ไม่เคยมีใครพลาดจากจุดนี้... รอแค่เวลาปิดจ็อบ

ไม่เคยมีใครพลาดจากจุดนี้... รอแค่เวลาปิดจ็อบ
บนประวัติศาสตร์ฟุตบอล อังกฤษ ตั้งแต่ฤดูกาล 1888/89 ไม่เคยมีทีมไหนที่นำห่างขนาดนี้ ในช่วงเวลานี้ แล้วจบด้วยการพลาดแชมป์ หลังจบเกม พรีเมียร์ลีก คืนวันอาทิตย์ ระยะห่างของพวกเขากับ อาร์เซน่อล คือ 15 คะแนน มันก็พอจะบอกได้ว่า ลิเวอร์พูล อยู่ในสถานะ -ว่าที่แชมป์- อยู่ที่ว่าพวกเขาจะคว้าแชมป์เมื่อไหร่

โอกาสการคว้าแชมป์จากการคำนวณของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทะยานไปที่ 99.66% ฝั่ง อาร์เซน่อล ที่แม้มีเกมตกค้างในมือแต่ตัวเลขมีแค่ 0.34%

"ลิเวอร์พูล คงมองว่า อาร์เซน่อล แทบจะยอมแพ้ในการลุ้นแชมป์ลีกไปแล้ว" รอย คีน กล่าวผ่าน สกาย สปอร์ต หลัง แมนยู เสมอ อาร์เซน่อล คืนวันอาทิตย์

ขณะที่ พอล เมอร์สัน อดีตกองกลาง "เดอะ กันเนอร์ส" เสริมว่า "ตอนนี้ อาร์เซน่อล ควรโฟกัสไปที่การติดท็อปโฟร์ พรีเมียร์ลีก"

"ลิเวอร์พูล นำห่างเกินไป พวกเขาแพ้แค่เกมเดียวตลอดฤดูกาล การลุ้นแชมป์จบแล้ว"

ลิเวอร์พูล ต้องการ 16 แต้มจาก 27 แต้มเพื่อการันตีแชมป์ (86 คะแนน) โดยที่ อาร์เซน่อล ทำแต้มสูงสุดได้อยู่ที่ 85 คะแนน

หาก "หงส์แดง" ชนะรวด 5 นัดถัดไป และ "ไอ้ปืนใหญ่" ชนะ 6 นัดถัดไป (รวมเกมตกค้าง) เกมเจอ เชลซี วันที่ 3 พฤษภาคมขอแค่เสมอแชมป์จะเป็นของพวกเขาทันที

อีกกรณีหนึ่ง หากชนะ 2 เกมถัดไป และทั้ง อาร์เซน่อล กับ ฟอเรสต์ แพ้รวด 4 นัด ลิเวอร์พูล จะเป็นแชมป์ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน

โปรแกรม พรีเมียร์ลีก ที่เหลือของ ลิเวอร์พูล คือ

2 เม.ย. vs เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)

5 เม.ย. vs ฟูแล่ม (เยือน)

12 เม.ย. vs เวสต์แฮม (เหย้า)

19 เม.ย. vs เลสเตอร์ (เยือน)

26 เม.ย. vs สเปอร์ส (เหย้า)

3 พ.ค. vs เชลซี (เยือน)

10 พ.ค. vs อาร์เซน่อล (เหย้า)

18 พ.ค. vs ไบรท์ตัน (เยือน)

25 พ.ค. vs คริสตัล พาเลซ (เหย้า)

...

คำถามเรื่องทำลายสถิติคว้าแชมป์เร็วที่สุด?!

หากจะให้มันเกิดขึ้นเพื่อบันทึกสถิติใหม่ ลิเวอร์พูล ต้องการให้ทุกอย่างเป็นใจเพื่อไปทาบสถิติตัวเองที่คว้าแชมป์โดยที่เหลือเกมให้เล่น 7 นัดเหมือนในซีซั่น 2019/20

ถึงกระนั้น การคว้าแชมป์โดยเหลือเกม 5 นัดเท่ากับ แมนยู (2000/01) และ แมนซิตี้ (2017/18) ดูเป็นไปได้มากกว่า

"ปีศาจแดง" (1999/00, 2012/13) และ อาร์เซน่อล (2003/04) เคยคว้าแชมป์โดยเหลือ 4 นัด

วันคว้าแชมป์เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก คือ 14 เมษายน 2001 ทีมที่ทำได้คือ แมนยู  แต่หาก ลิเวอร์พูล อยากทำลายสถิตินี้ พวกเขาจะต้องเพิ่มช่องว่างจาก อาร์เซน่อล ให้มากกว่าเดิม

หาก ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ มันจะเป็นการคว้าแชมป์เร็วกว่าครั้งแรก ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 25 มิถุนายน 2020 เนื่องจากฤดูกาลล่าช้าจากโควิด-19

นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ต้องเพิ่มระยะห่างแต้มกับทีมที่ตามมาอีก 7 แต้มขึ้นไป หากต้องการทำลายสถิติแชมป์ พรีเมียร์ลีก ที่ชนะด้วยแต้มขาดมากที่สุด

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยได้แชมป์โดยทิ้งห่างอันดับสอง(แมนยู) 19 แต้ม ในฤดูกาล 2017/18 และทำแต้มสูงสุด 100 คะแนน

...

