บอร์นมัธ vs แมนยู : 5 ประเด็นผีแดงเฉียดตาย ฮอยลุนด์ ซัดช่วยทีมก่อนฟัด บิลเบา

 บอร์นมัธ vs แมนยู : 5 ประเด็นผีแดงเฉียดตาย ฮอยลุนด์ ซัดช่วยทีมก่อนฟัด บิลเบา
สรุป 5 ประเด็นเด็ดเกม บอร์นมัธ เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา "ผีแดง" รอดตายช่วงทดเจ็บจากประตูของ ราสมุส ฮอยลุนด์ หลังเจ้าถิ่นเหลือสิบคน ก่อนเตรียมบุกดวล แอธเลติก บิลเบา ในยูโรปา ลีก รอบรองฯ

1. เจ้าถิ่นคงโผชุดเดิมปราบผี

อันโดนี่ อิราโอล่า ผู้จัดการทีม บอร์นมัธ ไม่มีการปรับโผนักเตะ 11 คนแรกจากเกมลีกนัดล่าสุดที่พวกเขาบุกไปเสมอกับ คริสตัล พาเลซ แบบไร้สกอร์

เดอะ เชอร์รีส์ ลงเล่นเกมนี้โดยที่ยังไม่มี หลุยส์ ซินิสเทอร์ร่า ที่บาดเจ็บ แต่ขณะเดียวกันพวกเขาได้ ลูอิส คุ๊ก ฟิตกลับมานั่งนอที่ข้างสนาม

สำหรับเกมนี้นับเป็นการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ 300 ของทีมเจ้าบ้านด้วย

2. ชอว์ ออกสตาร์ตเกมแรกรอบ 15 เดือน

แมนฯ ยูไนเต็ด ส่ง ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายกระดูกเปราะกล้บมาลงเล่นเกมลีกเป็นตัวจริงนัดแรกนับตั้งแต่หายหน้าไปนานจนแฟนบอลลืมเมื่อ 15 เดือนก่อน

นอกจาก ชอว์ ที่ลงเล่นเกมลีกนัดสุดท้ายให้ทีมเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ปีก่อนแล้ว รูเบน อโมริม เปลี่ยนนักเตะตัวจริงอีกสี่รายจากเกมลีกนัดแพ้ วูล์ฟส์ คารัง 1-0 โดย เลนี่ โยโร่ กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เป็นอีกสองกองหลังที่กลับมาลงบู๊เป็นตัวจริง

ด้าน บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีม และ กาเซมีโร่ กองกลางจอมเก๋าได้ออกสตาร์ตเกมนี้เช่นกัน

ต่อการจัดทัพดังกล่าวของเจ้านายชาวโปรตุกีสส่งผลให้ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ , คริสเตียน เอริคเซ่น , มานูเอล อูการ์เต้ , ไทเลอร์ เฟรดริคเซ่น และ แฮร์รี่ อามาสส์ ต้องหล่นไปเป็นตัวสำรอง ขณะที่ ดีโอโก้ ดาโลต์ บาดเจ็บไม่มีเอี่ยวในเกมนี้

สำหรับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลงเล่นเกมนี้เป็นนัดที่ 52 ของเขาจากทุกรายการในซีซั่นนี้ซึ่งเป็นสถิติที่มากที่สุดของนักเตะใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้เช่นกัน และเป็นรอง เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ แค่คนเดียวในห้าลีกใหญ่ของยุโรปเนื่องจากขุนพลทีม เรอัล มาดริด ลงสนามไปทั้งสิ้น 54 นัดในทุกรายการของซีซั่นนี้

3. ตรงกรอบเป็นตุง

ดวลกันมาได้ 23 นาที ผีแดง เสียประตูก่อนอีกจนได้โดย อองตวน เซเมนโย่ สบโอกาสตะบันให้ เดอะ เชอร์รีส์ สตาร์ตนำ 1-0

แน่นอนว่ามันฟ้องให้เห็นถึงเกมรับที่เปราะบางของ แมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากเป็นเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ 21 แล้วในซีซั่นนี้ที่พวกเขาเสียประตูให้ฝ่ายตรงข้ามก่อน แต่ขณะเดียวกันมันชี้ว่าเกมรุกของ เร้ด เดวิลส์ มีปัญหาหนักที่ไม่อาจสอยตาข่ายคู่แข่งได้มากพอกระทั่งภาระหนักต้องตกอยู่กับนักเตะในแดนหลัง

สำหรับ เซเมนโย่ หลังกระทุ้งให้ บอร์นมัธ สตาร์ตนำมีการเผยสถิติออกมาว่าดาวยิงทีมชาติ กาน่า เป็นนักเตะที่ได้ง้างยิงมากที่สุดในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้เนื่องจากเป็นครั้งที่ 117 ซึ่งสตาร์วัย 25 ปีได้สับไกพาทีมเจ้าบ้านออกนำ

พร้อมกันนี้ สถิติหลังจบครึ่งแรกระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เหนือกว่าทุกด้านทั้งการครองบอล 57.9%:42.1% และได้ยิง 7 ครั้งเข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่ บอร์นมัธ ได้ยิง 5 ครั้งเข้ากรอบครั้งเดียวซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงปัญหาในการคลำเป้าของอาคันตุกะที่ อโมริม ยังแก้ไม่ตก

4. วีเออาร์จุดเปลี่ยน

น่าคิดไม่ใช่เล่นว่าหาก บอร์นมัธ ไม่มีนักเตะโดนไล่ออก แมนฯ ยูไนเต็ด จะอาศัยความได้เปรียบในด้านกำลังพลบุกกดดันเจ้าบ้านจนแบ่งแต้มไปได้ในช่วงทดเวลาหรือไม่

แต่จะอย่างไรก็ตาม ต้องถือว่าใบแดงของ เอวานิลสัน ที่เข้าปะทะใส่ นุสแซร์ มาซราวี เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของเกมหลังจากท่านเปาออกไปเช็กวีเออาร์ และเปลี่ยนคำตัดสินโดยหันมาแจกใบแดงแทนใบเหลืองให้สตาร์ทีมเจ้าบ้านในนาทีที่ 70 ซึ่งส่งผลให้ทีมของ อิราโอล่า ตกเป็นฝ่ายตั้งรับอย่างหนักนับจากนั้น

จนในที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูที่ต้องการหลังผ่านการทดเวลาไปนานหกนาทีจากทั้งหมดเก้านาทีโดย ราสมุส ฮอยลุนด์ ซัดประตูตีเสมอให้ทีมเยือนรอดพ้นจากความอับอายขายหน้าไปได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

และที่สำคัญ เกมนี้ทีมของ อโมริม หาโอกาสส่องยิงได้มากถึง 25 ครั้งซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดของพวกเขาในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้แม้จะส่งบอลเข้ากรอบได้แค่ 6 ครั้ง ขณะที่ บอร์นมัธ ได้ยิง 8 ครั้ง และเข้ากรอบครั้งเดียวโดย ผีแดง ครองบอลได้เหนือกว่า 61.1%:38.9%

5. บิลเบาลูบปากรอ?

หลังบุกมาเสมอกับ เดอะ เชอร์รีส์ ผีแดง ยังสานต่อผลงานที่เลวร้ายไม่เลิกเนื่องจากพวกเขาชนะได้แค่หนเดียวในเกมเยือนของ พรีเมียร์ลีก 22 นัดหากเป็นฝ่ายตามหลังเจ้าบ้านก่อนในครึ่งแรก (เสมอ 5 แพ้ 16)

และจากฟอร์มล่าสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนี้น่าจะทำให้ขุนพลของ แอธเลติก บิลเบา อุ่นใจกันไม่น้อยเนื่องจากลูกทีมของ อโมริม ไม่มีเลยสักคนที่สามารถร่ายเพลงแข้งได้อย่างน่าเกรงขามก่อนที่ทั้งสองทีมจะพะบู๊กันในเกม ยูโรปา ลีก รอบตัดเชือกนัดแรกวันพฤหัสบดีนี้

แม้เกมบุกมาเยือนสนาม ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม นายใหญ่ชาวโปรตุกีสจะหันมาส่ง แฟร์นันด์ส กับ แม็กไกวร์ สองนักเตะตัวหลักลงเล่นเป็น 11 คนแรก แต่ฟอร์มของ ผีแดง ไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันโดยเฉพาะกัปตันคนเก่งซึ่งเป็นตัวแบกทีมมาตลอดไม่อาจเนรมิตชัยชนะให้ทีมได้ในการดวลกับ เดอะ เขอร์รีส์ ซึ่งเหลือนักเตะแค่สิบคนในช่วง 20 นาทีสุดท้าย

มองดูแล้วเกมบุกไปเยือนทีมอันดับสี่ของ ลา ลีกา กลางสัปดาห์นี้จะเป็นโจทย์ที่ยากที่สุดเกมหนึ่งในซีซั่นนี้ของ อโมริม หลังจากเขาคุมทีม ผีแดง โชว์ฟอร์มได้อย่างเลวร้ายที่สุดนัดหนึ่งเช่นกันในเกมเจ๊ากับ บอร์นมัธ

ถึงขนาดที่ว่า แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ คอมเมนเตเตอร์ของเกมระบุว่า ผีแดง ชุดนี้ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เขาเกิด ขณะที่ แกรี่ เนวิลล์ อดีตกองหลัง เร้ด เดวิลส์ เองก็อดไม่ได้ที่จะชี้ว่าอดีตสโมสรเปรียบเหมือนสุสานของทั้งนักเตะและผู้จัดการทีมเพราะไม่ว่าใครย้ายมาล้วนเอาชื่อมาทิ้งกับ โรงละครแห่งความฝัน ด้วยกันทั้งนั้น

ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport