แชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่20! ลิเวอร์พูล ไล่ถลุง สเปอร์ส สร้างประวัติศาสตร์

แชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่20! ลิเวอร์พูล ไล่ถลุง สเปอร์ส สร้างประวัติศาสตร์
"ไม่มีใครคาดคิด" ว่า อาร์เน่อ สลอด จะพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์

จริงที่สุดครับ

ผู้สันทัดกรณ บีบีซี 33 คน

22 คนเลือก แมนฯซิตี้

11 คนเลือก  อาร์เซนอล 

0 คนเลือกลิเว่อพูล ( วอรนอค ให้ที่2)

ตัวผมเองและแฟนหงส์มากมาย คาดหวังแค่ "ไปช.ป.ล"

เล่นให้ดี รักษามาตรฐานของเจอร์เก้น คลอปป์ เอาไว้

ติดทอปทรี, ทอปโฟร์ คือเป้าหมายสูงสุดเมื่อพรีซีซั่น

แต่วันนี้ลิเวอร์พูลของ สลอด เป็นแชมป์สมัยที่20 

2 ชื่อพรีเมียร์ลีก 18 ดิวิชั่นหนึ่งเดิม

แถมยังคุมทีมปีแรกแล้วได้แชมป์

ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เขาทำได้ต่อจาก...

โชเซ มูรินโญ 2004-05

คาร์โล อันเชลอตติ 2009-10

มานูเอล เปเยกรินี 2013-14

อันโตนีโอ คอนเต้ 2016-17

แม้กระทั่งเป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังทำไม่ได้ในปีแรก

อะไรคือปัจจัยที่...อาร์เน่อ สลอด สร้างให้ทีมเป็นแชมป์

1 เขาคือ อาร์เน่อ สลอด ไม่ใช่ JK

เราไม่คาดหวังทายาทหรือตัวตายตัวแทน

หรือ  The Chosen One  คลอปป์ กับ สลอด คนละคนกัน

ดังนั้นเมื่อเขาเข้ามาทำงานย่อมมีแนวทางเป็นของตัวเอง

ถามว่าต่างมั้ย....

ก็ต่างอยู่นะครับ

ก่อนเกมในบ้าน JKให้นักเตะนอนรวมกันที่โรงแรม

สลอด บอกว่า "เตียงที่บ้าน นุ่มกว่าที่โรงแรม" 

นักเตะนอนบ้านใครบ้านมัน แค่มารวมตัวเช้าก่อนแข่ง

วันซ้อมรวมตัว 09.15 น.เพื่ออาหารเช้าด้วยกัน

JK มาซ้อมสายกว่านี้ 10.30-11.00 น. 

โปรแกรมการซ้อมของ สลอด นานกว่า JK

แต่ไม่เข้มข้นเท่า...เพื่อลดอาการบาดเจ็บ

ใช้โปรแกรม body wake-up 

รวมทั้งฝึกควบคุมลมหายใจก่อนซ้อมและก่อนแข่ง

รูเบน ปีเตอร์ส ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบโปรแกรมฝึกซ้อม

นำโปรแกรมซ้อมที่มีความเข้มข้นแบบหลากหลาย(periodisation)

ลดอาการบาดเจ็บ เพิ่มประสิทธิภาพนักฟุตบอล

ดร.โจนาธาน พาวเวอร์ เป็นผ.อ.ทีมแพทย์สโมสร

อมิต ปานนุ เป็นแพทย์ทีมชุดใหญ่

เขานำข้อมูลซีซั่น 2023-24 และ 2019-20 (ปีแชมป์)

มาวิเคราะห์แล้วบอกกับนักเตะว่า "คุณจะต้องทำอะไร"

ไม่ใช่ "คุณจะต้องซ้อมหนัก"

2 ปรับทีม JK 2.0 เพื่อแชมป์

เราพูดกันถึงมรดกที่ดีจากคลอปป์มันก็ใช่ 

แต่วิธีการทำงานของเขาตั้งแต่นอกจนถึงในสนามนั้นต่าง

ตัวผู้เล่นชุดเดิมที่ลุ้นแชมป์ก่อนหลุดกลางเดือนเม.ย.

