ทุกวันนี้นักฟุตบอลอาชีพแทบทุกคนจะต้องมีเอเจ้นต์มาทำงานร่วมกับตัวเอง เพื่อที่จะให้คนเหล่านั้นช่วยจัดการกับเรื่องต่างๆ แทน อย่างเช่นการเจรจาเรื่องสัญญา, การคุยกับสปอนเซอร์ ฯลฯ เพื่อที่ตัวพ่อค้าแข้งจะได้มีสมาธิกับการเล่นฟุตบอลอย่างเต็มที่
ด้วยเหตุนี้ เอเจ้นต์จึงถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีความสำคัญกับชีวิตนักฟุตบอลอย่างมาก ถ้าได้เอเจ้นต์ที่ดีแล้วนั้นมันก็จะช่วยทำให้พ่อค้าแข้งคนนั้นๆ มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง แต่ถ้าได้คนที่ไม่เก่งก็อาจจะถึงขั้นทำให้อาชีพการค้าแข้งพังทลายได้
ทั้งนี้ บ็อบบี้ ดันแคน แสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่ากรณีของเขามันเข้าข่ายหลัง เพราะหลังจากเคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจนได้รับการจับตามองจากหลายคนที่ ลิเวอร์พูล ปัจจุบันเขาแทบจะหายไปจากความทรงจำของหลายคนแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่าสาเหตุมันเป็นเพราะถูก ซาอิฟ รูบี้ อดีตนายหน้าของเขาชักจูงแบบผิดๆ
เกริ่นก่อนว่า ดันแคน มีศักดิ์เป็นญาติห่างๆ ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกองกลางของ ลิเวอร์พูล และทีมชาติอังกฤษ โดยเขาเลือกที่จะลุยโลกลูกหนังในตำแหน่งกองหน้า ซึ่งเขาก็เคยอยู่กับทีมเยาวชนของ วีแกน แอธเลติก ก่อนจะไปฝึกฝีเท้ากับอะคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2011
ดันแคน ฉายแววเด่นได้ตั้งแต่เด็กจนติดทีมเยาวชนแทบทุกชุดของ อังกฤษ, สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะคนแรกของ อังกฤษ ไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ตามที่ทำแฮตทริกใส่ บราซิล ได้ รวมถึงเคยซัดให้ทีมเยาวชนของ แมนฯ ซิตี้ มากถึง 66 ลูก
จนกระทั่งถึงปี 2018 ดันแคน ก็ได้ย้ายมาเข้าอะคาเดมี่ของ ลิเวอร์พูล ทีมที่ถือเป็นทีมรักในวัยเด็กของเขา และทีมที่ญาติของเขาอย่าง เจอร์ราร์ด เคยค้าแข้งด้วยเป็นเวลานาน ซึ่งค่าตัวในตอนนั้นของเขาอยู่ที่ 200,000 ปอนด์ด้วยกัน
ทั้งนี้ แค่ซีซั่น 2018-19 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกของเขากับทีมเยาวชนของ ลิเวอร์พูล นั้น ดันแคน ก็โชว์ผลงานสุดยอดด้วยการทำไป 25 ประตู จากการลงเล่นเกมระดับเยาวชนในทุกรายการ 36 นัด และนั่นก็ทำให้หลายคนคาดหวังว่า ดันแคน จะก้าวขึ้นมาสร้างชื่อกับทีมชุดใหญ่ของ "หงส์แดง" ได้เหมือนกับญาติของเขา
อย่างไรก็ตาม หลังจากอยู่กับ ลิเวอร์พูล ได้เพียง 1 ปี ดันแคน ก็ย้ายไปอยู่กับ ฟิออเรนติน่า ทีมดังในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ซึ่งตอนนั้นการย้ายทีมของเขามันเป็นดราม่าในระดับหนึ่ง หลังจากที่ รูบี้ กล่าวหา ลิเวอร์พูล ว่ารั้งตัวเจ้าหนูชาวอังกฤษเอาไว้ทั้งที่ ดันแคน อยากย้ายทีมใจจะขาด รวมถึงบอกด้วยว่า ลิเวอร์พูล กำลังทำให้ดาวรุ่งพุ่งแรงต้องมีสุขภาพจิตที่เลวร้ายจากการที่ตอนแรกทำท่าเหมือนกับว่าจะพร้อมปล่อยเขาแบบยืมตัว แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเป็นรั้งตัวเขาเอาไว้
"บ็อบบี้ ไม่ได้ออกจากห้องของเขาเป็นเวลาตั้ง 4 วันเพราะเรื่องนี้ และเขาจะไม่มีวันกลับไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล อีก ตอนนี้ผมแค่กังวลเกี่ยวกับสุขภาพจิตและสวัสดิภาพของเขา มันเป็นเรื่องน่าเศร้านะที่สโมสรระดับ ลิเวอร์พูล ไม่โดนลงโทษอะไรเลยกับการกลั่นแกล้งทางจิตใจแบบนี้ รวมถึงการทำลายชีวิตของเด็กหนุ่มอย่าง บ็อบบี้" นั่นคือส่วนหนึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ในตอนนั้นของ รูบี้
แน่นอน ลิเวอร์พูล ปฏิเสธเรื่องดังกล่าวในเวลาต่อมา พร้อมบอกว่าผิดหวังมากๆ กับคำกล่าวหาของ รูบี้ โดยตอนนั้นนอกจาก ฟิออเรนติน่า แล้วนั้น นอร์ดเชลลันด์ สโมสรในลีกเดนมาร์กก็แอบเหล่ ดันแคน อยู่เช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้ว ลิเวอร์พูล ก็จำใจปล่อย ดันแคน ไปอยู่กับ ฟิออเรนติน่า ด้วยค่าตัวที่เชื่อกันว่าอยู่ที่ 2 ล้านยูโร พร้อมกับมีเงื่อนไขที่ ลิเวอร์พูล จะได้ส่วนแบ่ง 20 เปอร์เซ็นต์ถ้าหาก "ม่วงมหากาฬ" ขายเขาให้กับทีมอื่น
นั่นถือเป็นการยุติโปรเจ็กต์ตามรอยญาติที่หลายคนวาดฝันเอาไว้อย่างสิ้นเชิง ซ้ำร้าย ดันแคน ก็ไม่สามารถแจ้งเกิดกับ ฟิออเรนติน่า ได้ด้วย โดยถึงแม้เขาจะเคยทำผลงานได้ดีในช่วงแรกๆ แต่ฟอร์มของเขาก็ดร็อปลงไปจนสุดท้ายเขาก็ไม่สามารถขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ และโดนปล่อยไปอยู่กับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในช่วงเดือนกันยายน ปี 2020
ในเวลาต่อมา ดันแคน ก็หมดสัญญากับ "แกะเขาเหล็ก" อีก โดยเขาได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของที่นั่นแค่นัดเดียว ส่วนปัจจุบันเขากำลังเล่นกับ เรอัล บาลอมเปดิก้า ลิเนนเซ่ สโมสรในลีกระดับ 3 ของประเทศสเปน ซึ่งมันเพิ่งมีการเซ็นสัญญากันเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
สำหรับความสัมพันธ์กับ รูบี้ นั้น ดันแคน เลิกใช้เขาเป็นเอเยนต์ไปตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม ปี 2020 ซึ่งไม่นานมานี้ รูบี้ ออกมาพูดผ่านทางรายการวิทยุว่าที่จริงแล้วตนไม่เคยยุให้ ดันแคน ย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล แม้แต่นิดเดียว
"ผมเล่าบางอย่างเกี่ยวกับกรณีนี้ให้คุณฟังได้ไหม ? ที่จริงแล้วผมแนะนำให้เขาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ต่อไปนะ คุณต้องเข้าใจว่างานของผมคือการทำสิ่งที่ดีที่เพื่อใครก็ตามที่ขอให้ผมช่วยพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการย้ายทีมของนักตเะ, การซื้อสโมสร หรือการขายสโมสรก็ตาม ผมพยายามจะย้ำเรื่องนี้กับพวกคุณมาโดยตลอด"
"คุณจะเชื่อผมหรือไม่ก็ได้ แต่ตอนนั้นผมคิดว่าการให้เขาอยู่ทีมเดิม (กับ ลิเวอร์พูล) ต่อไปเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ท้ายที่สุดแล้วมันก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้น และท้ายที่สุดแล้วเราก็มีปัญหากับ ลิเวอร์พูล นิดหน่อย ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสุดๆ"
หลังจาก รูบี้ ออกมาพูดแบบนั้น ดันแคน ก็โกรธจนควันออกหู และออกมาตอบโต้บน ทวิตเตอร์ โดยกองหน้าวัย 21 ปีบอกว่าอีกฝ่ายโกหกกันหน้าด้านๆ พร้อมกับบอกด้วยว่าไม่น่าไว้เนื้อเชื่อใจคนอย่าง รูบี้ เลย
"แกกับฉันต่างก็รู้ดีว่าความจริงเป็นยังไง ฉันไม่ได้มีส่วนตัดสินใจหรือพูดอะไรทั้งนั้นในตอนที่แกทำให้อาชีพการเล่นของฉันต้องเสี่ยงที่จะพังทลายเป็นชิ้นๆ, ทำให้เด็กหนุ่มในย่านท้องถิ่นต้องย้ายออกจากทีมในวัยเด็กของเขา รวมถึงปล่อยให้ฉันกับครอบครัวของฉันต้องเก็บซากทุกอย่างกันเอง"
"ฉันไม่พูดประเด็นนี้มาตั้ง 4 ปี เพราะเป้าหมายหลักของฉันคือการกอบกู้อาชีพการเล่นของตัวเองให้กลับมาให้ได้ แต่นี่แกกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องถูกต้องที่จะอ้างอิงชื่อฉันตอนจัดรายการสดทางวิทยุเนี่ยนะ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมน่ะฉันจะเล่าความจริงทุกอย่างเอง ฉันไม่ควรจะฝากฝังอาชีพการเล่นของฉันเอาไว้กับแกเลย ฉันได้รับบทเรียนแบบเจ็บปวด แล้วฉันก็หวังว่าแกเองจะได้รับบทเรียนของแกเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นแกก็อาจจะทำลายอนาคตของเด็กหนุ่มคนอื่นๆ ไปด้วยก็ได้"
"อ้อ แล้วก็สุดท้ายนะ ต้องขอชี้แจงอะไรสักหน่อย แกไม่เคยให้คำแนะนำอะไรฉันเลย แกตัดสินใจไปตามความคิดของแกเอง และพอเป็นอย่างนั้นมันก็ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นมา"
แน่นอน เรายังไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนพูดความจริง ระหว่าง รูบี้ กับ ดันแคน แต่ถ้าเกิดคำกล่าวอ้างของ ดันแคน เป็นจริง นี่ก็ถือเป็นตัวอย่างที่ดีว่าคนเป็นนักเตะต้องมีความรอบคอบอย่างมากในการเลือกเอเจ้นต์ เพื่อที่จะได้มีอนาคตในวงการฟุตบอลที่สดใส
เด็กเกร็ดบอล