อาร์เซน่อล พยายามดิ้นเฮือกสุดท้าย แต่ก็ทำได้แค่เสมอ คริสตัล พาเลซ ในบ้านตัวเอง และต่อไปคือสิ่งที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมอยากจะบอก
1. พวกพรี่ๆ สตาร์ทรถแห่แล้วประกาศศักดาแห่งแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 'ยี่หมิบ' ล่วงหน้าได้เลยแบบไม่ต้องกลัวเสียหมา !!!
เพราะต่อให้ 'ไอ้ปืนโต' อาร์เซนอล ชนะอีก 4 นัดที่เหลือ ก็จะมี 79 แต้ม เท่า ลิเวอร์พูล ณ ตอนนี้ที่ยังเหลือ 5 นัด แถมผลต่างประตูได้เสียเป็นรองถึง 10 ประตู
ต่อให้แพ้ทุกนัดก็ยังน่าจะได้แชมป์อยู่ดี 5555
2.มิเกล อาร์เตต้า อุตส่าห์จัดทีมชุดที่เจ๋งที่สุดเท่าที่มีอยู่ในมือ โดยปราศจากเพียงแค่ มิเกล เมริโน่ กับ บูกาโย่ ซาก้า แต่กลับเล่นกันเกร็งๆ ชอบกล เพราะแพ้ไม่ได้นี่แหละ
กลับกัน คริสตัล พาเลซ ซึ่งมีเกมสำคัญรออยู่ในวันเสาร์นี้ (เอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก พบ แอสตัน วิลล่า) ทว่าเล่นแบบไร้แรงกดดันใดๆ แบบไม่มีอะไรจะเสีย
ทีมหนึ่งตึงเครียด ทีมหนึ่งสบายๆ แบบสัมผัสได้เลย
3. แม้เจ้าบ้านจะครองบอลบุกมากกว่า แต่เป็นการบุกแบบอึดๆ อัดๆ หาจังหวะยิงแบบเหน่งๆ ไม่ค่อยเจอ ส่วน 2 ประตูที่ได้ก็มาจากลูกตั้งเตะ และยิงไปแฉลบคู่แข่งเปลี่ยนทางเข้าประตู
บทจะเสียประตูก็เสียง่ายๆ เฉพาะอย่างยิ่งประตูที่ถูกตีเสมอเป็น 2-2 มาจากความผิดพลาดของตัวเอง
เมื่อ วิลเลี่ยม ซาลิบา จ่ายบอลพลาดในจังหวะเซ็ตเกมหน้ากรอบเขตโทษตัวเอง จุดหนึ่งเพราะ มาร์ติน โอเดการ์ด ดันลงมาล้วงบอลใกล้ตัวกันเกินไปจนถูกคู่แข่งฉกไปยิงซะอย่างนั้น
4. สำหรับ 2 ประตูที่ คริสตัล พาเลซ ทำได้ ต้องขอใช้คำว่า 'เหลือแดกส์' นะครับ
ประตูแรกจากลูกสูตรเตะมุมที่เปิดย้อนมาหน้ากรอบเขตโทษ แล้ว เอเบเรชี่ เอเซ่ เอี้ยวตัวฟาดบอลกลางอากาศตูมเดียวลูกกระเด้งพื้นเข้าไปตุงตาข่าย
ประตูที่ 2 จากจังหวะจ่ายบอลพลาดของ วิลเลี่ยม ซาลิบา ที่ดันมาเข้าทางตีนกองหน้าตัวสำรองอย่าง ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า แล้วชิพข้ามมือนายทวารเช็ดคานเข้าไปอย่างเหนือชั้นดีนักแล
ขอบอกว่ามันสวยลากไส้ทั้ง 2 ประตู
และมันงดงามถึงขนาดที่ 'มิส แกรนด์ ไทยแลนด์' ทุกรุ่นต้องอุทานออกมาพร้อมกันว่า...เชี่ยนะคะ
5. นาทีนี้เหลือเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะหยุด ลิเวอร์พูล ไม่ให้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2024/25
นั่นคือภาวนาให้อุกาบาตขนาดใหญ่เท่ากรุงลอนดอนพุ่งชนโลกเหมือนในหนังภัยพิบัติเรื่องนั้น
Armageddon - วันโลกาวินาศ !!!