แต่การเข้ามาปรับ มาดัด มาบิด บางแทกติก ก่อให้เกิดผลเช่นนั้น

เหมือนซื้อ ไรอัน กราเฟนแบร์ก  แทน ซูบิเมนดี้

กับการถอยจากเบอร์8 มาเป็นเบอร์6 ในวัย 22 ปี

กราฟ...แทบไม่ได้เล่นบอลครบ90 นาทีแบบเต็มๆซีซั่น

ทั้งที่บาเยิร์น มิวนิคและปีแรกกับ JK

กับ สลอด เขาคือห้องเครื่องของทีม...

ดังนั้นไม่แปลกหาก...เขาจะอ่อนล้าช่วงหลังๆ

นี้คือการบิดแทกติกที่ต่างจาก JK ชัดเจน

กราเฟนแบร์ก ไม่แค่ตัดเกม คุมพื้นที่ สอดซ้อน

หากแต่ยังสามารถพลิกเกม ทะลุทะลวงไปข้างหน้า

เขาทำได้สองแบบ...อย่างยอดเยี่ยมใน20 เกมแรก

นอกจากบิดตำแหน่งนักเตะ...เขายังปรับระบบ

จาก4-3-3 มาเป็น 4-2-3-1 อย่างที่แฟนเรียกร้อง

มิดฟิลด์เบอร์6 คู่ แมกก้า-กราฟ มีเบอร์10 คือโซโบ

หรือ เคอร์ติส โจนส์ ที่เล่นได้ทั้ง 8 และ 10 

เพรสดุดันน้อยลง....เล่นเกมแน่นอนขึ้น

โจมตีเมื่อมีจังหวะเป็นใจ ต้องแม่นและทำได้

3-4 พาสเป็นประตู ไม่ต้องเสียเวลากับบอลนาน

โม ซาลาห์ คือความต่าง 27 ประตู 18 แอสซิสต์ (33นัด)

เทียบซีซั่นสุดท้ายJK 18 ประตู 10 แอสซิสต์ ชัดเลย

ซาลาห์มีอิสระ มากขึ้น และแทบไม่ต้องคิดถึงเกมรับ

สิ่งที่แตกต่างชัดๆคือ "แอสซิสต์" แจ่มๆของ โม มากขึ้น

บทบาทของ เทร้นต์ กลับมาเป็น "ฟูลแบ๊ก" ปกติ

มีอินเวิร์ตแดนกลางบางเกม 

แต่จุดเด่นในการวางบอลยาว สวิทช์ ข้ามฟากเหมือนเดิม

เคยเป็นเบอร์10 นัดแพ้ฟอเรสต์ ซึ่ง สลอด บอกไม่ทำอีกแล้ว

3 ปรับแคแรกเตอร์

ลิเวอร์พูลชุดนี้ บุกไม่สนุกและมันเท่า JK

แต่เป็นชุดที่ยากที่คู่แข่งจะเอาชนะหรือโจมตีพวกเขาได้ง่าย

ความดุดันลดลงไป ความแน่นอนมีมากขึ้น

หรืออาจจะบอกว่าเล่นเพื่อชนะมากขึ้น

ชนะในเกมที่ต้องชนะ

ทีมสลอดสามารถชนะในเกมยาก

ชนะในเกมที่ตัวเองเล่นแย่

ชนะในเกมที่คู่แข่งต้านทานสุดกำลัง

พวกเขาทำได้ขณะที่คู่แข่งทำไม่ได้

นี่คือแคแรกเตอร์ ที่ชัดเจนใน30เกม

ผลคือแพ้แค่1 นัดก่อนหลุดนัดที่ 31 

กระนั้นก็ไม่มีการชนะแบบเข้าเบรกเหมือน JK

เต็มที่ของ สลอด คือชนะรวด4 นัดเท่านั้น

4 แมนฯซิตี้ และ อาร์เซนอล ไม่มา

อีกหนึ่งปัจจัยในขณะที่หงส์แดงชนะ เรือและปืน กลับพลาด

แชมป์เก่าทำแต้มตกหล่นมากมาย จนหล่นออกนอกพื้นที่

อาร์เซนอล ทำท่าว่าจะเบียดได้แต่ก็ทำแต้มหล่นในเกมที่จำเป็น

จึงไม่สามารถลดช่องว่างได้ใกล้กว่า 5 แต้ม

ถือว่าเป็นแรงบวกที่ทำให้เด็กหงส์รักษา "จ่าฝูง" ยาวๆ

คือขึ้น "จ่าฝูง" ครั้งแรกนัดที่ 6 แล้วเสียตำแหน่งนัดที่9

พอนัดที่10 วันที่ 2 พ.ย. ทีมชนะไบรท์ตัน 2-1 

นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้...พวกเขาก็ยืนยาวมาต่อเนื่อง5 เดือนเต็ม

จนเข้าป้ายคว้าแชมป์ในที่สุด

5 สลอด อ่อนนอกแข็งใน

คนที่เล่าเรื่องนี้ดีสุดคือ ซานเดอร์ เวสเตอร์เฟลด์

GK ชุด3 แชมป์2001 ศิษย์เก่า เชราร์ อุลลิเยร์

ซานเดอร์ คือเพื่อนซี้และอดีตเพื่อนร่วมทีม สลอด 

ซานเดอร์ กับ สลอด เล่นด้วยกันที่สปาร์ทา รอตเตอร์ดัม

สลอด กัปตันทีม ซานเดอร์ ย้ายไปจากหงส์แดงพอดี

แต่ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน เล่นกอล์ฟด้วยกันบ่อยๆ

พอ สลอด ย้ายมาคุมลิเวอร์พูล เขาเจอกันในอีกบทบาท

ซานเดอร์ มาสนามซ้อมและดูหงส์เล่นในแอนฟิลด์ 

รวมทั้งช่องยูทูป ที่ได้พูดคุยกันอย่างเจาะลึกขึ้น

ซานเดอร์ บอกว่า "อาร์เน่อ เป็นคนไม่กดดันตัวเอง"

อะไรที่เป็นความกังวล ความเครียด เขาควบคุมได้

ไม่หลงระเริงหรือเห่อเหิมกับผลงานตัวเอง

ช่วงชนะ 11 ใน12 เกมนั้น เขานิ่งมาก 

เขาไม่ตกใจเมื่อแพ้เปแอสเช ตกรอบและไม่ได้แชมป์คาราบาว

เขากลับมาตั้งหลักได้ตามปกติ

แม้เราเห็นเขาโกรธผู้ตัดสินนัดเสมอเอฟเวอร์ตัน 2-2 

โดนใบแดง....แต่พอเขามองเห็น ซานเดอร์ เขายิ้มทันที

เขากระตุกตัวเองได้เร็ว....ไม่ปล่อยให้ไหลไปตามกระแส

นอกจากนี้การมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองและวัฒนธรรม

สิ่งที่ อาร์เน่อ ทำก่อนคือ "หาเพื่อน" เริ่มจากในสโมสร

เขาแนะนำตัวเองกับพนักงานทุกคนที่เคิร์กบี้ (สนามซ้อมหงส์)

สำคัญสุดๆคือเขาเป็นเพื่อนกับ ไอแซก เคียร์นี

แฟนหงส์วัย7 ขวบที่เป็นโรค Wolf-Hirschhorn 

เป็นโรคที่มีพัฒนาการช้ากว่าวัยทั้งร่างกายและจิตใจ

สโมสรลิเวอร์พูลเชิญ ไอแซก และครอบครัวมาสนามซ้อม

พ่ออลัน แม่ เมลิสซา พี่สาว ฟลอเร้นส์ เพื่อใกล้ชิดกับทีม

แต่ไม่รับปากว่าจะเจอ อาร์เน่อ เพราะประชุมกับ โมและ ฟานไดจ์

พอ ไอแซก ผ่านห้องนั้น เขาตะโกนผ่านหน้าต่างเรียกชื่อ...

