เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือ เชลซี ย้ำชัดไม่ว่าฤดูกาลนี้จะจบที่อันดับใด ก็ยังนับว่า “ประสบความสำเร็จ” หลังบุกแซงชนะ ฟูแล่ม ในเกม พรีเมียร์ลีก ดาร์บี้แมตช์ พร้อมยอมรับว่าต้องการให้ช่วงเวลาฉลองชัยหลังจบเกมเป็นของนักเตะกับแฟนบอล แม้เจ้าตัวจะมีประเด็นดราม่ากับกองเชียร์บางส่วนก่อนหน้านี้
เอ็นโซ่ มาเรสก้า ผู้จัดการทีม เชลซี ยืนกรานว่าสำหรับตนนี่ถือเป็นฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จของ "สิงห์บลูส์" ต่อให้สุดท้ายจะไม่ได้โควตาไปเล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้าก็ตาม
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา เชลซี เพิ่งบุกไปแซงชนะ ฟูแล่ม 2-1 ในเกม ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ จากประตูของ ไทริค จอร์จ ในนาทีที่ 83 กับ เปโดร เนโต้ ในช่วงทดเวลานาทีที่ 3 หลังจากโดนเจ้าถิ่นนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 20 ทำให้ตอนนี้พวกเขามีเพิ่มเป็น 57 คะแนนจากการลงเล่น 33 นัด และอยู่ในอันดับ 5 ของตารางคะแนน ซึ่งซีซั่นนี้ทีมในอันดับ 5 ของ พรีเมียร์ลีก จะได้ไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2025-26 ด้วย
มาเรสก้า เผยว่า "ส่วนตัวแล้วประตูของ เปรโดร มันไม่ได้เปลี่ยนมุมมองของผมเกี่ยวกับฤดูกาลนี้แม้แต่นิดเดียว ที่จริงเมื่อ 3 หรือ 4 วันก่อนผมเคยพูดแบบนี้ไปแล้ว และวันนี้ผมขอย้ำอีกครั้งว่าในช่วง 2 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ เชลซี ไม่เคยได้อยู่ในพื้นที่ที่ได้ลุ้นโควตา แชมเปี้ยนส์ ลีก เลย แต่ฤดูกาลนี้เราอยู่ในกลุ่มนั้นมาตลอดทั้งฤดูกาล"
"ดังนั้นชัยชนะในวันจนี้เลยไม่ได้เปลี่ยนมุมมองของผมเลย นั่นคือแค่จนถึงตอนนี้นี่ก็นับเป็นฤดูกาลที่ดีแล้ว แต่ก็แน่นอนว่ามันจะถึงขั้นดีมากๆ ถ้าเราจบด้วยการติดอันดับในกลุ่มที่จะได้เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก และไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นชัยชนะที่ล้ำค่ามากๆ เพราะอย่างแรกเลยนั้นนี่เป็นดาร์บี้แมตช์ ส่วนประการที่สองก็คือมันทำให้เรามีโอกาสติดอยู่ในโควตา แชมเปี้ยนส์ ลีก แถมนี่อาจจะเป็นเกมที่เอาชนะได้ยากที่สุดด้วย เพราะคู่แข่งในพื้นที่ลุ้นโควตา แชมเปี้ยนส์ ลีก ของเราต่างก็ลงเล่นไปก่อนเราตั้งแต่เมื่อวานนี้ ดังนั้นนี่เลยเป็นเกมที่เราต้องเอาชนะให้ได้สถานเดียว"
กุนซือชาวอิตาเลียนบอกด้วยว่าที่ไม่ได้ไปฉลองชัยชนะร่วมกับนักเตะและแฟนบอลในช่วงหลังจบเกมและตรงดิ่งเข้าอุโมงค์ไปเลยนั้น เป็นเพราะมองว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหล่าพ่อค้าแข้งควรจะได้เฮฮากับกองเชียร์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ มาเรสก้า มีปัญหากับกองเชียร์ เชลซี ในระดับหนึ่งในช่วงหลายวันที่ผ่านมา "ผมมีความสุขกับชัยชนะนัดนี้มากๆ เลยนะ มันรู้สึกดีอยู่แล้วเมื่อคุณชนะในช่วงท้ายเกมได้ แต่ผมคิดว่ามัน (การฉลองหลังจบเกม) เป็นช่วงเวลาของนักเตะ เพราะพวกเขาสมควรได้แบ่งปันมันร่วมกับแฟนบอล"
"นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมออกจากสนามทันที ที่จริงตอนที่ผมฉลองในจังหวะที่เราได้ประตูที่ 2 ผมก็โดนใบเหลืองด้วย แต่แน่นอนว่าผมคิดว่ามันเป็นเรื่องดีสำหรับทั้งนักเตะและแฟนบอลที่ได้แบ่งปันช่วงเวลาแบบนั้นร่วมกัน มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และก็เหมือนกับที่ผมบอกไปตั้งหลายครั้งก่อนหน้านี้ว่าบรรดานักเตะจำเป็นต้องสัมผัสได้ถึงการสนับสนุน (จากแฟนบอล)"