางแก้ไขให้ได้ พวกเราต้องแสดงถึงการกระทำที่จะทำให้ทีมดูดีกว่านี้ ทุกคนต้องก้าวออกมาช่วยกัน"
เชื่อว่าอ่านแล้วส่วนใหญ่ก็คงคิดว่าเป็นวาจาเกรี้ยวกราดที่ทูเคิ่ลพูดไว้ภายหลังคืนหายนะที่ซาเกร็บในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
เปล่าเลย เปล่าเลยครับ ผมคัดลอกมาจากตอนปรีซีซั่นวันที่23 กรกฎาคมในเกมพ่ายหมดรูปให้อาร์เซน่อล0-4โดยนับจากนั้นก็มีอีกบางเกมที่ได้ยินอะไรทำนองนี้เช่นเกมกับลีดส์(แพ้0-3)หรือเซาธ์แฮมป์ตัน(แพ้1-2)
ถูกต้อง เท่ากับเกินหนึ่งเดือนแล้วที่พวกเขาก็ยังคงจูนเครื่องกันไม่ติด ยิ่งกว่านั้นคล้ายว่าเป็นรถที่ใช้มานานจนเต็มไปด้วยส่วนสึกหรอ ทั้งที่จากการลงทุนรวมกับตัวเดิมๆควรเป็นรถซูเปอร์คาร์ที่เหยียบคันเร่งทีก็จะทิ้งคู่แข่งไม่เห็นฝุ่นต่างหาก
บางทีมมีปัญหาในเกมรับ บางทีมก็เกมรุก
สำหรับเชลซีถือว่ามีทั้งรับและรุกก็ได้ ยกเว้นแมตช์เปิดสนามกับเอฟเวอร์ตันก็เสียประตูมาทุกเกม ขณะที่สถิติการทะลวงตาข่ายก็เพิ่งมีสกอร์ 8 ลูกจาก 7 เกมทุกรายการ
เมื่อคืนอังคารกับดินาโม ซาเกร็บที่ถือว่าเป็นทีมดูอ่อนชั้นสุดของกลุ่มก็สะท้อนทุกริ้วรอยออกมา จังหวะที่โดนยิงก็เป็นลูกเบสิคราวกับกำลังดูบอลยุค90อยู่ ลูกที่โยนยาวจากด้านหลังไปให้เพื่อนอีกคนโหม่งชงไปถึงมิสลาฟ ออร์ซิชควบเดี่ยวหลุดจากกลางสนามเข้าไปจิ้มผ่านเกปาง่ายๆ
รู้ที่ถึงไหนก็อายถึงนั้นครับ
เพราะนี่เพิ่งเป็นครั้งที่ 3 เท่านั้นที่ดินาโม ซาเกร็บกำชัยได้ในแชมเปี้ยนส์ลีกจาก 34 เกม(ในนั้นแพ้ไปถึง 27 เกม)
ตลอดเกมทูเคิ่ลก็พยายามทุกทางแล้วที่จะตีคืนให้ได้ จากแท็กติก3-4-3ที่วางลงก็ปรับเป็น4-4-2ทันทีในครึ่งหลังโดยเป็นสูตรที่เจ้าตัวก็ไม่ค่อยได้ใช้ด้วย พอส่งฮาคิม ซิเย็ชลงมาแทนเซซาร์ อัซปิลิอวยต้าก็จัดการถอยราฮีม สเตอร์ลิ่งลงมายืนมิดฟิลด์ นอกจากนั้นก็ถ่างเมสัน เมานท์ไปตรงริมเส้นฝั่งซ้าย
โควตาสำรองทั้ง 5 ก็ใช้ครบ สุดท้ายพอจบเกมแผนการเล่นที่ใช้ได้แก่3-4-1-2โดยท้ายที่สุดบทบาทของซิเย็ชจากตัวรุกด้านขวาก็ยังกลายเป็นวิงแบ็กฝั่งซ้าย
เราได้อะไรจากตรงนี้บ้าง?
นั่นแสดงว่าขุมกำลังเชลซีมีศักยภาพทั้งยาวกับกว้างยืดหยุ่นได้หลายระบบ ทางตรงกันข้ามเท่ากับว่าสูตรนิยมของทูเคิ่ลแผงหลังสามตัวโดยมีตัวใหม่ทั้งเวสลี่ย์ โฟฟาน่ากับคาลูดิ คูลิบาลี่ย์ลงครบยังไม่เวิร์กและก็ไม่รู้ด้วยว่าเมื่อไรถึงจะเวิร์ก
ประตูที่เสียให้ซาเกร็บ ก็เริ่มจากที่คูลิบาลี่ย์ขึ้นแย่งโหม่งไม่ถึงบอล ตามด้วยโฟฟาน่าวิ่งกวดออร์ซิชไม่ทัน
ในภาพรวมก็มีแต่คนอิจฉาทูเคิ่ลที่มีออพชั่นให้เลือกในมือเยอะ ก็บนม้านั่งข้างสนามนอกจากซิเย็ชก็ยังมีจอร์จินโญ่, คริสเตียน พูลิซิช, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, มาร์ค กูกูเรลย่า, คอนอร์ กัลลาเกอร์ไปจนถึงอาร์มันโด โบรฆ่า
มีแชมป์ยูโรในนั้น
มีสตาร์'กัปตัน อเมริกา'ในนั้น
มีแบ็กซ้ายราคา60ล้านปอนด์ในนั้น
มีสองดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มเด่นตอนส่งให้สโมสรอื่นยืมในนั้น
ใช่ครับ-ผมถึงได้บอกว่าเขาเป็นโค้ชที่โชคดี
อย่างหนึ่งเมื่อคืนอังคารเป็นเกมที่ 100 ถ้วนของทูเคิ่ล จาก50เกมแรกที่ทีมเสียไปแค่ 24 ลูก พอมา50เกมต่อมากลายว่าโดนไป 53 ลูกโดยจุดนี้ก็ทำให้หยิบจับได้ถึงชิ้นหลักฐานว่าสิ่งที่เคยเป็นจุดเด่นที่สุดของทีมชุดนี้ไม่เหมือนเดิมมานานแล้ว
ปี2021ตอนที่สยบแมนฯซิตี้เถลิงบัลลังก์ยุโรปได้ก็มาจากความเหนียวแน่นในเกมรับ วันนั้นพวกเขาทำได้จากโอกาสครั้งเดียว ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้เสมอ ทีมที่เล่นดีกว่าใช่ว่าจะได้รับการชูมือ
บางทีครับ บางที ปัญหาของทีมอยู่ที่สภาพจิตใจของผู้เล่น อย่างชิเวลล์ที่ถูกซื้อเข้ามาด้วยราคา 50 ล้านก็คงไม่คิดว่าจู่ๆจะมีผู้เล่นตำแหน่งเดียวกันเข้ามาบนมูลค่าที่สูงกว่าตัวเอง จากที่ควรยึดตัวจริงถาวรได้ลงสม่ำเสมอเพื่อโอกาสไปบอลโลกก็ต้องตกมากินน้ำใต้ศอก
นอกจากนั้นเรื่องอายุของผู้เล่นในทีมก็น่ามีส่วน นี่คือหนึ่งในทีมที่มีอายุเฉลี่ยสูงสุดของลีกโดยข้อนี้จะโทษทูเคิ่ลก็คงไม่ได้ ก็แต่ไหนแต่ไรทิศทางทำทีมของเชลซีเน้นระยะสั้นมาก่อนระยะยาวอยู่แล้ว
"ในตอนนี้ทุกอย่างดูขาดหายไปหมด มันมีเรื่องให้ต้องวิเคราะห์กันเยอะ ผมก็โกรธตัวเองที่ทำทีมได้ไม่ดี ไม่มีใครในทีมจะมีความสุขได้ เราจะต้องทำงานให้หนัก ไม่ใช่เวลาจะมาพักกันแล้ว"
ทูเคิ่ลเองก็คงไม่อยากคิดว่าเช้าวันต่อมาจะได้รับข้อความว่า"คุณโดนไล่ออก..."
ก็นับรวมได้ 589 วันบนตำแหน่งที่พิจารณจากถ้วยรางวัลก็คงไม่มีความแปลกใจ ก่อนนี้กับสโมสรเดียวกันนี้มียอดกุนซือที่ผลัดเวียนมาทำได้อย่างเดียวกันและก็พบจุดจบเหมือนกัน ต่อให้ต่างวาระกับนัยยะก็ตาม
"ในฐานะเจ้าของใหม่ที่เข้ามาทำได้ 100 วันกับการบริหารสโมสร เราต้องการทำให้แน่ใจว่าสโมสรจะเดินหน้าได้ต่อไป เจ้าของใหม่เชื่อว่ามันเป็นเวลาที่ถูกต้องในการเปลี่ยนแปลง"บางแถลงการณ์จากเวปไซต์เชลซีถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญ
อีกอย่างหนึ่งมีการเชื่อกันว่าการที่ทูเคิ่ลต้องเก็บกระเป๋าออกสแตมฟอร์ด บริดจ์ไม่ได้เกี่ยวกับความพ่ายแพ้ที่ซาเกร็บซะทีเดียว ทุกอย่างมีการตัดสินใจก่อนหน้านี้เพียงแต่ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ เจ้าของคนใหม่รอจังหวะที่เหมาะสมกดปุ่มเท่านั้น
ถึงเปลี่ยนคนบริหารแต่เชลซีก็ยังคงเป็นเชลซีที่เรารู้จักกันมาตลอดสองทศวรรษ
ทูเคิ่ลเลยต้องไป...
"ไก่ป่า"