ลิเวอร์พูล เล่นแบบนี้คือสไตล์สำหรับการเป็นแชมป์ลีก

ฟอร์มการเล่นของ ดีโอโก้ โชต้า เฉพาะในครึ่งแรกอาจทำให้เขาถูกเปลี่ยนตัวออกตอนพักครึ่งได้เอาง่าย ๆ 

มันดูเหมือนเป็นอีกหนึ่งนัดที่น่าผิดหวังสำหรับเขา และส่อแววจะเจอกับช่วงเวลาอันเลวร้ายที่ไม่สามารถทำประตูได้เป็นนัดที่ 10 ติดต่อกัน

อย่างไรก็ตาม ภายใต้เงามืดที่ปกคลุม ความสามารถที่ซ่อนอยู่ในตัวก็คลายออกมา

ที่สุดแล้ว โชต้า แสดงให้เห็นถึงการเป็น -ตัวจบสกอร์-  ด้วยการทำประตูสุดสวย และประตูนั้นล้ำค่าต่อ ลิเวอร์พูล เอามาก ๆ

ยามที่แนวรุกรายอื่น ๆ เริ่มผลิตสกอร์กันยากขึ้น

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำประตูไม่ได้เป็นนัดที่ 5 จาก 6 เกมหลัง

หลุยส์ ดิอาซ ทำได้เพียงหนึ่งประตูนับตั้งแต่เดือนธันวาคม

ส่วน ดาร์วิน นูนเญซ ยิงได้แค่ 5 ประตูจากเกมลีกตลอดทั้งฤดูกาล

ฉะนั้นในฐานะเป็นกองหน้าที่จบสกอร์ได้ดีที่สุดในทีมตอนนี้ ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องดูแลให้ โชต้า ฟิตสมบูรณ์มากที่สุดในช่วงเวลานับถอยหลังสู่การเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก

จังหวะเลี้ยงบอลผ่านแนวรับ เอฟเวอร์ตัน แล้วซัดเรียดสุดเฉียบขาดนั้นยอดเยี่ยมเอามาก ๆ 

เมื่อไหร่ที่เขามั่นใจ ดาวยิงโปรตุกีส รายนี้จะเป็นภัยคุกคามต่อคู่แข่งแน่นอน

...

เกมนี้มันอาจจะแตกต่างไปอีกแบบ หาก เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ โดนไล่ออกตั้งแต่ต้น

มันเป็นการเข้าสกัดที่หนักและรุนแรง แล้วคนที่ถูกกระทำคือ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์

เคราะห์ดีของดาวเตะอาร์เจนไตน์ ที่ขานั้นไม่หัก และเคราะห์ดียิ่งกว่าคือไม่มีอาการบาดเจ็บอะไรที่รุนแรง

ผู้ตัดสินนามว่า แซม บาร์ร็อตต์ ควักใบเหลืองออกมาก่อนจังหวะแรก และคาดว่าเมื่อ พอล เทียร์นี่ย์ คนคุม วีเออาร์ ตรวจสอบแล้วอาจมีการเปลี่ยนเป็นใบแดง

แรงเข้าปะทะของ ทาร์คอฟสกี้ ที่พุ่งเข้าใส่ แม็คก้า ยิ่งกรอเทปวนไปวนมาดูนานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้จังหวะนี้ยิ่งรุนแรงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม

ผู้ตัดสินและทีมงาน วีเออาร์ ตัดสินใจยืนยันการตัดสินคำเดิม 

"ผมไม่อยากให้ความเห็นกับจังหวะนั้น เพราะหลายคนพูดถึงมันไปเรียบร้อยแล้ว"

"ขนาดคนที่ไม่ได้ชอบ ลิเวอร์พูล มากมายอะไรนักยังมองแบบชัดเจนเลยว่าคำตัดสินมันควรจะเป็นอย่างไร" 

"ผมแปลกใจกับคำตัดสินที่ออกมารึเปล่าน่ะเหรอ ? ก็ต้องบอกว่าไม่เลย"

คำพูดของเฮดโค้ชอาร์เน่อ กับการโดนถามถึงจังหวะดังกล่าว

การตัดสินครั้งนี้สร้างความงุนงงให้กับหลายฝ่าย 

ระหว่างเกม อาร์เน่อ และผู้เล่น ลิเวอร์พูล แสดงออกชัดเจนถึงความไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น 

นอกจากนี้ เกิดความฉงนต่อสถิติส่วนตัว ทาร์คอฟสกี้ มากขึ้นไปอีก เมื่อเขาเป็นนักเตะที่ได้รับใบเหลืองมากที่สุดโดยที่ไม่เคยถูกไล่ออกบนเวที พรีเมียร์ลีก

เอาเป็นว่า เอฟเวอร์ตัน ไม่ได้โชคดีที่ไม่เหลือ 10 ตัว

แต่เป็น แม็ค อัลลิสเตอร์ โชคดีกว่าต่างหากที่เขายังสามารถเล่นต่อได้...

...

เคอร์ติส โจนส์ กับบทบาทแบ็กขวา มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่

เขาเคยรับบทบาทนี้มาแล้วตอนสมัยยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ บนบอลถ้วย คาราบาว คัพ นัดเจอ เลสเตอร์ ซิตี้

การขาดหายไปของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ และ โจ โกเมซ ส่งผลให้ทางเลือกแบ็กขวามีข้อจำกัด

ท้ายสุด อาร์เน่อ ตัดสินใจเลือกใช้ โจนส์ แทนที่จะเป็น จาเรลล์ ควอนซาห์

แล้วผลที่ออกมาคือ โจนส์ สามารถเพิ่มมิติเกมรุกให้กับทีมได้

โจนส์ เล่นได้อย่างมั่นใจตามสไตล์ของเขา 

ตัวเลขความแม่นยำการผ่านบอลทะยานสูงถึง 94 เปอร์เซ็นต์ 

เขาช่วยสร้างเกมรุกจากตำแหน่งแบ็กขวาได้อย่างไหลลื่น และไม่ลังเลที่จะหุบมาเล่นข้างในเพื่อสร้างจำนวนคนให้ได้เปรียบตรงแดนกลาง

การเติมเกมรุกของเขาไม่ต่างจากตอนที่เขายืนเป็นกองกลางเลย

เขามักเติมขึ้นไปยังแดนหน้าเพื่อประสานกับ ซาลาห์ โดยเป็นการวิ่งสอดเข้าใน (underlap) เพื่อดึงแนวรับ เอฟเวอร์ตัน ออกจากตำแหน่ง และเปิดโอกาสให้ ซาลาห์ ได้บอลริมเส้นมากขึ้น

หลายครั้งที่ โจนส์ ขึ้นเติมเกมสูง แล้วยืนค้ำแนวรับเพื่อปะทะ วิตาลี มิโคเลนโก้ (แบ็กซ้าย) ซึ่งเป็นกลยุทธ์เพื่อให้ ซาลาห์ เล่นได้ง่ายขึ้น

...

ผู้เล่นแต่ละคนใช้พลังไปอย่างมหาศาลภายใต้เกมที่ปะทะกันอย่างเดือด และ อาร์เน่อ เองคงจะพอใจกับการคุมเกมได้ของลูกทีมในช่วงท้าย

ลิเวอร์พูล เกมนี้ทำได้ดีกับการทำให้เกมมันผ่อนคลายลงหลังจากได้ประตูขึ้นนำ

การเล่นด้วยความเยือกเย็นมากขึ้นเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของ ลิเวอร์พูล ภายใต้ อาร์เน่อ

ตลอดที่ผ่านมาในซีซั่นนี้ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ ลิเวอร์พูล อยู่เหนือกว่าทีมอื่นคือ การจัดการกับสถานการณ์ของผลการแข่งขันได้ดี

หนึ่งในไม่กี่เกมที่พวกเขาคุมเกมไม่ได้ คือเกมที่ กูดิสัน พาร์ค ซึ่งวันนั้น ทาร์คอฟสกี้ ทำประตูตีเสมอตอนนาที 90+8 

แต่เกมที่ แอนฟิลด์ หลังจาก โชต้า ทำสกอร์ขึ้นนำในนาที 57 ลิเวอร์พูล ยังครองบอลได้ต่อเนื่อง เคลื่อนบอลไปมาทั้งซ้ายทั้งขวา ให้ความสำคัญกับการครองเกมมากกว่าเดินหน้าบุกเต็มสูบ

ทั้งที่ฝ่ายโดนนำต้องตามล่าทวงประตู ทว่าช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายกลับไม่สามารถยิงตรงกรอบใส่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ได้เลย

ในเกมที่มีโอกาสดุเดือดถึงขั้นสุด ลิเวอร์พูล กลับสามารถเล่นได้อย่างเยือกเย็น 

นี่คือแนวทางการเล่นอันชัดเจนสำหรับทีมที่ต้องการจะก้าวไปเป็นแชมป์

#HOSSALONSO