มันคือซีรี่ส์นัดชิง 3 เกมในหนึ่งสัปดาห์..
อาร์เน่อบอกอย่างนั้น
ด้วยสถานการณ์ที่นำห่างในลีกและมาตรฐานของคู่ต่อสู้ ทำให้หลายคนอาจจะมองข้ามเกมเซาธ์แฮมป์ตันคืนนี้ไปถึงเกมรับมือ เปแอสเช วันอังคาร และเตะนัดชิงลีก คัพกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วันอาทิตย์
แต่สำหรับอาร์เน่อ.. ไม่ใช่เลย มันคือนัดชิงชนะเลิศอีกเกมหนึ่งด้วยซ้ำ
ไม่ใช่เลย แม้จะเป็นการพบกันระหว่างจ่าฝูงกับทีมอันดับสุดท้าย
ไม่ใช่เลย แม้ลิเวอร์พูลจะไม่แพ้ใครมา 24 เกมติดต่อกันในลีก และเซาธ์แฮมป์ตันแพ้มา 4 เกมติดต่อกันในทุกรายการ.. แพ้ 7 จาก 8 เกมที่ลงสนาม.. แพ้ 17 จาก 20 นัดหลังสุด ชนะได้แค่ 2 ครั้ง หนึ่งในนั้นคือเกมเอฟเอ คัพกับ สวอนซี ซิตี้
ไม่ใช่เลย แม้จะมีคะแนนห่างกันถึง 58 แต้ม (ลิเวอร์พูล 67 คะแนน เซาธ์แฮมป์ตัน 9 คะแนน - การพบกันระหว่าง 2 ทีมที่มีคะแนนห่างกันมากที่สุดนับตั้งแต่เกม ลิเวอร์พูล - แอสตัน วิลล่า เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2020)
ไม่ใช่เลย แม้จะเป็นการพบกันระหว่างทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุด (66 ลูก ทิ้ง แมนฯ ซิตี้ และ สเปอร์ส อันดับสอง 13 ประตู) กับทีมที่ทำประตูได้น้อยที่สุด (19 ประตู น้อยกว่า เลสเตอร์ ซิตี้ 6 ประตู)
ไม่ใช่เลย แม้ทีมนักบุญจะชนะแค่เกมเดียวและแพ้ถึง 16 ครั้งในการไปเยือนคู่แข่งเกมพรีเมียร์ลีก 21 ครั้งหลังสุด และลิเวอร์พูลยิงอย่างน้อย 2 ประตูมา 18 เกมติดต่อกันที่แอนฟิลด์
ไม่ใช่เลย..
แม้อีกหลายสถิติจะชี้ชัดว่าใช่ แม้นักวิจารณ์เกือบทั้งหมดจะยอมรับว่าจริง แม้ความรู้สึกของพวกเราเกือบทุกคนจะบอกว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้น แต่สำหรับ อาร์เน่อ แล้ว เกมนี้คือนัดชิงชนะเลิศ และเขาเชื่อว่าเดอะค็อปทุกคนในแอนฟิลด์คืนนี้จะสัมผัสกับมันได้
"เสียงเชียร์จะดังยิ่งกว่านัดชิงอีกสองเกมอีก" อาร์เน่อบอกกับนักข่าวอย่างนั้นในห้องแถลงข่าว
เขายืนยันว่าจะไม่จัดตัวแบบมองข้ามเซาธ์แฮมป์ตันแน่นอน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหรือหมุนเวียนตัวผู้เล่นเกิดขึ้นมันจะเป็นเรื่องความเหมาะสมทั้งหมด อย่างเช่นคนที่เพิ่งกรำศึกหนักที่ปารีสมาเมื่อวันพุธ มีเวลาพักฟื้นแค่ 2 วัน อาจจะอยู่ในข่าย
ทีมที่เขาจัดลงสนามคืนนี้ จะเป็นทีมชุดที่มีโอกาสชนะมากที่สุด ตัวหลักคนนี้อาจถูกดร็อป ตัวสำรองคนนี้อาจลงเล่นแทน แต่มันจะเป็น 11 ตัวจริงที่เขาเน้นทุกกระเบียด พิจารณารอบด้านแล้วว่าชุดนี้มีโอกาสชนะมากที่สุด
ผมเห็นด้วยกับเขา และเชื่อมั่นในตัวเขาว่าจะทำอย่างที่พูดแน่นอน
แล้วก็มาถึงคำพูดที่ทำให้ผมต้องเลิกคิ้ว..
มันคือประโยคที่ผมเชื่อว่าทำให้เดอะค็อปมากมายหวนกลับไปนึกถึงคำพูดของใครคนหนึ่ง
"ผมไม่ได้อยากให้แค่นักเตะของผมเท่านั้นที่รู้สึกว่ามันเป็นนัดชิงสามเกมติด แต่ยังอยากส่งแรงกระตุ้นตรงนี้ไปถึงแฟนบอลของเราด้วย ผมหวังว่าพวกเขาจะไม่มาเข้าสนามตอนที่เหลืออีกห้านาทีจะเริ่มเกมนะ สนามควรจะเต็มทุกที่นั่งตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อนเตะแล้ว!"
ภาพความทรงจำย้อนกลับมาแบบแฟลชแบ๊ก.. เหมือนเรานั่งไทม์แมชีนฝ่าเวลากลับไปถึงวันนั้น เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2019
วันที่เตรียมรับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยผลงานชนะ 10 เสมอ 1 จากการออกตัว 11 เกมแรกในฤดูกาล 2019/20
โอกาสสำคัญที่ต้องจมเรือใบสีฟ้าให้ได้แล้วทะยานหนีพวกเขาไปให้ไกล โอกาสที่จะได้เข้าใกล้การสิ้นสุด 30 ปีแห่งการรอคอยเข้าไปอีก
ไม่มีโอกาสไหนดีกว่านี้อีกแล้ว แต่จะทำมันได้นั้น ทุกคนต้องพร้อมที่สุด พร้อมตั้งแต่แรก พร้อมตั้งแต่เริ่ม
และคำว่า "ทุกคน" ที่เขาคนนั้นพูดนั้น มีความหมายว่า "ทุกคน" จริง ๆ
แม้กระทั่งคนขายฮ็อตด็อกหน้าสนาม..
แน่นอนครับ เยอร์เก้นก็เยอร์เก้น อาร์เน่อก็อาร์เน่อ ทั้งคู่ไม่ใช่คนเดียวกัน ต่างคนต่างมีแนวทางของตัวเอง มีบุคลิกของตัวเอง มีความคิดของตัวเอง
แต่ประโยคนี้ของอาร์เน่อ.. เหมือนเราได้เห็นภาพ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในตัวเขาเลย
สี่ทุ่มคืนนี้เดอะค็อปมีนัดกันครับ
-ตังกุย-