ฮาลันด์-นางนวล ลุ้นสถิติ! เกร็ดก่อนเกม แมนซิตี้ พบ ไบรท์ตัน

ฮาลันด์-นางนวล ลุ้นสถิติ! เกร็ดก่อนเกม แมนซิตี้ พบ ไบรท์ตัน
วันเสาร์ที่ 15 มีนาคมนี้มีเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตะกันทั้งหมด 5 คู่ ซึ่งแมตช์ที่น่าสนใจที่สุดคงจะเป็นเกมที่ แมนซิตี้ พบ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

ทั้ง 2 ทีมต่างก็กำลังแย่งตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า ที่ตอนนี้มีโอกาสสูงว่าทีมจากอังกฤษจะได้โควต้าผ่านทางอันดับในลีกถึง 5 ใบ โดยปัจจุบัน "เรือใบสีฟ้า" อยู่อันดับ 5 ด้วยผลงาน 47 แต้ม ส่วน ไบรท์ตัน ที่อยู่ในอันดับ 7 ตามหลังอีกฝ่ายอยู่แค่ 1 คะแนนเท่านั้น ซึ่งเราก็มีเกร็ดเกี่ยวกับคู่นี้มาบอกเล่ากันสักหน่อย

- ในบ้านข่มมาตลอด

ก่อนหน้านี้ แมนซิตี้ มีโอกาสเปิดบ้านเจอกับ ไบรท์ตัน มาทั้งหมด 14 นัด ซึ่งผลก็คือพวกเขาไม่เคยแพ้คาบ้านให้กับอีกฝ่ายเลย แบ่งเป็นการชนะได้ 12 เกมกับเสมอ 2 หน

ผลงานดังกล่าวทำให้ ไบรท์ตัน ถือเป็นคู่แข่งที่ แมนซิตี้ ไม่แพ้ในลีกกับการเล่นในบ้านของตัวเองติดต่อกันนานที่สุด หากนับเฉพาะทีมที่ยังไม่เคยบุกมาชนะ แมนซิตี้ ได้ถึงเมืองแมนเชสเตอร์ โดยหากนับเฉพาะ 10 นัดหลังสุดนั้น แมนซิตี้ ยังเก็บชัยชนะได้ทั้งหมดอีกต่างหาก

- ไบรท์ตัน กับโอกาสสร้างประวัติศาสตร์

จนถึงตอนนี้ ไบรท์ตัน เอาชนะ แมนซิตี้ ในเกมลีกได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น แต่ทั้ง 2 หนที่ว่าก็เกิดขึ้นจากการที่ แมนซิตี้ เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน

 แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือการเจอกันนัดแรกของฤดูกาลนี้ที่ทัพ "นกนางนวล" เปิดบ้านชนะไป 2-1 ซึ่งจนถึงตอนนี้มีเพียง แมนยูไนเต็ด เท่านั้นที่สามารถชนะ แมนซิตี้ ของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ในเกมลีกในสถานการณ์ที่เป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนได้เยอะกว่า ไบรท์ตัน หลังจาก "ปีศาจแดง" ทำแบบนั้นได้ 3 หน หรือก็คือ ไบรท์ตัน มีโอกาสทาบผลงานที่ว่าได้

ขณะเดียวกัน ถ้าหากเกมนี้ ไบรท์ตัน เก็บ 3 แต้มได้ มันก็จะทำให้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่พวกเขาเอาชนะ แมนซิตี้ ในลีกได้แบบไป-กลับ ด้วย

ทั้งนี้ ไบรท์ตัน ชนะในลีกมาแล้ว 4 นัดติด ซึ่งหากทีมเยือนเก็บชัยในเกมนี้ได้อีกมันก็จะทำให้พวกเขาทุบสถิติการชนะเกมลีกสูงสุดติดต่อกันนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วย หลังจากปัจจุบันครองสถิติร่วมกับผลงานในช่วงเดือนเมษายน 1981 จนถึงเดือนพฤษภาคมของปีเดียวกัน โดยนั่นเป็นตอนที่ลีกสูงสุดของอังกฤษยังใช้ชื่อ ดิวิชั่น 1 อยู่เลย