"อาร์เน่อ" เท่านั้นเองที่ สลอด ออกมาเจอ ไอแซก

จากนั้นครอบครัวนั่งทานมื้อกลางวัน สลอด มาหาทันที

ก่อนถามไอแซก ว่าโอเค มั้ย ไอแซก บอกอยากเจอ เทร้นต์

สลอด รับปากพาไปหา เทร้นต์ ทันที 

ก่อนเตะเซาธ์แฮมป์ตันในบ้าน เขาเอ่ยชื่อ ไอแซกที่ห้องแถลงข่าว

ช่วงที่โดนแบน เขาถูกถามว่าจะทำตัวยังไง

สลอด บอกว่า...จะนั่งใกล้กับเพื่อนของเขาชื่อ ไอแซก

ผมเคยได้ข้อมูลจาก เคน บรุนนิ่ง ชาวดัชท์ 

คืออดีตผู้สื่อข่าวพิเศษสยามสปอร์ตประจำ เนเธอร์แลนด์

เคน บอกว่า อาร์เน่อ "สุภาพ ฉลาดในการตอบคำถามนักข่าว"

แม้แต่คู่แข่งยังชอบเขาเลย....สีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา

กระนั้น....สิ่งที่เราได้มองเห็นจากภายในนั่นคือความแข็งกร้าว

การตัดชื่อ ดาร์วิน นูนเยส เกมที่พบกับเวสต์ แฮม 

หลังจากมีปัญหากับสตาฟโค้ช รวมทั้งไม่ให้โอกาสลงสนาม

ซึ่ง สลอด บอกว่า "ไม่เกี่ยวกับโบนัส 5 ล้านปอนด์" 

เอนโด้, เคียซ่า ถูกเรียกร้องจากแฟนๆ แต่ สลอด นิ่งเฉย

เขามีแนวทางของตัวเอง ยึดมั่นและเดินตามนั้น

อันเป็นบุคลิกที่แตกต่างจาก JK ที่ใจดีกว่า แม้ข้างนอกดุดัน

เหล่านี้คือปัจจัยส่งเสริมให้ สลอด คว้าแชมป์PL กับลิเวอร์พูล

ทั้งที่พึ่งคุมทีมเป็นปีแรก.....

ผลงาน....ชิ้นโบแดงนี้คงไม่มีใครด้อยค่าฝีมือของเขา

ผมเองก็ไม่คิดว่าเราจะหาเหตุผลอะไรมาลดคุณค่า อาร์เน่อ

ในเมื่อก่อนเปิดซีซั่น ก็ไม่มีแมวสักตัว แม้แต่ผมเอง

คิดว่า....อาร์เน่อ สลอด จะพาทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์

ซึ่งมันเกิดขึ้นแล้วกับแชมป์ที่ 20 

เมื่อนับถ้วยแชมป์เมเจอร์ ที่แข่งขัน (ไม่ร่วมโล่ห์การกุศล)

จำนวน 52 ใบจาก 1 สโมสรโลก, 4 ซุปเปอร์ คัพ, 3 ยูฟา

6 ช.ป.ล,10 ลีก คัพ,8 เอฟเอ คัพ, 20 ลีกสูงสุด......

ใช่ครับ...ณ จุดนี้ หงส์แดงคือเบอร์1 ของอังกฤษตัวจริง

มันเกิดขึ้นในยุคสมัยของ อาร์เน่อ สลอด

ว่าแล้วก็ขอบคุณเป็นภาษาดัชท์ ซะเลย

Dankjewel Arne (ดังคีเวล อาร์เน่อ)

ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport