น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ สโมสรที่ไม่เคยละเลยความฝัน

 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์  สโมสรที่ไม่เคยละเลยความฝัน
นานมาแล้วสมัยที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ยังวัยละอ่อน ก็เอาแบบว่าโลกใบนี้ยังไม่รู้จักสมญานาม "Special One" แล้วกัน ก็มีช่วงเวลาสั้นๆที่เขาเลือกนั่งรถไฟจากลอนดอน มุ่งหน้ามาน็อตติ้งแฮม เพื่อสำรวจไขข้อสงสัยว่าทำไมเมืองที่ตั้งแถบอีสต์ มิดแลนด์ถึงเคยได้แชมป์ยุโรปถึง 2 สมัย

"ผมมีบางอย่างเก็บในใจเสมอ ผมไม่เคยมา น็อตติ้งแฮม มาก่อน แต่ตั้งแต่โตมาก็เคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับ โรบินฮู้ด ถึงป่าเชอร์วู้ด ตลอดจนโค้ชอย่าง ไบรอัน คลัฟ และ ฟอเรสต์"    

ตอนนั้น มูรินโญ่ อายุเพิ่ง 33 เองยังเป็นทีมงานของ เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน ที่ บาร์เซโลน่า เขามาอังกฤษก็เพื่อตามดู ยูโร1996    

เล่ากันว่ายอดโค้ชโปรตุกีส ที่ปัจจุบันคุม เฟเนร์บาห์เช่ ในตุรกี ชอบตัวเมืองน็อตติ้งแฮมมาก มันมีครบทุกอย่างถึงจะไม่เท่าเมืองหลวงอย่างลอนดอนก็ตาม    

แต่เพียงข้ามสะพานเทรนท์บริดจ์ ไปถึง ซิตี้ กราวน์ เท่านั้น อะไรๆที่เคยสงสัยก็ยิ่งขยายใหญ่เข้าไปอีก กับสังเวียนสีแดงขนาดความจุแค่สามหมื่นเศษถึงตั้งตรงหน้า    

"ตอนที่ผมเดินไปเห็นสนาม ก็ได้แต่คิดในใจ' คุณกำลังเล่นตลกอยู่ใช่ไหม?' นี่คือสโมสรที่ได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ? สองสมัย?"    

ความจริงมันก็เป็นอย่างนั้นครับ สโมสรฉายาเจ้าป่า ถือเป็นหนึ่งในความเซอร์ไพร์สของวงการบอลยุโรป พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับ เอซี มิลาน, อาแจ็กซ์, บาเยิร์น มิวนิค ฯลฯ ทางตรงกันข้ามในเวลานั้นพวกเขาเพิ่งเลื่อนชั้นจากดิวิชั่น2(เดิม)มาลีกสูงสุดด้วยซ้ำในปี1977    

หากปีถัดมาก็ก้าวไปคว้าถ้วยดิวิชั่น1(เดิม)หรือเทียบเท่าพรีเมียร์ลีกในปัจจุบันได้อย่างเหลือเชื่อ เรื่องมหัศจรรย์ยังไม่จบแค่นั้นเพราะอีกซีซั่นก็ครองเจ้ายุโรปได้แถมยังทำได้สองครั้งติดต่อกัน    

มันมีหนังสือเล่มหนึ่งใช้หัวว่า "Believe in Miracles" ที่เขียนถึงปรากฎการณ์อันน่าทึ่งนี้ของ ฟอเรสต์ คำบอกเล่าข้างบนของมูรินโญ่ก็มาจากหนังสือเล่มนี้    

ทั้งนี้ส่วนประกอบสำคัญของทุกความสำเร็จต้องมาจากความฝัน มันไม่ได้เกี่ยวว่าคุณจะเป็นใครจากไหน เป็นทีมเงินเยอะหรือเงินน้อย ทีมใหญ่หรือเล็ก อย่างแรกขอแค่เชื่อว่าจะต้องทำได้เท่านั้น นาทีนี้แววตาของกองเชียร์เจ้าป่าจึงเต็มด้วยความหวัง ถามก่อนเปิดซีซั่นว่าเข้าสู่กลางมีนาคมจะมีสักกี่คนมองว่าพวกเขาโผล่มารั้งอันดับสามได้?    

นี่คือทีมที่ปีก่อนยังหนีตายอยู่เลย    

นี่คือทีมที่เกจิแทบทุกสำนักฟันธงว่าอาจต้องร่วงไปแชมเปี้ยนชิพอีกแล้ว    

เมื่อวันเสาร์ทีมของ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต ก็กำราบ แมนฯซิตี้ ได้อีก 1-0 ด้วยวิธีการเล่นที่ไม่ได้ต่างจากก่อนหน้านี้ที่เคยยันเสมอ ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซน่อล ในรังได้ การตั้งรับให้แน่นแล้วรอโอกาสของตัวเองไม่ใช่วิธีการเล่นที่ขี้ขลาด มันเป็นสไตล์ที่เหมาะสมกับฟอเรสต์ชุดนี้ต่างหาก    

บรรยากาศใน ซิตี้ กราวน์ จึงยอดเยี่ยม ยิ่งกับวันที่แสงแดดทำงานเคร่งครัดด้วย ยิ่งย้อนไปว่านี่คือทีมที่ตลอดสองทศวรรษก่อนนี้วนเวียนลีกล่างมาตลอด มีบางปีตกไปถึงลีกวันด้วยซ้ำ

โค้ชนูโน่ก็เคยล้มเหลวมากับสเปอร์สมาก่อน    

หากมันเกิดขึ้นจริงแล้วที่อดีตแชมป์ยุโรป 2 สมัยตอนปลายทศวรรษ 70 กำลังมีโอกาสดีที่จะกลับไปเตะถ้วยใหญ่ของทวีปโดยที่มีกองหน้าตัวหลักชื่อว่าคริส วู้ด    

"Our time has come again. We'll give it everything" แผ่นผ้าผืนหนึ่งกางขึงช่วงก่อนเกมตรงอัฒจันทร์ฝั่งติดแม่น้ำ    

เพราะการจะคาดหวังอะไรก็ตาม ต้องใส่สุดตัว

เพราะฟุตบอลเป็นหนี่งในความมหัศจรรย์ที่ทำให้มีคนมากมายหลงใหลหัวปักหัวปำ

สนามสีแดงๆขนาดสามหมื่นนี่แหละที่ไม่กี่ปีก่อนนี้เพิ่งเปิดบ้านเจอ บาร์นสลี่ย์ อยู่เลย ก็มีความเป็นไปได้ที่เร็วๆนี้จะได้ต้อนรับ บาร์เซโลน่า

"ไก่ป่า".....




ที่มาของภาพ : getty images
BY : ไก่ป่า
เอกราช นิติสุทธิ์สกุล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport