แอสตัน วิลล่า พบ ลิเวอร์พูล ! 5 ประเด็นหงส์ปีกเริ่มหนัก,เกมนอกบ้านชวนหวั่นใจ

1. วิลล่า ส่ง แรชฟอร์ด ลงตัวจริง

แอสตัน วิลล่า ส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าที่ยืมมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกให้กับสโมสรหลังสตาร์อิงลิชลงสนามให้ สิงห์ผงาด มาแล้วสองนัดในฐานะตัวสำรอง

อูไน เอเมรี่ นายใหญ่ วิลล่า ตัดสินใจใช้งาน แรชฟอร์ด ก่อนหน้า เจค็อบ แรมซีย์ ขณะที่ มาร์โก อเซนซิโอ ที่ย้ายมาจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แบบยืมตัวเช่นกันเป็นอีกรายที่ได้ออกสตาร์ตแทน ดอนเยลล์ มาเลน ที่มีชื่อนั่งข้างสนาม

นอกจากนี้ ไทโรน มิงส์ ที่เจ็บเข่าจากเกมเสมอกับ เวสต์แฮม 1-1 ในบ้านเดือนก่อนฟิตกลับมาคุมเกมรับได้ สวนทางกับ บูบาการ์ กามาร่า ที่เจ็บแฮมสตริงจากเกมล่าสุดนัดเฝ้าบ้านไล่ตีเสมอ อิปสวิช 1-1  รวมแล้วเจ้าถิ่นโรเตชั่นทีมสามราย

2. หงส์ ใช้งาน โจนส์ พ้นแบน-ยังไร้ กัคโป

ลิเวอร์พูล เปลี่ยนโผตัวจริงรายเดียวจากเกมเฝ้าบ้านชนะ วูล์ฟส์ 2-1 ในการฟาดแข้งเมื่อสุดสัปดาห์

อาร์เน่อ สล็อต เลือกส่ง เคอร์ติส โจนส์ กองกลางที่พ้นโทษแบนหนึ่งนัดลงเล่นแทน หลุยส์ ดิอาซ ที่หล่นไปรับบทตัวสำรอง

อย่างไรก็ดี หงส์แดง ยังปราศจาก โคดี้ กัคโป ต่ออีกเกมเนื่องจากสตาร์ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ยังอยู่ในช่วงบาดเจ็บ

ด้าน แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ครบ 300 นัดในเกมนี้ (57 นัดกับ ฮัลล์ ,243 นัดกับ ลิเวอร์พูล) โดยเป็นนักเตะสกอตติชรายที่เจ็ดที่ผ่านมาถึงหลักนี้ และเป็นนักเตะเลือดวิสกี้รายแรกของ เร้ด แมชีน ต่อจากที่ แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ ทำได้ในเดือนพ.ค.2001

3. วัตกิ้นส์ ขยันยิงหงส์

ตั้งแต่เริ่มเกมขึ้นมา ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นถึงเกมรุกที่น่าครั่นคร้าม และแทงบอลเข้าเขตโทษเจ้าบ้านไปหาช่องส่องยิงได้โดยตลอด 

จนในที่สุด นาทีที่ 29 อันเดรส การ์เซีย กองหลัง วิลล่า ก็ทนแรงกดดันไม่ได้เมื่อจ่ายบอลเสียง่ายๆไปเข้าทางให้ ดีโอโก้ โชต้า ผ่านต่อไปที่ โม ซาลาห์ โดยสตาร์ทีมชาติ อียิปต์ ตะบันไม่พลาดพา หงส์แดง นำ 1-0 จนได้

ถึงตอนนี้ ซาลาห์ พังประตูในเกม พรีเมียร์ลีก เพิ่มเป็น 24 เม็ด และเป็นเม็ดที่ 29 เมื่อนับรวมในทุกรายการ แถมยิงให้ หงส์แดง เพิ่มเป็น 240 ประตูตามหลัง กอร์ดอน ฮ็อดจ์สัน ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลอันดับสามของถิ่น แอนฟิลด์ แต่ประตูเดียวเท่านั้น

อย่างไรก็ดี แม้จะมีโอกาสเพิ่มสกอร์อีกหลายหน แต่ทีมของ สล็อต ยิงนกตกปลาไปหมด กระทั่งนาทีที่ 38 วิลล่า ทวงคืนได้จาก ยูริ ตีเลอมันส์ แถมในช่วงทดเวลา ลูก้า ดีญ สาดบอลจากกราบซ้ายให้ โอลลี่ วัตกิ้นส์ โขกไม่เหลือพาทีมเจ้าบ้านแซงนำ 2-1 ใน 45 นาทีแรก

หลังคลำเป้าให้ทีม สิงห์ผงาด เฮลั่น วัตกิ้นส์ กลายเป็นนักเตะที่สอยตาข่าย เร้ด แมชีน ในเกม พรีเมียร์ลีก ได้มากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มซีซั่น 2020/21 จากผลงาน 6 ประตูเท่ากับ ซน ฮึง มิน

ด้าน ตีเลอมันส์ ก็ถูกโฉลกเกมฉะกับ ลิเวอร์พูล เช่นกันเนื่องจากเขายิงได้แค่สองประตูในเกม พรีเมียร์ลีก 53 นัดหลัง และทั้งสองเม็ดเป็นการสอยตาข่าย หงส์แดง ได้ทั้งหมดโดยก่อนหน้านี้ดาวเตะ สิงห์บลูส์ ทำสกอร์ได้เช่นกันในเดือนพ.ค.ของซีซั่นก่อน

จากสกอร์ที่ปรากฏทำให้เป็นครั้งแรกที่ หงส์แดง ได้ประตูก่อน แต่ต้องตกเป็นรองหลังจบครึ่งแรกในเกม พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เกมที่พวกเขาดวลกับ อาร์เซน่อล ในเดือนก.ค.2020

ขณะเดียวกัน แม้จะเริ่มต้นได้ดีด้วยการกดดันเจ้าบ้านอย่างหนัก แต่ทำไปทำมาสถิติใน 45 นาทีแรกระบุว่า สิงห์ผงาด พลิกกลับมาครองบอลได้ดีกว่า 54.2%: 45.8% แม้ ลิเวอร์พูล จะได้ยิงมากกว่า 10 ครั้ง แต่พวกเขาส่งบอลเข้ากรอบได้แค่ครั้งเดียว ขณะที่ทีมของ เอเมรี่ ได้ยิง 3 ครั้ง แต่ส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 2 ครั้ง

4. เทรนต์ กู้ชีพจ่าฝูง

ในที่สุดเกมก็จบลงด้วยผลเสมอ 2-2 เมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตัดบอลได้ และพาลุยขึ้นมาอย่างน่ากลัวก่อนประสานงานกับ ซาลาห์ แล้วซัดแฉลบ มิงส์ ตุงตาข่ายในนาทีที่ 61

แน่นอนว่าประตูนี้นับว่าสำคัญอย่างยิ่งต่อการพยายามลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ ลิเวอร์พูล เนื่องจากระยะหลังทีมจ่าฝูงเริ่มออกอาการเร่งไม่ขึ้น การได้หนึ่งแต้มย่อมดีกว่าจบเกมแบบมือเปล่าวันยังค่ำ

สำหรับ ซาลาห์ นอกจากจะยิงให้ทีมนำหน้าแล้ว เขายังเพิ่มสถิติแอสซิสต์เป็นประตูที่ 15 ในซีซั่นนี้ด้วย แต่ชัดเจนว่าช่วงท้าย เร้ด แมชีน หวิดเสียประตูหลายหนจึงต้องถือว่าพวกเขาเอาตัวรอดไปได้แม้จะไม่อาจคว้าสามแต้มออกจาก วิลล่า พาร์ค ได้สำเร็จ

จากการระเบิดฟอร์มทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมเดียวกัน ซาลาห์ มีผลงานด้านนี้รวม 10 นัดแล้วในซีซั่นนี้ และเป็นนักเตะคนแรกที่ทำแบบนี้ได้ต่อจาก ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งเคยสร้างผลงานยิงและแอสซิสต์นัดเดียวกันรวม 11 นัดในซีซั่น 2014/15 โดยในซีซั่นที่ว่าสตาร์ทีมชาติ อาร์เจนติน่า กระซวกตาข่ายได้ 58 เม็ดพาทีม บาร์เซโลน่า คว้าสามแชมป์

หลังได้ผลเสมอ 2-2 ทำให้ วิลล่า เก็บได้ 15 แต้มในฐานะทีมที่ตกเป็นรองก่อนซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้รองจาก แมนฯ ซิตี้ (17) และ ลิเวอร์พูล (16)

อย่างไรก็ดี ประตูแรกที่เสียให้ ลิเวอร์พูล นัดนี้ทำให้ วิลล่า ก่อความผิดพลาดจนโดนสอยตาข่ายในซีซั่นนี้มากถึง 12 เม็ดแล้ว และเป็นรองแค่ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมเดียวที่เล่นพลาดจนโดนลงโทษ 17 ประตู

5. เยือนเรือใบจะออกหน้าไหน?

ผ่านมาถึงขณะนี้ ลิเวอร์พูล อาจยังไม่แพ้เกมเยือนใน พรีเมียร์ลีก ก็จริง และแพ้ตลอดซีซั่นแค่นัดเดียวเท่านั้น แต่หากใครเป็นกองเชียร์ เดอะ ค็อป น่าจะรู้สึกหวั่นอยู่ลึกๆในใจว่าทีมรักจะสลัดฟอร์มที่ตกลงไป ณ ขณะนี้ทิ้งไปได้หรือเปล่าเนื่องจากมันอาจส่งผลต่อการลุ้นคว้าแชมป์ในบั้นปลาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในหลายเกมหลัง หงส์แดง อ่อนแรงลงไปอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งนัดเยือนก่อนหน้านี้พวกเขาเก็บได้แค่แต้มเดียวในเกมเยือน เอฟเวอร์ตัน ก่อนเก็บได้อีกแต้มในเกมล่าสุดในถิ่น สิงห์ผงาด

สำหรับนัดเฝ้าบ้านดวลกับ วูล์ฟส์ แม้ ลิเวอร์พูล จะกำชัย 2-1 แต่เห็นได้ว่าฟอร์มของพวกเขาไม่เหมือนก่อนอีกแล้ว และเป็นอีกเกมที่ต้องบอกว่าทีมจ่าฝูงเอาตัวรอดไปได้เนื่องจากตลอด 45 นาทีหลัง พวกเขาไม่มีโอกาสยิงประตูทีม หมาป่า เลยแม้แต่ครั้งเดียวซึ่งชี้ให้เห็นเต็มตาว่าลูกทีมของ สล็อต กำลังมีปัญหาในครึ่งซีซั่นหลัง

สำหรับเกมต่อไปในวันอาทิตย์นี้ซึ่ง ลิเวอร์พูล จะบุกไปเยือน แมนฯ ซิตี้ จะเป็นการพิสูจน์ครั้งสำคัญว่าพวกเขาจะเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้หรือเปล่าสำหรับการเล่นนอกบ้านซึ่งทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์เก็บได้สองแต้มในสองเกมหลัง

อย่างไรก็ดี หงส์แดง พอจะอุ่นใจได้บ้างเนื่องจากซีซั่นนี้ เรือใบสีฟ้า ไม่มีความน่าเกรงขามหลงเหลืออยู่แล้ว และพวกเขาเพิ่งออกไปโดน เรอัล มาดริด ถล่มยับ 3-1 กระเด็นตกรอบเพลย์ออฟถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ตามคาดจึงอาจทำให้สภาพจิตใจของทีมแชมป์เก่าไม่สู้ดีสักเท่าไหร่

จะอย่างไรก็ตาม ต้องรอดูกันว่านักเตะของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะอาศัยเกมเฝ้าบ้านวันอาทิตย์นี้สร้างความฮึกเหิมเรียกศรัทธากลับคืนมาจากแฟนบอลได้หรือเปล่า หรือว่าพวกเขาจะหมดอาลัยตายอยากจนโดน หงส์แดง บุกมาจิกถึง เอติฮัด สเตเดี้ยม เพราะอย่าลืมว่าก่อนออกไปโดน ราชันชุดขาว ยำใหญ่ เรือใบสีฟ้า ต่อกรกับทีมแชมป์หูใหญ่ในรังตัวเองได้ไม่เลวแม้จะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ 3-2 ในช่วงทดเวลา