อาร์เซน่อล พบ เวสต์แฮม ! 5 ข้อปืนหมดราศรีลุ้นแชมป์,พ็อตเตอร์ ตัวตึงเอมิเรตส์

อาร์เซน่อล พบ เวสต์แฮม ! 5 ข้อปืนหมดราศรีลุ้นแชมป์,พ็อตเตอร์ ตัวตึงเอมิเรตส์
อาร์เซน่อล สร้างความผิดหวังครั้งใหญ่ให้กับแฟนบอลเมื่อลงเล่นใน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แต่โชว์ฟอร์มได้แบบดูไม่จืดแพ้ เวสต์แฮม คารัง 1-0 ในการฟาดแข้งศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ก.พ.พลาดโอกาสทำแต้มไล่ตาม ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงเหลือห้าแต้มซึ่งส่งผลให้โอกาสลุ้นคว้าแชมป์แทบดับสนิท แถมเป็นอีกเกมที่พวกเขาเหลือนักเตะแค่สิบราย

1.ปืนส่ง โมเรโน่ ยืนหอก

มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ อาร์เซน่อล วางหมากด้วยการส่ง มิเกล โมเรโน่ ลงเล่นเป็นตัวจริงด้วยการสวมบทหัวหอกหลังกองกลางทีมชาติ สเปน เป็นฮีโร่ของทีมลุกจากม้านั่งข้างสนามไปซัดสองประตูในเกมบุกดับ เลสเตอร์ 2-0

นอกจากสตาร์เลือดกระทิงดุที่ได้ลงเล่นก่อนหน้า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แล้ว อีกรายที่เจ้าบ้านสลับโผคือการเลือกใช้งาน ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ออกสตาร์ตก่อนหน้า ไมล์ส ลูอิส สเคลลีย์

2. ค้อนโรเตชั่นสี่ตำแหน่ง

เวสต์แฮม ของกุนซือ แกรม พ็อตเตอร์ เปลี่ยนโผตัวจริงสี่รายจากเกมแพ้ เบรนท์ฟอร์ด คาบ้าน 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาโดย เดอะ แฮมเมอร์ส มีผลงานไม่สู้ดีไม่ชนะเกมลีกสี่นัดรวด และเป็นความพ่ายแพ้มากถึงสามนัด

ขุนค้อน ตัดสินใจส่ง อารอน เครสเวลล์ และ ฌอง แคลร์ โตดิโบ้ ลงสนามเช่นเดียวกับ เจมส์ วอร์ด เพราส์ ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมแรกของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ตลอดจนเปิดโอกาสให้ โอลลี่ สคาร์ลส์ กองกลางวัย 19 ปีลงบู๊ในเกม พรีเมียร์ลีก เป็นตัวจริงนัดแรกเช่นกัน

สำหรับสามขุนพลที่หล่นไปนั่งข้างสนามประกอบไปด้วย คอนแสตนตินอส มาฟโรปานอส , เอเมอร์สัน และ คาร์ลอส โซเลร์ ขณะที่  ลูคัส ปาเกต้า ไม่มีส่วนร่วมเนื่องจากบาดเจ็บ

3. คาบ้านนัดแรก

เป็นอันว่า อาร์เซน่อล ถูกเบรกสถิติไม่แพ้เกมลีกนัดเหย้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังโดนประตูของ จาร์ร็อด โบเว่น ช่วงท้ายครึ่งแรกยัดเยียดความปราชัยให้กับพวกเขาโดยดาวเตะทีมชาติ อังกฤษ ซัดประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ของตัวเองได้ครบ 50 ลูกพอดี

ก่อนหน้านี้ ท็อปกัน ไม่แพ้เกมลีกในบ้านนาน 15 นัด แถมเป็นทีมเดียวใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ที่ไม่แพ้เกมเหย้าด้วย

ขณะเดียวกัน เมื่อนับรวมเกมลีกนัดเหย้าและเยือนในซีซั่นนี้ ทีมของ อาร์เตต้า ไม่แพ้นาน 15 นัดติดต่อกันโดยถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดของสโมสรนับตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งพวกเขาเคยมีผลงานไม่แพ้นาน 16 นัดรวด

ในจำนวน 15 นัดที่ว่านี้ เดอะ กันเนอร์ส คว้าชัยได้ 10 นัด และเสมอ 5 นัดนับตั้งแต่บุกไปแพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-0 ช่วงต้นเดือนพ.ย.แต่เกมพ่าย เวสต์แฮม ถือว่าน่าหดหู่อย่างยิ่งเนื่องจากเจ้าถิ่นซึ่งไม่ได้เสริมหัวหอกในตลาดเดือนม.ค.ส่งบอลเข้ากรอบเกมนี้ได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้นเท่ากับทีมร่วมเมืองพอดีซึ่งชี้ให้เห็นว่าฟอร์มของพวกเขากำลังแผ่วปลายเหมือนสองซีซั่นก่อนไม่มีผิด

สถิติหลังจบเกมเผยว่า อาร์เซน่อล ครองบอลได้มากกว่า 68%:32% และได้ยิง 20 ครั้งแต่ส่งบอลเข้ากรอบได้แค่ 2 ครั้งเท่ากับทีมเยือนที่ได้ยิง 5 ครั้งซึ่งแน่นอนว่าการปราศจากกองหน้าอาชีพส่อเค้าทำให้พวกเขาน่าจะต้องร้องเพลงรอต่อไปสำหรับโอกาสคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก

4. สนามที่ถูกโฉลก

แม้จะคุมทีม เวสต์แฮม มีผลงานไม่น่าพอใจหลังได้รับตำแหน่งต่อจาก จูเลน โลเปเตกี เนื่องจาก พ็อตเตอร์ คุมทีมชนะแค่นัดเดียวจากหกนัดในทุกรายการโดยเป็นการแพ้มากถึงสี่นัด

อย่างไรก็ดี อดีตนายใหญ่ทีม ไบรท์ตัน และ เชลซี มีผลงานที่ดีเหลือเชื่อในการคุมทีมบุกมาบู๊ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม โดยเขามีชัยที่นี่สามจากสี่นัดในการกุมบังเหียนทุกสโมสร

และในที่สุดผู้จัดการทีมอิงลิชก็สานต่อสถิติที่ยอดเยี่ยมด้วยการคว้าชัยที่สมรภูมิแห่งนี้ได้เป็นเกมที่สี่จากห้าเกม เป็นรองแค่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่มีชัย 8 และ 6 เกมตามลำดับ

ขณะเดียวกัน พ็อตเตอร์ เป็นนายใหญ่รายที่สองที่เอาชนะ อาร์เซน่อล ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้กับสามสโมสรในทุกรายการ (ออสเตอร์ซุนด์ส , ไบรท์ตัน และ เวสต์แฮม) ถัดจากที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ทำได้ในการคุมทีม เชลซี , เอฟเวอร์ตัน และ บาเยิร์น

5. ภาวนาเรือหักปีกหงส์

ก่อนเกมบู๊กับ เวสต์แฮม อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือ อาร์เซน่อล ลงความเห็นถึงโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของอดีตสโมสรแบบขำๆว่าจำเป็นต้องสวดมนต์ให้หนักขึ้นเนื่องจากเขามองไม่เห็นเลยว่า ลิเวอร์พูล จะสะดุด

และในที่สุดก็เป็น เดอะ กันเนอร์ส ที่สะดุดเองกับการแพ้ เดอะ แฮมเมอร์ส คารัง แม้จะด้วยสกอร์ที่เฉียดฉิวแค่ 1-0 แต่ฟอร์มในสนามบ่งชี้ว่าทีมของ อาร์เตต้า ไม่ดีพอ และเร่งเครื่องไม่ขึ้นเอาซะเลย

หลังโดน ขุนค้อน บุกมาทุบคาบ้านเท่ากับว่าทีม ปืนใหญ่ ไม่มีทางเลือกอีกแล้วนอกจากต้องภาวนาให้ แมนฯ ซิตี้ เปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม เอาชนะ ลิเวอร์พูล ให้ได้ในวันอาทิตย์นี้เพื่อหยุดช่องว่างของคะแนนให้ห่างกัน 8 แต้มเท่าเดิมแทนที่จะเป็น 11 แต้มโดยที่ทั้งสองทีมจะลงสนามเท่ากันซึ่งหากเป็นอย่างหลังก็เชื่อขนมกินตั้งแต่ตอนนี้ได้เลยว่าทีมของ อาร์เตต้า จะทำแฮททริคอกหักสามปีซ้อน

อย่างไรก็ดี เมื่อมองดูสภาพของ เรือใบสีฟ้า และผลงานของพวกเขาในซีซั่นนี้ มันชัดเจนว่าเป็นซีซั่นที่เลวร้ายที่สุดในอาชีพกุนซือของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

หากจะมองแบบเข้าข้างตัวเองสำหรับทั้งแชมป์เก่า และ อาร์เซน่อล การตกรอบฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก จะทำให้ทีมเงินถังหันมาทุ่มเทอย่างเต็มที่กับ พรีเมียร์ลีก ได้มากขึ้นเพื่อพยายามยึดอันดับท็อปโฟร์ให้ได้ต่อการคว้าโควต้าลงเล่นถ้วยหูใหญ่อย่างที่ กวาร์ดิโอล่า ระบุหลังโดน เรอัล มาดริด เขี่ยตกรอบเกมเพลย์ออฟ

ถึงกระนั้นก็เถอะ อย่าลืมว่านาทีนี้ แมนฯ ซิตี้ ไม่ใช่ทีมเดิมอีกต่อไปแล้วเนื่องจากพวกเขาเสียประตูมากกว่า เอฟเวอร์ตัน ซะอีก แถม หงส์แดง เป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในลีกด้วย มันจึงน่าสนใจเหลือเกินว่า เรือใบสีฟ้า จะเรียกศรัทธากลับคืนมาจากแฟนบอล และสร้างประโยชน์ให้ อาร์เซน่อล ไปในตัวได้หรือเปล่า


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport