เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
1.ถึงตอนนี้ โม ซาล่าห์ ยังไม่ต่อสัญญาใหม่กับ ลิเวอร์พูล จนเด็กหงส์จำนวนหนึ่งเริ่มทำใจกันแล้วว่าน่าจะไม่มีการต่อสัญญากันเกิดขึ้น และจบฤดูกาลนี้คงมีอันต้องแยกย้าย
แต่ที่น่าแปลกใจคือแล้วทำไมถึงไม่มีข่าวออกมาเลยว่าดาวเตะผู้นี้จะโยกตูดไปอยู่กับทีมไหน ในเมื่อสามารถเซ็นล่วงหน้ากับสโมสรใดก็ได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2025
2.ถ้ามองในมุมของเด็กหงส์
ด้วยฟอร์มการเล่น และผลงานอันโคตรสะเด่าของ 'บังโม' มันควรค่าต่อสัญญาใหม่เป็นอย่างยิ่ง
พี่แกเรียกเท่าไหร่ก็ประเคนให้ไปเถอะ ถือเป็นการปูนบำเหน็จไปในตัว
แต่เหมือน 'FSG' จะไม่ยอม เพราะถ้ายอมก็เท่ากับการทำลายเพดานค่าเหนื่อยของทีมตัวเองจนพังพินาศ
และเมื่อไหร่ก็ตามที่เพดานถูกทำลาย ขอให้ดูตัวอย่างจาก แมนยูไนเต็ด ได้เลยครับ 55555
3.ครั้นจะไปโทษ FSG ว่าใช้ธุรกิจนำฟุตบอลมากเกินไปก็คงไม่ถูกต้องนัก
โม ซาล่าห์ เองก็น่าจะคำนึงถึงความยั่งยืนของสโมสรตัวเองบ้างพลางยอมลดความเขี้ยวลง แล้วหาทางพบกันครึ่งทาง เพื่อหาจุดร่วมที่ลงตัว
ยกเว้นเสียแต่ว่าไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วจริงๆ
4. สมมุติว่ามีอันต้องแยกทางกันจริงๆ
ลองจินตนาการถึง ลิเวอร์พูล ที่ไม่มี โม ซาล่าห์ ดูนะครับ
ประสิทธิภาพในการทะลวงตาข่าย มันจะลดลงไปมากขนาดไหน
และประตูที่ควรจะได้ มันจะหายไปมากขนาดไหน
5.หากนับเฉพาะขุมกำลังชุดปัจจุบัน นักเตะที่เป็นตัวแทนในตำแหน่ง 'หน้าขวา' คือ เฟเดริโก้ เคียซ่า กับ ฮาวี่ย์ เอลเลียตต์
ระบบการเล่นสำคัญกว่าความสามารถส่วนบุคคลก็จริง แต่รับรองได้เช่นกันว่า 2 คนนี้คงอุดรอยโหว่ที่บังแกทิ้งเอาไว้ไม่มิดอย่างแน่นอน ขอบอก !!!
ชะรอยว่าต้องซื้อตัวใหม่มาทดแทนซะมากกว่า
ตัวอย่างเช่น บริยอง เอ็มโบโม่ ที่น่าจะเหมาะสมกับเครื่องนุ่งห่มหงส์แดงมิใช่น้อย
เรื่องมองผู้เล่นมาเสริมทัพอย่างถูกต้องและเหมาะสม ทีมงานหลังบ้านของ ลิเวอร์พูล เชี่ยวชาญอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม
ตราบใดที่สัญญายังเหลืออยู่ และเวลายังไม่หมด แถม โม ซาล่าห์ ก็ยังไม่ได้เซ็นล่วงหน้ากับทีมไหน
บางทีและบางที
หลังการฉลองแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 อย่างยิ่งใหญ่ อารมณ์และความรู้สึกของทั้ง 2 ฝ่ายอาจเปลี่ยนไปอีกแบบจนยอมเล่น 'ฟัคกิ้ง เลิฟ' กันอย่างเมามัน..ก็..เป็น..ได้