ลิเวอร์พูล กับความอันตรายที่พึ่งพา โม ซาลาห์ มากเกินไป

ลิเวอร์พูล กับความอันตรายที่พึ่งพา โม ซาลาห์ มากเกินไป
การมีส่วนร่วมกับประตู ไม่ว่ายิงเองหรือแอสซิสต์ให้กับ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้ ดูกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไปแล้ว

ลูกครอสที่ให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โขกตีเสมอครึ่งแรกที่ กูดิสัน พาร์ค แล้วครึ่งหลังบวกสกอร์ให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 2-1 ส่งให้ ซาลาห์ ทำประตูกับแอสซิสต์ในเกมเดียวกันเป็นครั้งที่ 9 บนศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้

ยอดรวมในลีกซีซั่น 2024/25 ของดาวเตะวัย 32 ปีคือ 22 ประตู 14 แอสซิสต์ รวมทุกรายการคือ 27 ลูก 19 แอสซิสต์ 

และเมื่อ ลิเวอร์พูล กำลังจะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล ผลงานของ ซาลาห์ เองดูยังไม่มีทีท่าจะลดความร้อนแรงลง

คำถามคือ ลิเวอร์พูล ตกอยู่ในความอันตรายหรือเปล่า เมื่อพวกเขาพึ่งพา ซาลาห์ มากเกินไป?!

เมื่อมองเพื่อนร่วมทีมตำแหน่งแนวรุกคนอื่น ๆ สถิติของพวกเขาเหล่านั้นไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก

เป็นเวลา 10 เกมแล้วที่ หลุยส์ ดิอาซ ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด

6 นัดหลังสุด ดาร์วิน นูนเญซ ไร้ชื่อเป็นคนทำประตู (3 ลูกจาก 19 เกมหลังสุด)

ดีโอโก้ โชต้า ที่มีค่าเฉลี่ยทำประตูหนึ่งลูกต่อสามนัดในปีที่เจอปัญหาบาดเจ็บ ถึงตอนนี้แต่เขาก็ไม่มีสกอร์มาแล้ว 3 นัดติด

สำหรับ โคดี้ กัคโป ดีเกินกว่าที่จะหาข้อตำหนิ ทว่าความสำคัญของ ซาลาห์ ต่อ ลิเวอร์พูล ตอกย้ำให้เห็นถึงความชัดเจนเมื่อนำสถิติทำประตูและแอสซิสต์ไปเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมทีมที่กล่าวมา

ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับประตูในซีซั่นนี้ทุกรายการ 46 ครั้ง ส่วนคนอื่น ๆ ที่ตามมาคือ กัคโป (21), ดิอาซ (14), นูนเญซ (10) และ โชต้า (10)

...

ไม่มีทีมไหนใน พรีเมียร์ลีก เลยที่จะพึ่งพาผู้เล่นเกมรุกคนใดคนหนึ่งเหมือนอย่างที่ ลิเวอร์พูล กำลังมี ซาลาห์ คอยสร้างสรรค์การทำประตู

62% คือตัวเลขที่ ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับประตูใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ 

ตามมาด้วย อเล็กซานเดอร์ อิซัค (52%), เลียม ดีแลป (50%) และ คริส วู้ด (48%)

ซึ่งหากย้อนอดีตกลับไป มีแค่ แมทธิว เลอ ทิสสิเอร์ พ่อมดแห่ง เซาธ์แฮมป์ตัน เท่านั้นที่มีเปอร์เซนต์ส่วนร่วมกับประตูมากกว่า ซาลาห์ นั่นคือ 69% เมื่อฤดูกาล 1993/94

ขณะคนที่มีเปอร์เซนต์เท่า ซาลาห์ ก็คือ อลัน เชียเรอร์ สมัยอยู่ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ปี 95/96

จริง ๆ ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเท่าไหร่ว่าทำไม ซาลาห์ ถึงได้เป็นคนสำคัญอย่างมากต่อเกมรุก ลิเวอร์พูล

เขาคือหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก และ อาร์เน่อ เองก็ออกแบบแผนการเล่นเพื่อรีดสิ่งที่ดีที่สุดของ ซาลาห์ ออกมา

กล่าวคือ...

1. ระบบ ลิเวอร์พูล พยายามวางให้ ซาลาห์ อยู่ในพื้นที่เข้าทำและใกล้กับประตูคู่แข่ง 

2. เมื่อทีมได้ครองบอล เป้าหมายที่บอลจะต้องไปถึงคือให้ ซาลาห์ เพื่อจบสกอร์

จากบรรดาผู้เล่น พรีเมียร์ลีก ทั้งหมดที่ลงเล่นเกิน 900 นาทีในซีซั่นนี้ มีเพียง อองตวน เซเมนโย่ (4.1) กับ โนนี่ มาดูเอเก้ (4) สองคนเท่านั้นที่มีโอกาสทำประตูต่อ 90 นาทีมากกว่า ซาลาห์ (3.9)

3. เมื่อไม่ได้ครอบครองบอล ซาลาห์ มักจะได้รับหน้าที่กดดันเซนเตอร์แบ็กฝั่งขวามากกว่าแบ็กขวาฝั่งตรงข้าม 

และหากลูกบอลถูกจ่ายผ่านเขาไป ความรับผิดชอบจะเป็นของผู้เล่นหมายเลข 10 ไม่ว่าจะ โดมินิค โซโบซไล, เคอร์ติส โจนส์ หรือกระทั่งแบ็กขวาที่อาจต้องมาคลุมพื้นที่แทน

ที่กล่าวมานี้ ไม่ใช่เป็นการวิจารณ์ตัว ซาลาห์ แต่เป็นการเน้นย้ำถึงบทบาทที่เขาได้รับ เช่น ลดเรื่องการวิ่งช่วยเกมรับ เพื่อไม่ให้อยู่ต่ำมากเกินไปในตอนที่ทีมเริ่มเล่นเกมรุก

...

ฟอร์มร้อนแรงของ ซาลาห์ คือปัจจัยสำคัญที่พา ลิเวอร์พูล ทะยานสูงสุดบนตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก, เข้าชิง คาราบาว คัพ, ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย แชมเปี้ยนส์ ลีก

ว่าแต่ สิ่งนี้มันส่งกระทบต่อเพื่อน ๆ แนวรุกคนอื่นไหม? 

คำตอบคือ มันค่อนข้างซับซ้อนไม่น้อย...

กัคโป ค่อย ๆ เล่นดีขึ้นมาแบบเงียบ ๆ ทางริมเส้นด้านซ้าย 

ย้อนไปตอน เจอร์เก้น คล็อปป์ คุมทีม น้อยครั้งมากที่ กัคโป จะได้เล่นตรงตำแหน่งธรรมชาติของตัวเอง 

แล้วเมื่อ อาร์เน่อ เข้ามา เฮดโค้ชดัตช์ ไร้ข้อสงสัยว่าตำแหน่งที่ กัคโป ควรจะได้ลงเล่นคือพื้นที่ตรงไหน

ซึ่งผลที่ออกมาคือ กัคโป ทำประตูในซีซั่นนี้ได้เทียบเท่ากับปีก่อนทั้งปีไปแล้วเรียบร้อย

ปีกขวา-ปีกซ้าย ตอกย้ำให้เห็นถึงตำแหน่งที่โดดเด่นภายใต้ ลิเวอร์พูล ยุค อาร์เน่อ 

หรือกระทั่ง ดิอาซ ด้วยอีกคน ที่ตอนต้นฤดูกาลเป็นตัวจริงปีกซ้ายซึ่งเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงหมายเลข 9 มันกลับแตกต่างจากปีกทั้งสองข้าง

โชต้า ที่ดูเหมือนเป็นคนที่วางใจได้มากสุดกับตำแหน่งนี้ แต่เขามักถูกชะงักด้วยเรื่องอาการบาดเจ็บ

ขณะที่ นูนเญซ โดยรวมคือมีพัฒนามากขึ้น แต่เรื่องการทำประตูยังคงเป็นปัญหา

มีสถิติเปรียบเทียบของ นูนเญซ กับ โชต้า ระหว่างฤดูกาลก่อนกับฤดูกาลนี้

ตัวเลขของ นูนเญซ ลดลงจากปีก่อนแทบทุกอย่าง ทั้งจำนวนประตูต่อเกม, แอสซสิต์ต่อเกม, ค่า xG (ค่าคาดการณ์ที่จะเป็นประตู), การส่องประตูต่อเกม, เข้ากรอบต่อเกม, ความแม่นยำในการจบสกอร์, และการจับบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่ง

ส่วน โชต้า แม้จะลดลงจากเดิมหลายด้าน แต่ xG กับความแม่นยำจบสกอร์ดีขึ้นกว่าเดิม

...

ก่อนเกมเจอ คริสตัล พาเลซ ตอนเดือนตุลาคม อาร์เน่อ เผยว่าเขาคิดเรื่องการนำกองหน้าไปยืนตรงพื้นที่ทำประตูมากขึ้น

อาร์เน่อ เองก็พูดถึงสองประตูที่ โชต้า ทำได้ในเกม คาราบาว คัพ กับ เวสต์แฮม ว่ามาจากตำแหน่งหมายเลข 10

มันเป็นกระบวนการที่ดำเนินมาต่อเนื่อง เมื่อ ดิอาซ ถูกจับมาเล่นบทบาทนี้เพื่อให้ อาร์เน่อ ได้หมุนเวียนใช้งานผู้เล่น 

ซึ่งแรก ๆ ดิอาซ ทำผลงานได้ดี ทั้งทำประตูได้ในเกมเจอ สเปอร์ส กับ เวสต์แฮม แต่จากนั้นผลงานของดาวเตะโคลอมเบีย หายไปแบบปลิดทิ้งเมื่อเข้าสู่ปฏิทินปี 2025

เดือนมกราคม ดิอาซ เริ่มเล่นบทบาทหมายเลข 9 นัดปะทะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และ เบรนท์ฟอร์ด แต่ฟอร์มของเขาไม่ได้สร้างความอันตรายเลย แล้วก็ถูกเปลี่ยนตัวออกโดยมี โชต้า กับ นูนเญซ ลงเล่นแทน

และทั้งสองคนที่ลงมาแทนสามารถทำประตูได้

การเล่นบทบาทกองหน้าของ ดิอาซ เขาจะทำได้ดีเมื่อเจอคู่แข่งที่วางไลน์เกมรับสูง โดยจะลากเลื้อยไปตรงพื้นที่ว่างจนเหมือนเป็นหมายเลข 10 อีกคนหนึ่งร่วมกับ โซโบซไล 

แต่เมื่อเจอทีมวางแนวรับต่ำ พื้นที่ว่างจะหาได้ยากทำให้ ดิอาซ เจอปัญหาในการเล่นรวมถึงไม่ได้กดดันเซนเตอร์แบ็กคู่แข่งเท่าไหร่

การแถลงข่าวก่อนเกมเจอ พลีมัธ อาร์เน่อ พูดถึงเรื่องการใช้หมายเลข 9 ในทีม ลิเวอร์พูล ของเขา

"ผมคิดว่าปกติแล้วน่ะ เราใช้หมายเลข 9 ได้ดีขึ้นกว่าตอนที่เราเคยใช้เมื่อช่วงต้นฤดูกาล"

"นั่นคือเรื่องดีที่มีเกมให้ลงเล่นมากขึ้น แล้วได้ซ้อมร่วมกันมากขึ้น และได้พูดคุยร่วมกันมากขึ้น"

"คุณเองก็เห็นเรื่องนั้นได้ชัดขึ้นเช่นกัน ผมคิดว่าช่วงเริ่มฤดูกาล เราค่อนข้างพึ่งพาปีกทั้งสองข้าง แต่ผมก็เห็นว่าเราเริ่มใช้งานหมายเลข 9 มากขึ้น"

"เพราะนี่แหละ ผู้เล่นเหล่านี้ถึงจะได้ลงเล่นตำแหน่งที่มีโอกาสโชว์ฟอร์มเก่งได้ และพวกเขาก็เก่งพอ ๆ กับปีกของเรา ดังนั้น เมื่อคุณเอา โชต้า ลงเล่นในตำแหน่งที่ดี หรือเกิด ลูโช่ เล่นตำแหน่งนั้น หรือ ดาร์วิน แล้วล่ะก็ พวกเขาก็จะทำในสิ่งที่เราต้องการได้ นั่นคือการทำประตูและแอสซิสต์"

...

ประตูจากผู้เล่นที่ยืนตำแหน่งหมายเลข 9 ของ ลิเวอร์พูล ในลีกปีนี้ มีจำนวนแค่ 12 จาก 56 ลูกที่ทีมทำได้ทั้งหมด

แบ่งเป็น นูนเญซ เล่น 827 นาที ทำ 4 ลูก, ดิอาซ เล่น 820 นาที ยิง 3 ลูก, โชต้า เล่น 598 นาที ยิง 5 ลูก และ เฟเดริโก้ เคียซ่า เล่น 18 นาที ไม่ได้ยิง (เกมเจอ บอร์นมัธ เมื่อเดือนกันยายน)

ซึ่งจาก 3 คนที่ได้รับโอกาสบ่อยครั้ง ตัวเลขของ โชต้า ดูดีมากกว่าใคร โดยพาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งทำประตูที่ดีที่สุด กล่าวคือใกล้ประตูมากสุด โดยระยะทำประตูอยู่ที่ 10.9 และยังมีอัตราการทำประตูต่อนาทีดีกว่าเพื่อนอีกสองคน (119.6 ต่อนาที)

จาก 12 ประตูในลีกของเหล่ากองหน้าหมายเลข 9 ไม่มีเลยที่มาจากการยิงนอกกรอบเขตโทษ

และมีจังหวะยิงในกรอบ 6 หลาไม่มากนัก ทว่าผู้เล่นตรงพื้นที่ตรงกลางกับในกรอบเขตโทษก็พยายามร่วมกัน ในจำนวนนั้นมี 5 จังหวะที่เป็นประตู แต่ก็มีโอกาสทำประตูสวย ๆ หลายครั้งที่ยิงไม่เข้าเหมือนกัน

ตอนนี้มีกองหน้า 6 คนพร้อมลงเล่นให้ อาร์เน่อ ทำให้เขากลับไปมีตัวเลือกตำแหน่งละ 2 คนเหมือนเดิม

ซึ่งในช่วงต้นฤดูกาลสิ่งนั้นก็เคยช่วยให้เขาทำผลงานยอดเยี่ยมมาแล้ว

ดิอาซ อาจได้ประโยชน์จากการกลับไปเล่นเป็นตัวริมเส้นซึ่งเป็นตำแหน่งถนัดของเขา เป็นการเปิดโอกาสให้ นูนเญซ กับ โชต้า กลับมามีฟอร์มและจังหวะการเล่นที่ดี

ตอนนี้ ซาลาห์ กำลังแบกภาระการทำประตูให้แก่ ลิเวอร์พูล 

ถึงแม้เขาจะไม่มีท่าทีว่าจะแผ่วลง แต่คงเป็นเรื่องดีกว่าที่จะมีคนคอยช่วยเขาบ้าง...

HOSSALONSO


ที่มาของภาพ : Getty image
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport