การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและอนาคตของ "ร็อบโบ้"

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและอนาคตของ "ร็อบโบ้"
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เผชิญกับคำวิจารณ์ต่อฟอร์มการเล่นของเขาในฤดูกาลนี้ และตอกย้ำเกมล่าสุดกับ ฟูแล่ม ซึ่งสถานการณ์แบ็กซ้าย ลิเวอร์พูล รายนี้ อาจกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง

ที่ คราเวน ค็อตเทจ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน พยายามอย่างเต็มที่เพื่อหวังไปแก้ตัวหลังส่งบอลขวางสนามให้ อเล็กซ์ อิโวบี้ แบบไร้เหตุผล

แต่กลับกลายเป็นทำให้เรื่องยิ่งแย่ลง เขาเข้าพรวดเข้าไปในกรอบเขตโทษ พยายามแย่งบอลกับ อันเดรส เปเรยร่า ทว่ากลับโหม่งส่งย้อนกลับไปหา อิโวบี้ จนดาวเตะไนจีเรีย หวดด้วยซ้ายแล้วบอลแฉลบเปลี่ยนทางผ่านมือ ควีวิน เคลเลเฮอร์

"ร็อบโบ้" ยกแขนขึ้นเพื่อแสดงยอมรับความผิดพลาด ซึ่งครึ่งหนึ่งของความรู้สึกนั้นคือตำหนิตัวเอง ส่วนอีกครึ่งอาจคร่ำครวญถึงความโชคร้ายที่เกิดขึ้น

แม้เขาไม่ใช่คนเดียวที่ก่อความผิดพลาด แต่คนที่ถูกวิจารณ์หนักที่สุดก็คือแบ็กซ้ายสกอตช์

ฟอร์มการเล่นของเขาในฤดูกาลที่ 8 กับ ลิเวอร์พูล ถูกเพ่งเล็งอย่างใกล้ชิด

หลังเกมชนะ แอสตัน วิลล่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน "ร็อบโบ้" พูดถึงสถานะที่ไม่คุ้นชิน รู้สึกเหมือนถูกมองข้าม และให้คำมั่นว่าจะพิสูจน์ให้คนที่สงสัยได้รับรู้ว่า พวกเขานั้นคิดผิด

ณ ตอนนั้น ตัวเขาเองรับรู้ได้ถึงตำแหน่งแบ็กซ้ายตัวจริง ลิเวอร์พูล เริ่มสั่นคลอน เมื่อเฮดโค้ชอาร์เน่อ หมุนเวียนการใช้งานกับ คอสตาส ซิมิกาส บ่อยครั้ง

สุดท้าย คนที่ได้ยึดครองเต็มตัวคือ โรเบิร์ตสัน และเป็นตัวจริงต่อเนื่องในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง 

อย่างไรก็ตาม เสียงเรียกร้องให้สโมสรเสริมแบ็กซ้ายคนใหม่ตอนช่วงซัมเมอร์ยังไม่เงียบหาย

คำวิจารณ์พุ่งเป้ามาเรื่อย ๆ จากจังหวะเสียจุดโทษในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน รวมถึงใบแดงที่ได้รับนัดเจอ ฟูแล่ม ที่ แอนฟิลด์ 

นอกจากนี้ ยังทำพลาดปล่อย จาค็อบ เมอร์ฟี่ โขกตั้งให้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กดประตูที่สอง เกม คาราบาว คัพ เมื่อเดือนก่อน

ตลอดทั้งฤดูกาล เขาทำได้เพียงแอสซิสต์เดียว จากการลงเล่น 41 นัดทุกรายการ และแอสซิสต์นั้นก็เกิดขึ้นบนเวที ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่ชนะ เรอัล มาดริด ตอนเดือนพฤศจิกายน 

ซึ่งแอสซิสต์ใน พรีเมียร์ลีก ครั้งสุดท้าย ต้องย้อนไปถึงเกมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 4 เมษายนปีที่แล้ว 

จากที่เคยทำได้ถึง 26 แอสซิสต์ในช่วงสองฤดูกาล 2021/22 และ 2022/23 แต่หลังจากนั้น เขาทำรวมกันได้เพียง 3 ครั้งบนช่วงเวลาเกือบสองฤดูกาล

ถึงกระนั้น การใช้สถิติเหล่านี้มาชี้ว่า โรเบิร์ตสัน หมดสภาพ อาจดูไม่เป็นธรรมต่อตัวเขาเอง

ยังมีหลายเกมที่เขาทำผลงานได้ดี แต่ไม่ได้เป็นที่พูดถึงมากเท่าไหร่ เช่น เกมเยือน แมนฯ ซิตี้ หรือเจอ เปแอสเช ที่ แอนฟิลด์

