หลังถูกเขี่ยตกรอบ เอฟเอ คัพ ลิเวอร์พูล ทำได้แค่เสมอ เอฟเวอร์ตัน โดยนำ อาร์เซน่อล 7 แต้ม และเหลือ 14 เกมในพรีเมียร์ลีก
ถามว่าพวกพรี่ๆ จะเป๋ต่อหรือไม่ ???
1. ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ลิเวอร์พูล ถูก แมนยูไนเต็ด เขี่ยตกรอบ เอฟเอ คัพ เกมต่อมา พวกเขาเอาชนะ ไบรท์ตัน และเชฟยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีกพลางรักษาตำแหน่งจ่าฝูง
กระทั่งในศึกแดงเดือดที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เกมจบลงด้วยการเสมอ 2-2
หงส์แดงถูกฉุดลงจากจ่าฝูง !!!
2. หลังจากนั้น 'หายนะ' ก็มาเยือน
เมื่อแพ้ อตาลันต้า คาบ้าน 3-0 ใน ยูโรปา ลีก ตามมาด้วยการถูก คริสตัล พาเลซ บุกมาอัดถึงถิ่น
แม้เกมต่อมาจะมีชัยเหนือ ฟูแล่ม 3-1 แต่พวกเขาออกไปแพ้ เอฟเวอร์ตัน 2-0 และทำได้แค่เสมอ เวสต์แฮม 2-2 ก่อน แมนซิตี้ จะทะยานเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ในตอนจบฤดูกาล
3.อย่างไรก็ตาม
สถานการณ์ในซีซั่นนี้แตกต่างจากซีซั่นที่แล้วพอสมควร
นอกจากจะตามหลัง 7 แต้ม อาร์เซน่อล ยังประสบวิกฤตผู้เล่นบาดเจ็บอีกบาน ขณะที่ แมนซิตี้ ถูกตัดออกจากสารบบลุ้นแชมป์เรียบร้อย
4.ฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล มาออกอาการ 'เป๋ห่าว' ในช่วงโค้งสุดท้าย โดยใน 10 เกมสุดท้าย ทำหลุดไปถึง 14 คะแนน
ส่วนเกมที่หงส์แดงมีโอกาสสะดุดในฤดูกาลนี้ ผมตรวจดูแล้วมีอยู่ประมาณ 5 เกม
เยือน แอสตัน วิลล่า
เยือน แมนซิตี้
เยือน เชลซี
พบ อาร์เซน่อล
เยือน ไบรท์ตัน
นอกนั้นอยู่ในวิสัยที่สามารถเอาชนะได้ทั้งหมด
5.ลิเวอร์พูล และฤดูกาลนี้จากการทำงานของ อาร์เน่อ ชล็อต เป็นทีมที่ 'แพ้ยาก' มากๆ นะครับ
ในเกมที่ตัวเองโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐาน พวกพรี่ๆ ก็มักจะเอาตัวรอดได้สำเร็จ
7 แต้มที่นำห่าง แถมผลต่างประตูได้เสียที่เหนือกว่าเยอะ (คิดเป็นครึ่งคะแนน) ช่วยให้ 'เดอะ ค็อป' ได้รับอนุญาตให้สะดุดอย่างน้อยๆ 2-3 นัด ขณะเดียวกับที่พลพรรคปืนโตในสภาพไม่ค่อยสมประกอบไม่ได้รับอนุญาตให้พลาดเลย
ฉะนั้น & ฉะนี้
มันเป็นเรื่องปกติที่ในระหว่างฤดูกาลที่ย่อมมีช่วงที่ออกนอกลู่นอกทางบ้าง
พวกพรี่ๆ สบายใจได้