ปัญหานี้แก้ยาก! แมนยูกับการลงทุนเซ็นกองหน้าที่ล้มเหลว

แต่ ณ จุดนี้ค่อนข้างชัดเจนในระดับหนึ่งว่าการคว้านักเตะ 2 คนนี้เข้ามาคือการลงทุนที่น่าจะล้มเหลว !!!

1.โจชัว เซิร์คซี่ อาจแสดงความทุ่มเทมากขึ้นในช่วงหลัง ช่วยพักบอล จ่ายบอลได้ดีหลายนัด แต่หน้าที่ของคนเป็นหัวหอก สำคัญที่สุดคือการถล่มตาข่ายให้สิ้นซาก

"อาจารย์ดู๋" ยิงให้ทีมปีศาจแดงไปแค่ 5 ประตูเท่านั้น จากการลงสนาม 38 นัดรวมทุกรายการในซีซั่นนี้ คงไม่ต้องบอกว่าเขาสอบผ่านหรือเปล่า

เขาอาจถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแข้งยอดเยี่ยมของสโมสรประจำเดือนกุมภาพันธ์ (บ่งบอกว่าคุณภาพนักเตะโดยรวมตอนนี้บัดซบขนาดหนัก) แต่ก็ยังไม่ดีพอจะถูกเรียกติดทีมชาติเนเธอร์แลนด์ชุดล่าสุด

2.ราสมุส ฮอยลุนด์ ยิ่งอาการหนักเข้าไปใหญ่ เพราะคลำเป้าไม่เจอมา 17 นัดติดต่อกันในทุกรายการ

ในเกมบุกเสมอ เอฟเวอร์ตัน เขาหาโอกาสยิงไม่ได้ และล่าสุดขนาดเจอทีมอย่าง อิปสวิช ทาวน์ ก็ยังไม่มีปัญญาหาโอกาสลุ้นจบสกอร์เลยแม้แต่หนเดียว 

ปัญหาของ ฮอยลุนด์ ไม่ใช่เรื่องฟอร์มตก หรือยิงทิ้งยิงขว้าง แต่เล่นกองหน้าไม่เป็นเลยดีกว่า 555

3. ไม่ต้องถึงขั้นเอาไปเทียบกับดาวยิงระดับพระกาฬอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, อเล็กซานเดอร์ อิซัค หรือ โอลลี่ วัตกิ้นส์

กองหน้าอย่าง โยอัน วิสซ่า, ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า, มาเตอุส คุนญ่า หรือแม้กระทั่ง เลียม ดีแล็ป ยังเหนือกว่าเยอะ

อืมมมม...กองหน้าทีมกลางตารางหรือหนีตกชั้น ยังดูน่ากลัวกว่ากองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด 

คิดเอา !!!

4.ถ้าเป็นสมัยที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคุมทีม ป๋ามักจะเล็งดาวยิงที่พิสูจน์ผลงานถล่มประตูในพรีเมียร์ลีกมาแล้วเป็นหลัก เพราะเอามาแล้วใช้งานได้เลย ไม่ต้องลอง

หัวหอกในตำนานอย่าง เอริก คันโตน่า, แอนดี้ โคล, ดไวท์ ยอร์ค, เท็ดดี้ เชอริงแฮม, เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หรือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ล้วนเป็นการทุ่มซื้อจากคู่แข่งร่วมลีก ตอนที่กำลังโชว์ฟอร์มไฉไล

แต่นโยบายเสริมทัพของ แมนฯ ยูไนเต็ด และนาทีนี้ มักจะมองไปที่ดาวรุ่งจากต่างแดนที่ต้องเอามาขัดเกลาพลางวัดดวงอีกทีว่าจะเล่นได้หรือไม่ 

ทว่าที่ซื้อมาส่วนใหญ่มักทำตัวน่าผิดหวังอย่างจงหนัก

5.เข้าใจว่าสโมสรไม่พร้อมทุ่มเงินเกิน 100 ล้านปอนด์แข่งกับ บาเยิร์น มิวนิค เพื่อซื้อ แฮร์รี่ เคน มาเสริมทัพในปี 2023 ทั้งที่เขาคือกองหน้าเป้าหมายอันดับ 1 ที่ เอริค เทน ฮาก ต้องการ

เข้าใจว่าประธานไก่เดือยทองอย่าง แดเนียล เลวี่ ไม่คิดจะขายดาวยิงตีนพระกาฬผู้นี้ให้คู่แข่งในลีกเดียวกันแน่ๆ 

เข้าใจว่าค่าเหนื่อยของกัปตันทีมชาติอังกฤษที่สูงถึงสัปดาห์ละเกือบ 5 แสนปอนด์ มันแพงมหาศาล

แต่พ่อก็ยังไม่เข้าใจตุ้มอยู่ดีว่าการเอาเงิน 100 ล้านปอนด์ไปละลายกับค่าตัวของ โจชัว เซิร์คซี่ กับ ราสมุส ฮอยลุนด์ มันคือการใช้เงินที่ดีกว่าตรงไหน ?

แล้วจากสถานการณ์การเงินของ แมนยูไนเต็ด ที่กำลังติดขัด แถมโอกาสไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ดูจะเป็นไปไม่ได้ การล่าตัวดาวยิงระดับพระกาฬ มันจะยิ่งเป็นไปได้ยากเย็นขึ้น

ดูเหมือนว่าช่วงซัมเมอร์นี้ หาก รูเบน อโมริม จะได้ศูนย์หน้าตัวใหม่มาเสริมทัพ บางทีอาจได้แค่พวก เกรดบี เกรดซี อีกเหมือนเดิม !

คิดแล้วก็ระทมกบาล

-บอ.บู๋-