การแข่งขันฟุตบอล 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ประจำฤดูกาล 2024/25 ถึงตอนนี้เดินทางมาได้ราวๆ เกือบ 70% แล้ว ซึ่งเท่ากับว่าอีกไม่กี่นัดก็จะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น ว่าแล้วเรามาอัปเดตกันสักหน่อย สำหรับสถานการณ์ล่าสุดของแต่ละลีก ทั้งกลุ่มลุ้นแชมป์, ท็อปโฟร์ และโซนตกชั้น
* พรีเมียร์ลีก *
- ลุ้นแชมป์ : ชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงบ้าน บวกกับการพ่ายคารังของ อาร์เซน่อล เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ที่โกยคะแนนทิ้ง "ไอ้ปืนใหญ่" ห่างถึง 11 แต้ม (แต่ ลิเวอร์พูล ลงเตะมากกว่า อาร์เซน่อล 1 นัด) มีโอกาสสดใสเหลือเกินที่จะคว้าแชมป์ ต่อให้เหลือโปรแกรมเตะอีกราว 11-12 นัดก็ตาม ซึ่งบางทีการแข่งขันในช่วงกลางสัปดาห์นี้ อาจจะทำให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
- ท็อปโฟร์ : น่าจะเป็นส่วนที่ลุ้นกันมันส์ โดย ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซน่อล จองโควตาไปแล้วสองที่ ดังนั้นเท่ากับว่าเหลืออีกสองที่ ซึ่งเปิดกว้างมากๆ โดยเฉพาะอันดับสามลงไปถึงที่แปดเป็นอย่างน้อย ซึ่งประกอบไปด้วย น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (47 แต้ม), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า (44 แต้ม), นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (44 แต้ม), บอร์นมัธ (43 แต้ม), เชลซี (43 แต้ม) และ แอสตัน วิล่า (42 แต้ม)
- โซนตกชั้น : เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมบ๊วย เพิ่งมีแค่ 9 แต้ม ยังไงก็คงไม่รอด ส่วน อิปสวิช ทาวน์ อันดับ 18 และ เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 19 (มี 17 แต้มเท่ากัน) ต่างก็ต้องลุ้นหนัก เพราะตามหลัง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ทีมอันดับ 17 ถึง 5 แต้ม ซึ่งมันอาจดูไม่เยอะ แต่ก็ถือว่าเยอะสำหรับทีมโซนนี้ ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (30 แต้ม) ที่รั้งอันดับ 15 อาจมีเสียว แต่ก็คงไม่แย่ถึงขั้นต้อนดิ้นรนหนีตกชั้นในช่วงท้ายๆ เพราะอยู่ห่างจากโซนสีแดงถึง 13 แต้ม
----------
* ลา ลีกา *
- ลุ้นแชมป์ : ซีซั่นนี้ลุ้นแชมป์กันสนุกแน่นอน เพราะ บาร์เซโลน่า (54 แต้ม), เรอัล มาดริด แชมป์เก่า (54 แต้ม) และ แอตเลติโก มาดริด (53 แต้ม) ต่างผลัดกันขึ้นจ่าฝูง เผลอๆ อันดับสี่อย่าง แอธเลติก บิลเบา (48 แต้ม) ก็อาจขึ้นมาลุ้นด้วย หากท็อปฟอร์มคว้าชัยรัวๆ หลังจากนี้
- ท็อปโฟร์ : แชมป์ยังดูไม่ออก แต่กลุ่มสี่อันดับแรกถือว่าค่อนข้างชัด โดย บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด ไม่หลุดโผแน่ ส่วนอีกทีมก็คงเป็นอันดับสี่ ณ เวลานี้อย่าง แอธเลติก บิลเบา ที่มี 48 แต้ม ซึ่งมีแค่ บียาร์เรอัล อันดับห้า (44 แต้ม) ทีมเดียวเท่านั้น ที่แอบมีลุ้น เพราะอันดับหกกับเจ็ดตอนนี้อย่าง ราโย บาเยกาโน (35 แต้ม) และ เรอัล เบติส (35 แต้ม) อยู่ห่างจากพื้นที่ท็อปโฟร์ถึง 13 แต้ม
- โซนตกชั้น : ทีมอันดับสุดท้ายอย่าง เรอัล บายาโดลิด (15 แต้ม) ที่ล่าสุดออกไปพ่าย แอธเลติก บิลเบา ด้วยสกอร์ 1-7 มีแววสูงมากที่จะต้องลงไปลุย เซกุนดา ลีกา ส่วนทีมอันดับ 18 และ 19 อย่าง บาเลนเซีย (23 แต้ม) และ เดปอร์ติโบ อลาเบส (22 แต้ม) ยังมีลุ้นยาวๆ เพราะแต้มเบียดกับพวกที่อยู่ข้างบน
----------
* กัลโช่ เซเรีย อา *
- ลุ้นแชมป์ : มันส์ไม่แพ้ ลา ลีกา เพราะสามอันดับแรกอย่าง อินเตอร์ มิลาน แชมป์เก่า (57 แต้ม), นาโปลี (56 แต้ม) และ อตาลันต้า (54 แต้ม) ผลัดกันขึ้นๆ ลงๆ อย่างสนุกสนาน โดย นาโปลี มีอยู่ช่วงหนึ่งนำโด่งเป็นจ่าฝูง แต่ด้วยการที่สี่เกมหลังสุด ไม่ชนะใครเลย (เสมอ 3, แพ้ 1) กลายเป็นตอนนี้ "งูใหญ่" ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแทน ส่วนอันดับสี่อย่าง ยูเวนตุส (49 แต้ม) อาจลุ้นแชมป์ยากในเชิงปฏิบัติ แต่ก็แอบหวังได้เบาๆ กับ 12 เกมที่เหลือ
- ท็อปโฟร์ : อินเตอร์ มิลาน, นาโปลี และ อตาลันต้า ไม่น่าหลุดจากท็อปโฟร์ ส่วนอีกหนึ่งโควตา ลุ้นกันยาวๆ ตั้งแต่อันดับสี่ไปถึงราวที่แปด ซึ่งประกอบไปด้วย ยูเวนตุส (49 แต้ม), ลาซิโอ (47 แต้ม), ฟิออเรนติน่า (42 แต้ม), เอซี มิลาน (41 แต้ม) และ โบโลญญ่า (41 แต้ม)
- โซนตกชั้น : มอนซ่า ทีมบ๊วย มีแค่ 14 แต้ม โอกาสตกชั้นสูง เพราะห่างจากโซนปลอดภัยถึง 9 แต้ม ขณะที่อันดับ 18 กับ 19 อย่าง เอ็มโปลี (21 แต้ม) และ เวเนเซีย (17 แต้ม) ยังมีหวัง แต่รายหลังเหนื่อยหน่อย ส่วน เฮลลาส เวโรน่า (26 แต้ม), กายารี่ (25 แต้ม), เลชเช่ (25 แต้ม) และ ปาร์ม่า ที่รั้งอันดับ 14-17 อยู่ในสถานการณ์ที่ประมาทไม่ได้
----------
* บุนเดสลีกา *
- ลุ้นแชมป์ : นำ 8 แต้ม กับเกมที่เหลืออีก 11 นัด ถือว่า บาเยิร์น มิวนิค (58 แต้ม) มีโอกาสสูงที่จะกลับมาเป็นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองเบียร์อีกครั้ง ส่วนแชมป์เก่าอย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่รั้งอันดับสอง (50 แต้ม) แม้มีคะแนนตามอยู่ค่อนข้างเยอะ แต่พวกเขาเป็นเพียงทีมเดียว ณ เวลานี้ ที่สามารถลุ้นแชมป์กับ "เสือใต้" เพราะ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต อันดับสาม เพิ่งมีแค่ 42 แต้ม
- ท็อปโฟร์ : บาเยิร์น มิวนิค กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ติดท็อปโฟร์แน่ๆ ขณะที่ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ก็ไม่น่าพลาด หากฟอร์มไม่หลุดจนน่าเกลียดในช่วงท้ายซีซั่น ดังนั้นอีกหนึ่งโควตาที่เหลือคงต้องลุ้นยาวๆ ไล่ตั้งแต่อันดับสี่ไปถึงเก้า ซึ่งประกอบไปด้วย ไฟร์บวร์ก (39 แต้ม), ไมนซ์ 05 (38 แต้ม), แอร์เบ ไลป์ซิก (38 แต้ม), เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท (36 แต้ม), เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก (34 แต้ม) และ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค (34 แต้ม) ส่วน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อันดับสิบ มี 32 แต้ม ยังพอลุ้นได้อยู่
- โซนตกชั้น : ทีมแชมป์เริ่มเห็นภาพ แต่กลุ่มตกชั้นถือว่าชัดเหลือเกิน เพราะสามทีมท้ายตาราง (อันดับ 16-18) อย่าง ไฮเดนไฮม์ (15 แต้ม), โบคุ่ม (15 แต้ม) และ โฮลสไตน์ คีล (13 แต้ม) ทำคะแนนเกาะกลุ่มกันดี ไม่ทิ้งกันเลย โดยที่ทีมอันดับ 15 อย่าง ซังค์. เพาลี มี 21 แต้ม ค่อนข้างหายใจสะดวก
ปล. ตามธรรมเนียมบอลเยอรมัน ทีมอันดับ 16 ยังมีหวังรอดตกชั้น โดยต้องไปลุ้นต่อในการเตะเพลย์ออฟแบบเหย้า-เยือน กับทีมอันดับสามจาก ลีกา สอง
----------
* ลีก เอิง *
- ลุ้นแชมป์ : ถึงแม้เหลือโปรแกรมเตะอีก 11 นัด แต่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (59 แต้ม) น่าจะป้องกันตำแหน่งแชมป์ได้สำเร็จ เพราะตอนนี้นำโด่งเป็นจ่าฝูง ด้วยการทิ้งห่าง โอลิมปิก มาร์กเซย ทีมอันดับสอง ถึง 13 แต้ม แถมเป็นทีมเดียวในห้าลีกใหญ่ยุโรปตอนนี้ที่ยัง "ไร้พ่าย"
- ท็อปโฟร์ : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ติดท็อปโฟร์แน่ๆ อยู่แล้ว แต่ที่เหลืออีกสามโควตา คงต้องสู้กันอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะอันดับสองถึงห้า ซึ่งประกอบด้วย โอลิมปิก มาร์กเซย (46 แต้ม), นีซ (43 แต้ม), ลีลล์ (41 แต้ม) และ อาแอส โมนาโก (40 แต้ม) ส่วนอันดับหกถึงเก้าอย่าง โอลิมปิก ลียง (36 แต้ม), สตราสบูร์ก (34 แต้ม), ล็องส์ (33 แต้ม) และ แบรสต์ (33 แต้ม) ต่างยังพอมีลุ้น
- โซนตกชั้น : มงต์เปลลิเยร์ ทีมอันดับสุดท้าย มี 15 แต้ม แต่ยังไม่หมดหวังในการได้อยู่รอดในเวที ลีก เอิง เพราะอยู่ห่างจากโซนปลอดภัย 7 แต้ม เช่นเดียวกับทีมอันดับ 16 และ 17 อย่าง แซงต์-เอเตียน (19 แต้ม) และ เลอ อาฟร์ (17 แต้ม) ส่วนทีมที่อยู่ในพื้นที่อันตรายอย่าง น็องต์ อันดับ 14 (24 แต้ม) และ แร็งส์ อันดับ 15 (22 แต้ม) ก็ต้องพยายามเก็บแต้มให้ได้ หากไม่ต้องการลงไปอยู่ในโซนสีแดง
Subinho