มาร์เซล แบรนด์ส ผอ. ฟุตบอลของ พีเอสวี ระบุ ถ้าได้ข้อเสนอที่ดีแล้วนั้นทีมของตนก็อาจจะยอมขาย โคดี้ กัคโป ในตลาดช่วงหน้าหนาวก็ได้ ซึ่งเป็นจุดยืนต่างกับก่อนหน้านี้ที่พวกเขายืนกรานว่าจะไม่มีทางปล่อยแข้งวัย 23 ปีในช่วงกลางซีซั่นแน่นอน
มาร์เซล แบรนด์ส ผู้อำนวยการฟุตบอลของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น กล่าวว่าทีมของตนอาจจะยอมขาย โคดี้ กัคโป ปีกตัวเก่งในตลาดการซื้อ-ขายนักเตะ รอบ 2 ช่วงเดือนมกราคมนี้ หากได้รับข้อเสนอที่เหมาะสม
กัคโป เริ่มฉายแววเด่นกับ พีเอสวี ตั้งแต่ฤดูกาล 2020-21 หลังทำได้ 11 ประตูจาก 29 นัดในทุกรายการ ก่อนที่ซีซั่นก่อนจะทำผลงานได้ดีขึ้นด้วยการทำไป 21 ประตูจากการลงสนามในทุกรายการ 47 นัด
ขณะที่ในฤดูกาลนี้ กัคโป ก็ยังโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงด้วยการทำได้ 13 ประตูจากการลงเล่น 24 เกมในทุกรายการ ส่วนใน ฟุตบอลโลก 2022 เขาก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่เล่นได้โดดเด่นที่สุดของ เนเธอร์แลนด์ จนทำได้ 3 ประตูด้วยกัน
ผลงานอันโดดเด่นของ กัคโป ทำให้เขาตกเป็นข่าวกับหลายทีมดังตลอดช่วงที่ผ่านมา อย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า เป็นต้น ซึ่งที่จริงก่อนหน้านี้ทุกฝ่ายของ พีเอสวี ยืนกรานว่าจะไม่มีทางปล่อยแข้งวัย 23 ปีกลางซีซั่นนี้ และจะยอมขายเขาตอนจบฤดูกาลเท่านั้น แต่ล่าสุด แบรนด์ส ยอมรับว่าอาจจะพร้อมแยกทางกับ กัคโป ในตลาดช่วงหน้าหนาวแล้ว
แบรนด์ส เผยว่า " คุณต้องมองโลกตามความเป็นจริงนะ เมื่อพิจารณาถึงค่าตัวของ โคดี้ กัคโป ในตอนนี้น่ะ มันก็อาจจะมีทีมในทวีปยุโรปสัก 10-12 ทีมที่มีเงินมากพอจะซื้อเขาในช่วงเดือนมกราคมนี้ได้ มันยังไม่มีการคุยเรื่องจำนวนน่ะนะ แต่ถ้ามีสโมสรที่ใช่ติดต่อเข้ามาแล้วล่ะก็ โคดี้ ก็อยากจะย้ายออกจากทีม นั่นเป็นข้อตกลงที่มีการทำกันตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเข้ามารับงานกับที่นี่แล้ว"
"ยังไงก็ตาม มันก็ต้องเป็นการย้ายทีมที่จะมีค่าตัวสูงเป็นสถิติของ พีเอสวี พอถึงตอนนั้นแล้วคุณก็จะได้รู้เองว่าสถานการณ์มันควรจะเป็นไปในทิศทางไหน ถ้าดูตามรายงานของสื่อแล้วน่ะมันเหมือนกับว่าทุกสโมสรกำลังต่อคิวขอซื้อเขา แต่ในความเป็นจริงแล้วเรายังไม่รู้เกี่ยวกับการให้ความสนใจในตัวเขาหรืออะไรทั้งนั้น มันเงียบมาก มาดูกันดีกว่าว่าจะมีทีมไหนที่จะจ่ายเงินก้อนโตในช่วงเดือนมกราคมรึเปล่า"
"ผมได้คุยกับ กัคโป แล้ว ตอนนี้เขากำลังอยู่ระหว่างการพักร้อนเป็นเวลา 10 วัน ถ้าตอนนี้มันกำลังมีบางอย่างเกิดขึ้นแล้วล่ะก็ มันก็อาจจะมีเพียง โคดี้ กับทีมงานของเราที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น เรายังไม่รู้อะไรเลย"