- ผลงานที่ไม่น่าจดจำของ แมนซิตี้ หากแพ้

ฤดูกาลนี้ แมนซิตี้ เล่นได้ไม่สมราคาแชมป์เก่าจนแพ้ในเกมลีกไปแล้วถึง 9 นัด โดยครั้งล่าสุดที่ทีมซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์เก่าของ พรีเมียร์ลีก แพ้ในเกมลีกอย่างน้อย 10 หนนั้นต้องย้อนไปถึงฤดูกาล 2017-18 เลยทีเดียว จากการที่ตอนนั้น เชลซี แพ้ในลีก 10 เกม

นอกจากมีโอกาสทาบสถิติอันเลวร้ายดังกล่าวแล้วนั้น แมนซิตี้ ก็มีโอกาสแพ้ในลีกอย่างต่ำ 10 นัดต่อ 1 ฤดูกาลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 2015-16 ด้วย โดยตอนนั้นพวกเขาปราชัยในลีก 10 หน

ไม่เพียงแค่นั้น การแพ้ในหนนี้ก็จะทำให้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ แมนซิตี้ ในยุคของ กวาร์ดิโอล่า แพ้ในลีกคาบ้านเป็นจำนวนอย่างน้อย 2 เกมติดต่อกันด้วย เพราะหากยังจำกันได้นั้นพวกเขาแพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 คารัง เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ส่วนครั้งแรกที่ แมนซิตี้ ภายใต้การกุมบังเหียนของ กวาร์ดิโอล่า แพ้ในลีกอย่างต่ำ 2 นัดติดคือช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมของปี 2021

- 1 ลูกที่ส่งผลเสีย

ปัจจุบัน แมนซิตี้ เสียประตูในลีกไปแล้ว 38 ลูก ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้นที่ "เรือใบสีฟ้า" ในยุคของ กวาร์ดิโอล่า เสียประตูในลีกเยอะกว่าชุดปัจจุบัน นั่นคือซีซั่น 2016-17 ที่โดนไป 39 ประตู

ขณะที่หากนับรวมผลงานจากทุกรายการและกับกุนซือคนอื่นๆ เข้าไปด้วยแล้วล่ะก็ แมนซิตี้ ชุดนี้ก็มีโอกาสที่จะเสียประตูในทุกรายการเยอะที่สุดนับตั้งแต่ชุดของ มานูเอล เปเยกรีนี่ ในฤดูกาล 2015-16 ด้วย หลังจากชุดปัจจุบันโดนยิงไปแล้ว 64 ลูก ส่วนตอนซีซั่น 2015-16 เสียไป 65 ประตู

- ฮาลันด์ จ่อขึ้นเลข 3 หลัก

ตอนนี้ เออร์ลิง ฮาลันด์ ดาวยิง แมนซิตี้ มีส่วนร่วมกับประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ไปแล้วถึง 99 ลูก แบ่งเป็นการยิงเอง 83 ประตูกับ 16 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 93 นัด ซึ่งตอนนี้เขากำลังมีลุ้นเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ที่มีส่วนร่วมกับประตูอย่างน้อย 100 ครั้ง โดยที่ยังลงเล่นไม่ถึง 100 นัด

- เปโดร เครื่องร้อน

เชา เปโดร ดาวเตะชาวบราซิเลี่ยนของ ไบรท์ตัน ทำประตูในเกมลีกได้ในทั้ง 3 นัดหลังสุดที่เขาลงเล่น ซึ่งถ้าเกมนี้เขาได้ลงสนามและทำประตูได้อีกมันก็จะทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกของ ไบรท์ตัน ที่ทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 4 นัดติดต่อกัน รวมถึงจะเป็นนักเตะเลือดแซมบ้าคนที่ 2 ที่ทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ได้ 4 เกมรวดด้วย โดยคนเดียวก่อนหน้านี้ที่ทำแบบนั้นได้คือ ริชาร์ลิซอน ที่เคยทำได้ถึง 2 หน

- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport