7 แต้มคว้าแชมป์ไหวมั้ย ? พลิกปูม ลิเวอร์พูล ยังวางใจไม่ได้

และหากวันพุธนี้ หงส์แดง บุกไปสยบ แอสตัน วิลล่า ได้ พวกเขาจะหนีทีม ปืนใหญ่ เป็นสิบแต้มโดยลงสนามมากกว่าหนึ่งนัด

ไม่ว่าหลังจบเกมที่ วิลล่า พาร์ค ลิเวอร์พูล จะนำหน้าทีมเมืองกรุงเจ็ดแต้มหรือสิบแต้ม เราจะย้อนกลับไปดูอดีตที่ผ่านมาถึงทีมจ่าฝูงที่นำหน้าแบบหายห่วง แต่สุดท้ายกลับรับประทานแห้วอย่างไม่น่าเชื่อ

1. นิวคาสเซิ่ล 1995/96

- นำ 12 แต้มหลังผ่านไป 23 นัด

- แชมเปี้ยน : แมนฯ ยูไนเต็ด

เควิน คีแกน กุนซือ นิวคาสเซิ่ล ให้สัมภาษณ์กับสื่อโดยออกอาการตบะแตกหลังถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อาศัยชั้นเชิงด้านจิตวิทยายั่วยุกระทั่งท้ายที่สุด ผีแดง ตบเกียร์ห้าแซงเข้าป้ายคว้าแชมป์ในซีซั่นนั้น

หลังจากลงสนาม 23 นัด สาลิกาดง นำหน้า ผีแดง ซึ่งรั้งอันดับสามในเวลานั้น 12 แต้ม แต่จบซีซั่นทีมของป๋าเฟอร์กี้ได้แชมป์โดยมีคะแนนมากกว่าทีมอีสานห้าแต้ม

จาก 23 นัดแรก นิวคาสเซิ่ล แพ้แค่สามนัด แต่ใน 15 นัดที่เหลือ พวกเขาแพ้ห้านัด

สำหรับทีมของ อาร์เน่อ สล็อต ถึงตอนนี้พวกเขาแพ้แค่นัดเดียวจาก 25 นัด แต่สุดท้ายเขาจะประสบชะตากรรมแบบเดียวกันกับ คีแกน หรือเปล่าเป็นสิ่งที่ต้องรอลุ้นกันดู

2. แมนฯ ยูไนเต็ด 1997/98

- นำ 12 แต้มหลังผ่านไป 22 นัด

- แชมเปี้ยน : อาร์เซน่อล

ในเดือนเม.ย.1997 เฟอร์กี้ เคยวิจารณ์ อาร์แซน เวนเกอร์ ว่าควรแสดงความเห็นเฉพาะฟุตบอลเมืองปลาดิบเท่านั้น แต่ซีซั่นต่อมากุนซือเฟรนช์แมนพาทีม ปืนใหญ่ ซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นสมัยแรกของเขา

ในตอนนั้นยังถือว่า เวนเกอร์ เป็นน้องใหม่ในลีกอิงลิชหลังย้ายมาจาก นาโงย่า แกรมปัส เอท สโมสรของลีกเมืองซามูไรช่วงกลางเทอม

แม้ซีซั่นแรกของเขากับ เดอะ กันเนอร์ส เวนเกอร์ จะคุมทีมคว้าอันดับสาม แต่ซีซั่นต่อมาเขานำโทรฟี่ พรีเมียร์ลีก มาประดับตู้โชว์สโมสรได้แม้จะตามหลัง ผีแดง 12 แต้มในช่วง 17 นัดสุดท้ายโดยทีม ปืนใหญ่ ลงเล่นน้อยกว่า ผีแดง หลายเกมในขณะนั้น

จากเก้านัดต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้มากถึงสี่นัด ขณะที่ อาร์เซน่อล ไร้พ่าย 16 นัดโดยเป็นการชนะรวดสิบนัดก่อนซิวแชมป์ไปครอง

3. แมนฯ ยูไนเต็ด 2011/12

- นำ 8 แต้มขณะที่เหลืออีก 6 นัด

-แชมเปี้ยน : แมนฯ ซิตี้

เรือใบสีฟ้า ประสบความสำเร็จได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยแรกของสโมสรอย่างสุดระทึกชนิดที่กองเชียร์ ผีแดง ไม่อาจลืมเลือนได้

แมนฯ ยูไนเต็ด นำหน้า 8 แต้มขณะที่เหลือเกมอีก 6 นัดโดยหลังเปิดบ้านกำราบ คิวพีอาร์ 2-0 พวกเขากำชัยได้ 8 นัดติดต่อกันหลัง แมนฯ ซิตี้ บุกไปแพ้ อาร์เซน่อล 1-0

กระนั้นก็ดี ถัดมาทีมของ เฟอร์กี้ บุกไปแพ้ วีแกน 1-0 ก่อนเฝ้าบ้านเจ๊ากับ เอฟเวอร์ตัน 4-4 และบุกไปพ่าย แมนฯ ซิตี้ ตามมาด้วยสกอร์ 1-0

กระทั่งในเกมปิดซีซั่น แมนฯ ซิตี้ ฟาดแข้งกับ คิวพีอาร์ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม และได้ เซร์คิโอ อเกวโร่ เป็นฮีโร่กระทุ้งประตูชัย 3-2 ในช่วงทดเวลา

แม้ ผีแดง จะบุกไปเฉือนชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0  แต่ความเสียหายเกิดขึ้นก่อนแล้วในเกมบู๊กับ วีแกน และ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งทำให้ เรือใบสีฟ้า คว้าแชมป์ไปครองด้วยประตูได้เสียที่เหนือกว่า

4. ลิเวอร์พูล 2018/19

- นำ 7 แต้มหลังผ่านไป 20 นัด

- แชมเปี้ยน : แมนฯ ซิตี้

หงส์แดง เองก็เคยทิ้งขว้างโทรฟี่มาก่อนเช่นกันแม้พวกเขาจะเก็บได้ 87 แต้ม แต่ก็ไม่มากพอที่จะประสบความสำเร็จ

ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เคยนำหน้า เรือใบสีฟ้า 7 แต้ม แต่ท้ายซีซั่น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สำแดงฝีมือพาทีมกำชัย 14 นัดติดต่อกันจนจบซีซั่น และได้แชมป์ไปครองโดยมีแต้มมากกว่า หงส์แดง แต้มเดียว

และที่สำคัญ ในเดือนม.ค.แมนฯ ซิตี้ เฝ้าบ้านสยบ ลิเวอร์พูล ได้ 2-1 ซึ่งถูกพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นจุดพลิกผันของซีซั่นอย่างแท้จริง

แม้ หงส์แดง จะไม่แพ้เลยจากการออกสตาร์ต 20 นัดแรกโดยพวกเขาเสมอสามนัด แต่หลังแพ้ แมนฯ ซิตี้ เป็นนัดแรก พวกเขาเสมออีกสี่นัดใน 18 นัดสุดท้าย และเป็นได้แค่พระรองแม้แชมเปี้ยนจะแพ้มากกว่ารวมสี่นัด

5. อาร์เซน่อล 2022/23

- นำ 8 แต้มขณะที่เหลืออีก 9 นัด

- แชมเปี้ยน : แมนฯ ซิตี้

ทีม ปืนใหญ่ มองดูมีแววคว้าแชมป์จวบจนเดือนเม.ย.2023 ซึ่งสถานการณ์เริ่มพลิกผัน

ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า นำหน้า แมนฯ ซิตี้ 8 แต้ม และมีเกมตุนอยู่อีกนัดขณะเหลือการฟาดแข้งอีก 7 นัดเท่านั้น

อย่างไรก็ดี ทีมเมืองหลวงสะดุดอย่างไม่น่าเชื่อโดยพวกเขาเสมอสามนัดรวด รวมแล้วพวกเขาแพ้เพิ่มอีกสามเกมมากกว่าก่อนเดือนเม.ย.ซึ่งพวกเขาแพ้แค่สองเกมจาก 29 เกมแรก

ในทางกลับกัน แมนฯ ซิตี้ ชนะ 12 นัดรวดโดยเปิดรังกำราบ อาร์เซน่อล 4-1 ด้วย และแม้สองนัดสุดท้ายพวกเขาจะฟอร์มหลุดเก็บได้แค่แต้มเดียว แต่มันเพียงพอที่จะทำให้ เดอะ กันเนอร์ส ช้ำใจ