"The first of three finals" หรือ "นัดแรกจากนัดชิง 3 นัด" คือประโยคที่เฮดโค้ช อาร์เน่อ ขนานนามถึงชัยชนะของ ลิเวอร์พูล ที่มีเหนือ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1

ภารกิจ 1 ไป 2 ของรอบชิงชนะเลิศ ก้าวต่อไปของ ลิเวอร์พูล คือเผชิญหน้า ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ทีมที่ตลอด 90 นาทีไล่ต่อยพวกเขาจนน่วม แต่กลับออกจาก พาร์ค เดอส์ แพร็งส์ ด้วยชัยชนะ

ส่วน 2 ไป 3 นั้นคือรอบชิงคาราบาว คัพ กับ นิวคาสเซิ่ล ก่อนจะได้พักเบรกทีมชาติ กลับมาใหม่อีกทีคือเดือนเมษายน

ความฝัน 4 แชมป์จบลงไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ แต่สำหรับ 3 แชมป์นั้นยังคงได้ไปต่อ...

การคว้าแชมป์สามรายการมันยากแค่ไหน ?

ที่ผ่านมา ทริปเปิล แชมป์ ที่เรา ๆ ยอมรับกันอันประกอบไปด้วย พรีเมียร์ลีก, แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอฟเอ คัพ มีแค่สองสโมสรใน อังกฤษ ที่ทำได้คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1998/99) และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2022/23)

สำหรับ ลิเวอร์พูล เองก็เคยคว้าแชมป์สามรายมาครองได้ในซีซั่นเดียวคือ ฤดูกาล 1983/84 เพียงแต่ไม่ใช่ เอฟเอ คัพ แต่เป็น ลีก คัพ แทน 

จะเป็นลางดีหรือไม่นั้น เพราะซีซั่นนั้นสมัยของ โจ เฟแกน ก็เพิ่งรับงานปีแรก แล้วถูกเขี่ยตกรอบ เอฟเอ คัพโดยทีมจากลีกต่ำกว่าอย่าง ไบรท์ตัน ซึ่งท้ายสุด เฟแกน พา ลิเวอร์พูล ชู 3 โทรฟี่

หนที่สองกับการคว้าสามแชมป์เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2000/01 อันได้แก่ เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า คัพ และ ลีก คัพ ภายใต้ยุค เชราร์ อุลเลเยร์

ส่วนการครองแชมป์ 3 ในประเทศ(พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ) มีแค่ แมนฯ ซิตี้ เท่านั้นในฤดูกาล 2018/19

ทีมในยุโรป ชาติอื่น ๆ มี บาร์เซโลน่า (2008/09, 2014/15), บาเยิร์น มิวนิค (2012/13, 2019/20) , อาแจ็กซ์ (1971/72), พีเอสวี (1987/88) และ อินเตอร์ มิลาน (2009/10) ที่เคยคว้า ทริปเปิล แชมป์

และด้วยจากการที่หลายประเทศไม่ได้มีถ้วยลีก คัพ เซลติก จึงเป็นทีมเดียวที่สามารถคว้า "ควอดรูเปิล แชมป์" (4 แชมป์) ในปี 1966/67

คำถามสุดท้าย โอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะคว้าถ้วยสามใบล่ะ มีมากน้อยแค่ไหน?

ตีตามตัวเลขที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์คำนวณออกมา พรีเมียร์ลีก ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เกือบจะตัดสินได้แล้ว ซึ่งโอกาสมีถึง 99.66 % 

ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ลิเวอร์พูล เป็นทีมเต็งลำดับหนึ่งหลังเอาชนะ เปแอสเช ชิงความได้เปรียบก่อนจากเลกแรก

โอกาสเป็นแชมป์อยู่ที่ 24% ตามด้วยเข้ารอบชิงชนะเลิศ 38% เข้ารอบรองชนะเลิศ 63% และรอบก่อนรองชนะเลิศ 76%

ขณะที่ คาราบาว คัพ ลิเวอร์พูล ขี่ นิวคาสเซิ่ล อยู่พอตัวในเรื่องของโอกาสการคว้าแชมป์ โดยอัตราอยู่ที่ 4-1 หรือคุณลงทุน 4 บาทจะได้กลับมาแค่บาทเดียว

เป้าหมายการคว้าสามแชมป์ของ ลิเวอร์พูล มีความสำคัญอย่างยิ่งในแง่ของประวัติศาสตร์สโมสร 

การบรรลุเป้าหมายดูมีความสดใส โดยเฉพาะ พรีเมียร์ลีก กับ คาราบาว คัพ

ส่วน แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้นคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่

ข้อมูลจาก BBC

HOSSALONSO


ที่มาของภาพ : getty image
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport