แมนยู พบ อาร์เซน่อล! 5 ข้อผีเจ๊าปืนมันหยด,อาร์เตต้า อดเฮนัด200

แมนยู พบ อาร์เซน่อล! 5 ข้อผีเจ๊าปืนมันหยด,อาร์เตต้า อดเฮนัด200
แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านดวลกับ อาร์เซน่อล ได้อย่างสนุกก่อนที่ทั้งสองทีมจะเสมอกัน 1-1 ในการฟาดแข้งฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มี.ค.ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์มากขึ้นไปอีกเนื่องจาก มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ ปืนโต ไม่อาจพาทีมคว้าสามแต้มเต็มได้ในการคุมทีมนัดที่ 200

1. ฮอยลุนด์ นั่งสำรองเซ่นเกือกทื่อ

รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด วางหมากต้อนรับ อาร์เซน่อล ด้วยการดร็อป ราสมุส ฮอยลุนด์ ไปรับบทตัวสำรองเนื่องจากกองหน้าทีมชาติ เดนมาร์ค มีผลงานเลวร้ายยิงประตูไม่ได้นาน 19 นัดติดต่อกันในทุกรายการ

ต่อการจับสตาร์เลือดโคนมนั่งข้างสนาม กุนซือโปรตุกีสเลือกส่ง คริสเตียน เอริคเซ่น มิดฟิลด์ชาติเดียวกันออกสตาร์ต และขยับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไปเล่นเกมรุกเต็มตัว

นอกจากนี้ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงตามคาดเนื่องจาก แพทริค ดอร์กู ยังติดโทษแบน รวมแล้ว ปีศาจแดง ปรับทัพสองรายจากเกมบุกไปเสมอ เรอัล โซเซียดาด 1-1 ในถ้วย ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมนัดแรก

อย่างไรก็ดี ด้วยปัญหามีนักเตะล้มเจ็บเพียบโดย มานูเอล อูการ์เต้ กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกนัดทำให้ตัวสำรองข้างสนามของทีมเจ้าบ้านเป็นชุดที่อ่อนประสบการณ์สิ้นดี

2. ปืนปรับทัพหนึ่งตำแหน่ง

มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ อาร์เซน่อล เปลี่ยนโผตัวจริงรายเดียวเท่านั้นจากเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมนัดแรกที่ออกไปยำใหญ่ พีเอสวี 7-1 เมื่อกลางสัปดาห์

กุนซือสแปนิชตัดสินใจเลือกใช้งาน ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ปราการหลังทีมชาติ อิตาลี ออกสตาร์ตก่อนหน้า ไมล์ ลูอิส สเคลลีย์ ฟูลแบ็คดาวรุ่ง

กระนั้นก็ดี เดอะ กันเนอร์ส ได้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ปีกแซมบ้าฟิตกลับมานั่งข้างสนามหลังเจ้าตัวเจ็บไปตั้งแต่เกม คาราบาว คัพ รอบตัดเชือกนัดสองที่บุกไปแพ้ นิวคาสเซิ่ล เมื่อวันที่ 5 ก.พ.

3. แฟร์นันด์ส แบกแล้ว แบกอยู่ แบกต่อ

อาร์เซน่อล พกผลงานบุกไปถล่ม พีเอสวี 7-1 บุกมาเยือน โรงละครแห่งความฝัน แต่พวกเขาไม่อาจเอาชนะเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เลย และไม่ใช่เกมที่ ผีแดง ถูกกดดันอย่างมากมายอะไรตลอด 45 นาทีแรกซึ่งแผงหลังเจ้าบ้านรับมือกับเกมรุกที่ไร้พิษสงของ เดอะ กันเนอร์ส ได้อย่างไม่มีปัญหา

และในที่สุดช่วงทดเวลา โอกาสที่ ผีแดง รอคอยก็มาถึงเมื่อ เลอันโดร ทรอสซาร์ ทำฟาวล์ อเลฮานโดร การ์นาโช่ หน้าเขตโทษ และจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก แฟร์นันด์ส กัปตัน ผีแดง ซึ่งถูกกูรูหลายรายรุมวิจารณ์มาโดยตลอดซัดลูกฟรีคิกผ่าน ดาบิด ราย่า ให้เจ้าบ้านนำ 1-0 ใน 45 นาทีแรก

จากสกอร์นำ 1-0 ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เจาะตาข่ายคู่แข่งได้ก่อนซะทีหลังตาข่ายขาดก่อนตลอดหกจากเจ็ดนัดหลังของเกมเหย้าในทุกรายการนับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2025 และเป็นนัดแรกของ พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่พวกเขานำหน้าฝ่ายตรงข้ามก่อน

ด้าน แฟร์นันด์ส ตะบันได้ 7 ประตูแล้วในซีซั่นนี้มากที่สุดในหมู่นักเตะ ผีแดง ตามระเบียบแม้จะไม่ใช่กองหน้า แถมเจ้าตัวเกือบซัดให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2-1 ในช่วงทดเวลาด้วย หากแต่ ราย่า เซฟได้อย่างเฉียดฉิว

รวมทุกรายการ ดาวเตะเลือดฝอยทองซัดไปแล้ว 12 ประตูและ 13 แอสซิสต์ส่งผลให้เขามีส่วนร่วมกับประตู 25 ลูกขึ้นไปตลอดทั้งสามซีซั่นหลัง และเป็นหนึ่งในสามนักเตะของ พรีเมียร์ลีก ที่ทำได้ในระดับนี้เช่นเดียวกับ โม ซาลาห์ และ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

กระนั้นก็ดี แม้สุดท้ายแล้ว เดแคลน ไรซ์ จะยิงตีเสมอให้ทีมเมืองหลวงแบ่งแต้มออกไปได้ในนาทีที่ 74 แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังรักษาสถิติไม่แพ้เกมลีกในบ้านได้ต่อไปหากพวกเขานำหน้าก่อนใน 45 นาทีแรก รวมถึงนัดนี้เป็นเกมที่ 388 ติดต่อกันแล้วนับตั้งแต่เดือนพ.ค.1984 ที่พวกเขาบู๊กับ อิปสวิช

อย่างไรก็ดี ในร้ายมีดี ในดีมีร้ายเนื่องจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ยังควานหาชัยชนะได้อย่างยากลำบากโดยพวกเขามีชัยแค่เกมเดียวเท่านั้นจากหกเกมหลังของทุกรายการ และยังชนะเกมลีกสองนัดติดต่อกันในซีซั่นนี้ไม่ได้เลย

4. อาร์เตต้า อดฉลองนัด 200

อาร์เตต้า พาทีม อาร์เซน่อล บุกมาต่อกรกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เกมนี้เป็นนัดที่สองร้อยของเขาพอดีสำหรับศึก พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ได้รับงานต่อจาก อูไน เอเมรี่ ในเดือนธ.ค.2019

จาก 199 นัด เขาพาทีมกำชัยได้ 118 นัดซึ่งถือเป็นสถิติที่ไม่เลวเลยเนื่องจากมีนายใหญ่สี่รายเท่านั้นที่มีผลงานดีกว่าเขาจาก 199 นัดแรก

เริ่มจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่พาทีมกำชัยได้ 146 นัดตามด้วย โชเซ่ มูรินโญ่ 137 นัด , เจอร์เก้น คล็อปป์ 127 นัด และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 122 นัด

ขณะเดียวกัน อาร์เตต้า เป็นผู้จัดการทีมอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองที่คุมทีมลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ครบ 200 นัดในวัย 42 ปีเป็นรอง โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ รายเดียว (41)

อย่างไรก็ดี สุดท้ายแล้วกุนซือชาวเมืองกระทิงดุก็อดฉลองในวาระสำคัญเนื่องจาก อาร์เซน่อล ทำได้แค่เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด แถมเกือบแพ้ด้วยซ้ำอย่างที่เจ้าตัวยอมรับด้วยความฉุนเฉียวหลังจบเกม

5. หงส์ตีปีกขออีก 16 แต้ม

หลังเกมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 มันน่าจะสรุปกันได้แล้วว่า ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ไปครองเนื่องจาก อาร์เซน่อล ไม่ดีพอที่จะเก็บแต้มอย่างเป็นกอบเป็นกำไล่กดดันทีมจ่าฝูง

ถึงขณะนี้ ทีม ปืนใหญ่ ไม่ชนะเกมลีกสามนัดติดต่อกันแล้วนับตั้งแต่บุกไปสยบ เลสเตอร์ 2-0 เนื่องจากพวกเขาแพ้ เวสต์แฮม คารัง 1-0 และเสมอกับ ฟอเรสต์ แบบไร้สกอร์ที่ ซิตี้ กราวด์ ก่อนเจ๊ากับ ผีแดง 1-1 จนทำได้แค่ลดช่องว่างระหว่าง ลิเวอร์พูล จาก 16 เหลือ 15 แต้มซึ่งมองดูริบหรี่สิ้นดีที่ทีมเมืองหลวงจะสมหวังต่อให้พวกเขามีเกมตุนอยู่ในมืออีกนัดก็ตาม

และจะว่าไป อาร์เซน่อล น่าจะยอมประกาศยกธงขาวได้แล้วหลังนักเตะและ อาร์เตต้า พยายามกัดฟันลั่นวาจามาตลอดว่าซีซั่นยังไม่จบทั้งๆที่พวกเขาโดน หงส์แดง โกยแต้มหนีไปไกลลิบ กระทั่งล่าสุดขนาด ผีแดง ของ อโมริม ซึ่งมีผลงานลุ่มๆดอนๆ พวกเขาก็บุกมาเอาชนะไม่ได้ มันจึงไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่าพวกเขาดีพอที่จะเป็นผู้ท้าชิง

จากโปรแกรมที่เหลืออีก 9 นัด ทีมของ อาร์เน่อ สล็อต ต้องการอีก 16 แต้มก็จะได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครองโดยมีข้อแม้ว่า อาร์เซน่อล จะต้องชนะรวดในเกมที่เหลือด้วย หาไม่แล้ว ลิเวอร์พูล ก็จะได้ฉลองเร็วกว่านั้นอีก

เท่ากับว่า เร้ด แมชีน มีหน้าที่กำชัย 5 นัดและเสมออีกนัดจาก 9 นัดสุดท้ายซึ่งไม่น่าจะเหนือบ่ากว่าแรงสำหรับทีมจ่าฝูงที่ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงวาอันเป็นคุณสมบัติของทีมที่จะคว้าแชมป์ลีก

แถมเผลอๆ อาร์เซน่อล อาจสะดุดอีกก็เป็นได้อย่างที่พวกเขาออกอาการแบบนี้ให้เห็นมาตลอดในโค้งสุดท้ายของสามซีซั่นหลัง


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport