เลสเตอร์ พบ แมนยู:แม็กไกวร์ คุมหลัง-เฮฟเว่น ลุยต่อ!ไลน์อัพผีฟัดจิ้งจอกสยาม

สำหรับนัดต่อไป แมนฯ ยูไนเต็ด จะกลับมาลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์นี้เพื่อพยายามไต่อันดับตารางด้วยการบุกไปเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมรองบ๊วยซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่กุนซือโปรตุกีสน่าจะพาทีมเก็บสามแต้มเต็มได้

อย่างไรก็ดี อโมริม เปิดปากหลังเกมเมื่อกลางสัปดาห์ว่าเขาจำเป็นต้องโรเตชั่นทีมเพื่อรักษาความสดของนักเตะ และป้องกันการบอบช้ำหรือบาดเจ็บไปในตัว แต่ในเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มมีฟอร์มที่เข้าที่เข้าทางคาดว่าไลน์อัพที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม จะมีการปรับเปลี่ยนเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

- ผู้รักษาประตู : อ็องเดร โอนาน่า

หากไม่ออกอาการประทามเลินเล่อจนก่อความผิดพลาด โอนาน่า นับเป็นนายทวารที่เซฟประตูได้ไม่เลวเลยจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดร็อปมือกาวทีมชาติ แคเมอรูน

- กองหลัง :มาตไตส์ เดอ ลิกต์ , แฮร์รี่ แม็กไกวร์ , อายเด็น เฮฟเว่น

แม้จะทำให้ทีมเสียลูกโทษในเกมบู๊กับ เรอัล โซเซียดาด แต่ เดอ ลิกต์ มีฟอร์มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และจะเป็นกำลังหลักในแผงหลังของ ผีแดง ต่อไป

นอกจากนี้ เจ้าหนู เฮฟเว่น สร้างความประทับใจได้จากแมตช์ประเดิมสนามในฐานะนักเตะตัวจริงเมื่อกลางสัปดาห์ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเขาจะเป็นอนาคตของสโมสร

อย่างไรก็ดี หลังจากหายหน้าไปนานสามเกมเนื่องจากบาดเจ็บ เชื่อว่า แม็กไกวร์ มีโอกาสฟิตกลับมาลงบู๊ในเกมเยือนถิ่นเก่าของเขา

- กองกลาง : นุสแซร์ มาซราวี , บรูโน่ แฟร์นันด์ส , กาเซมีโร่ , ดีโอโก้ ดาโลต์

เป็นเพราะว่า แพทริค ดอร์กู จะติดโทษแบนในเกมลีกเป็นนัดสุดท้าย อโมริม จะต้องปรับแดนกลางอีกหนโดย มาซราวี น่าจะได้สวมบทวิงแบ็คด้านขวา ขณะที่ ดาโลต์ จะรับภาระทางด้านซ้ายแทนสตาร์ทีมชาติ เดนมาร์ค

สำหรับสองกองกลาง แน่นอนว่า มานูเอล อูการ์เต้ หายเจ็บกลับมานั่งข้างสนามได้แล้วในเกมกลางสัปดาห์ แต่ไม่ถูกส่งลงเล่นเนื่องจาก กาเซมีโร่ กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกหน และเข้าขากับ แฟร์นันด์ส อย่างลงตัวมากกว่า

- กองหน้า : อเลฮานโดร การ์นาโช่ , ราสมุส ฮอยลุนด์ , โจชัว เซิร์กซี่

ในแผงหัวหอก อโมริม ไม่มีทางเลือกมากนักเนื่องจากขุมกำลังเหลืออยู่เพียงน้อยนิดหลังจากเขาตัดสินใจปล่อย มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อันโตนี่ ออกไปแบบยืมตัว ขณะที่ อาหมัด ดิยัลโล่ เดี้ยงยาว

ฉะนั้นแล้ว สามประสานในแดนหน้าของ ผีแดง จะยังเป็นโผเดิมทั้งหมดโดยเฉพาะ ฮออยลุนด์ จะได้ออกสตาร์ตในเกมบู๊กับ สุนัขจิ้งจอก ล้านเปอร์เซนต์หลังเท้าบอดมานาน 21 นัดติดต่อกันแล้ว