อีกประเด็นสำคัญคือตำแหน่งและบทบาทของ โรเบิร์ตสัน เปลี่ยนไปนับตั้งแต่ อาร์เน่อ เข้ามารับไม้ต่อจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ 

เขาได้บอลน้อยลงภายใต้ระบบของกุนซือดัตช์ โดย ลิเวอร์พูล หันไปให้กองกลางเป็นตัวสร้างสรรค์เกมมากขึ้น

นอกจากนี้ พื้นที่ที่เขามีส่วนร่วมในเกมก็เปลี่ยนไป "ร็อบโบ้" ได้บอลมากขึ้นในพื้นที่ "ฮาล์ฟสเปซ" (ช่องระหว่างกลางสนามกับริมเส้น) เพราะ อาร์เน่อ ต้องการให้แบ็กเติมในลักษณะ "อันเดอร์แลป" มากกว่าการเติมเกมชิดริมเส้น

ส่วนการที่แอสซิสต์น้อยลงนั้น หากดูจากค่า "expected assists" (xA) ก็จะเข้าใจมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา โรเบิร์ตสัน มักจะทำแอสซิสต์ได้มากกว่าค่าคาดการณ์จะเกิดแอสซิสต์ แต่แนวโน้มนี้เป็นในทิศทางตรงกันข้าม

ฤดูกาล 2017/18 ค่าแอสซิสต์ต่อ 90 นาที : 0.23 ค่า xA : 0.18

ฤดูกาล 2018/19 ค่าแอสซิสต์ต่อ 90 นาที : 0.31 ค่า xA : 0.20

ฤดูกาล 2019/20 ค่าแอสซิสต์ต่อ 90 นาที : 0.36 ค่า xA : 0.22

ฤดูกาล 2020/21 ค่าแอสซิสต์ต่อ 90 นาที : 0.19 ค่า xA : 0.17

ฤดูกาล 2021/22 ค่าแอสซิสต์ต่อ 90 นาที : 0.34 ค่า xA : 0.20

ฤดูกาล 2022/23 ค่าแอสซิสต์ต่อ 90 นาที : 0.27 ค่า xA : 0.21

ฤดูกาล 2023/24 ค่าแอสซิสต์ต่อ 90 นาที : 0.11 ค่า xA : 0.28

ฤดูกาล 2024/25 ค่าแอสซิสต์ต่อ 90 นาที : 0.01 ค่า xA : 0.18

สถานะความเป็นตำนานของ โรเบิร์ตสัน แอนฟิลด์นั้นมั่นคงมาเนิ่นนานแล้ว เขาคว้าแชมป์ทุกรายการกับทีม ตั้งแต่ถูกซื้อมาจาก ฮัลล์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวเพียง 8 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์ปี 2017 

เขากำลังจะลงเล่นครบ 350 นัดให้สโมสร และยังต้องรับภาระหนักกับทีมชาติ ดังนั้นจึงไม่แปลกหากบางช่วง เขาจะแสดงอาการล้าออกมา 

อย่างไรก็ดี ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องเสริมแบ็กซ้ายในช่วงซัมเมอร์ ทางออกที่เหมาะสมที่สุดคือปล่อย ซิมิกาส ออกไป แล้วดึงผู้เล่นที่อายุน้อยกว่าและมีศักยภาพสูงกว่ามาแทน

มิลอส เคอร์เคซ ของ บอร์นมัธ เป็นผู้เล่นที่ทีมแมวมองให้ความสนใจ โดยแข้งทีมชาติฮังการีวัย 21 ปี ตรงกับโปรไฟล์ที่ ลิเวอร์พูล ต้องการมากกว่า แอนโทนี่ โรบินสัน ของ ฟูแล่ม ที่จะอายุครบ 28 ปีเดือนสิงหาคม 

ส่วน ยอร์เรล ฮาโต้ จาก อาแจ็กซ์ วัย 19 ปีก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก

ด้วยสัญญาของ โรเบิร์ตสัน ที่กำลังจะเข้าสู่ปีสุดท้าย ฤดูกาลหน้าจึงอาจเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะช่วยให้ ลิเวอร์พูล ยังคงได้รับประโยชน์จากความเป็นผู้นำและประสบการณ์โชกโชนของเขา

แม้เกมที่ คราเว่น ค็อตเทจ จะเป็นวันที่ย่ำแย่สำหรับ โรเบิร์ตสัน แต่ก็อย่ามองข้ามภาพรวมใหญ่กว่านั้น 

ความพ่ายแพ้นัดแรกนอกบ้านภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่อ เป็นเพียงแค่ทำให้การคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ล่าช้าออกไปเท่านั้นเอง

HOSSALONSO


ที่มาของภาพ : getty image
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport