แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ทำให้แฟนบอลหัวเสียเมื่อบุกไปพิชิต เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมรองบ๊วยได้ตามความคาดหมาย 3-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค.โดยนอกจาก ราสมุส ฮอยลุนด์ กับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ จะนัดกันพังประตูได้หลังเท้าบอดมานาน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังฉายฟอร์มเด็ดได้อย่างต่อเนื่อง
1. จิ้งจอก มั่นใจใช้ทีมชุดเดิม
รุด ฟาน นิสเตลรอย กุนซือทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่มีการปรับโผนักเตะแม้เกมล่าสุด เดอะ ฟ๊อกซ์ จะบุกไปพ่าย เชลซี 1-0
อย่างไรก็ดี สุนันจิ้งจอก อยู่ในฟอร์มที่เสี่ยงต่อการตกชั้นเนื่องจากพวกเขาไม่อาจคว้าชัยชนะในเกมนัดเหย้าของศึก พรีเมียร์ลีก ได้เลยมานานเกินกว่าสามเดือนแล้ว
และในที่สุด หลังแพ้ ผีแดง คารัง 3-0 เดอะ ฟ็อกซ์ จึงเสียประตูในเกม พรีเมียร์ลีก มากถึง 1,001 ประตูแล้วซึ่งทำให้พวกเขาเป็นทีมแรกที่เสีย 1,000 ประตูในรายการดังกล่าวก่อนลงเล่นครบ 700 นัด (679นัด)
2. โอนาน่า เฝ้าเสา-เมาท์ นั่งสำรอง
อ็องเดร โอนาน่า นายทวารทีม แมนฯ ยูไนเต็ด มีชื่อลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงแม้จะมีข่าวเจ็บตาก่อนเกมจนอาจพลาดการลงสนามเทียบจากเกมล่าสุดในศึก ยูโรปา ลีก รูเบน อโมริม ปรับทัพสามรายโดย แพทริค ดอร์กู ติดโทษแบนเกมในประเทศเป็นนัดสุดท้าย และเป็น วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ได้ออกสตาร์ตเนื่องจาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ยังไม่หายเดี้ยง
ขณะเดียวกัน กาเซมีโร่ ถูกจัดให้พักหลังลงเล่นเป็นตัวจริงตลอดสามเกมหลัง และมีฟอร์มที่ดีโดย มานูเอล อูการ์เต้ กลับมาเสียบแทน
นอกจากนี้ โจชัว เซิร์กซี่ เสียตำแหน่งให้กับ คริสเตียน เอริคเซ่น ขณะที่ เมสัน เมาท์ ฟิตกลับมารับบทตัวสำรองได้
3. ฮอยลุนด์ กระทุ้งแล้ว
ในที่สุด ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าเกือกทื่อของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็สบโอกาสคลำเป้าจนได้ในเกมบู๊กับทีมรองบ๊วยหลังเป้าสะอาดมานาน 21 นัด
อย่างไรก็ดี หัวหอกทีมชาติ เดนมาร์ค ต้องขอบคุณ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ด้วยที่จ่ายบอลให้ทะลุไปสับไก และเป็นแอสซิสต์ที่แปดในเกม พรีเมียร์ลีก สามนัดหลังของกองกลางทีมชาติ โปรตุเกส
ยิ่งไปกว่านั้น สตาร์ชาวเมืองฝอยทองจัดแอสซิสต์ให้ ฮอยลุนด์ เป็นประตูที่สี่จากหกประตูหลังของเขาในเกม พรีเมียร์ลีก ด้วย
ฉะนั้นแล้ว ดาวยิงผมทองจึงยุติอาการเท้าบอดได้สำเร็จหลังเช็กบิลไม่ได้เลยนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ปี 2025 หรือนับตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. (7ธ.ค.หากนับเฉพาะเกม พรีเมียร์ลีก)
4. บรูโน่ ยิงก็ได้จ่ายก็ดี
เหมือนเป็นการนัดกับ ฮอยลุนด์ ยังไงยังงั้นเมื่อ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ปลดล็อกกระซวกประตูในเกมบู๊กับ เลสเตอร์ ได้เช่นกันหลังไร้สกอร์มานานนับตั้งแต่เขาซัดเม็ดสุดท้ายของตัวเองได้ในเกมปะทะกับ เดอะ ฟ๊อกซ์ เมื่อเดือนพ.ย.
แม้ดาวเตะทีมชาติ อาร์เจนติน่า จะถูกจับว่ายิงประตูได้แต่ล้ำหน้า ทว่าสุดท้ายเขาสบโอกาสส่งบอลตุงตาข่ายได้สำเร็จเช่นเดียวกับ ฮอยลุนด์ ก่อนโดนเปลี่ยนออกไปพัก
ขณะเดียวกันเป็น แฟร์นันด์ส อีกตามเคยที่มีส่วนกับประตูที่สองของ เร้ด เดวิลส์ ซึ่งทำให้กัปตัน ผีแดง แอสซิสต์ประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ครบ 50 ลูกแล้วโดยเขาเป็นนักเตะรายที่หกของทีมที่ทั้งยิงเกิน 50 ประตู และแอสซิสต์ได้ถึงหลัก 50 ประตูในรายการนี้ต่อจาก เวย์น รูนีย์ , ไรอัน กิ๊กส์ , พอล สโคลส์ , เอริค คันโตน่า และ เดวิด เบ็คแฮม
พร้อมกันนี้ หลังยิงเม็ดสามให้ทีม สตาร์ทีมชาติ โปรตุเกส สร้างชื่อมีส่วนกับการทำประตูในทุกรายการของซีซั่นนี้เป็น 31 เม็ดแล้ว (16ประตู 15 แอสซิสต์) เป็นรองนักเตะใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้สองรายคือ โม ซาลาห์ (54) และ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ (33)
แต่หากจะนับตั้งแต่ประเดิมสนามกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เดือนก.พ.2020 แฟร์นันด์ส แอสซิสต์ไปแล้ว 80 ประตูในทุกรายการแซงหน้า โธมัส มุลเลอร์ (79) โดยเป็นรอง เควิน เดอ บรอยน์ คนเดียวเท่านั้น (90) ในบรรดาพ่อค้าแข้งของห้าลีกใหญ่
5. ผีไม่แล้งดาวรุ่ง
แมนฯ ยูไนเต็ด ดวงแตกอีกหนจนได้ที่ต้องเสีย อายเด็น เฮฟเว่น กองหลังดาวรุ่งวัย 18 ปีที่บาดเจ็บทั้งๆที่เขากำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าดูชมหลังมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว
ไม่เพียงเท่านั้น อาการบาดเจ็บของอดีตดาวเตะ อาร์เซน่อล แลดูน่าเป็นห่วงไม่น้อยด้วยเนื่องจากต้องมีการหามลงเปลออกไปจากสนามโดย อโมริม ส่ง โทบี้ คอลล์เยอร์ ดาวรุ่งอีกรายลงไปเสียบแทน
อย่างไรก็ดี เป็นเพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาขาดนักเตะตัวหลักที่ผลัดกันล้มหมอนนอนเสื่อไม่เลิกในระยะหลัง กุนซือโปรตุกีสจึงจำเป็นต้องสร้างคลื่นลูกใหม่ในทีมขึ้นมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างต่อเนื่องโดยเกมนี้ แฮร์รี่ อามาสส์ ได้ประเดิมสนามในเกม พรีเมียร์ลีก เป็นตัวสำรองตรงกับวันเกิดอายุครบ 18 ปีพอดี
ด้วยเหตุนี้ อามาสส์ จึงเป็นดาวรุ่งรายที่สองที่ได้ประเดิมสนามในเกม พรีเมียร์ลีก ต่อจาก เลออน เบสต์ อดีตกองหน้าที่รีไทร์ไปแล้วนัดที่ เซาธ์แฮมป์ตัน ฟาดเกือกกับ นิวคาสเซิ่ล เมื่อเดือนก.ย.2004 โดย เบสต์ มีอายุครบ 18 ปีพอดีเช่นกันในเกมนั้น