ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ จากกรรมการดาวรุ่งพุ่งแรงสู่เปาหิวแสงบ้าอำนาจ

1. 'อาจารย์โอ๋' เคยได้ชื่อว่าเป็นผู้ตัดสินดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการลูกหนังอังกฤษ

เขาเริ่มต้นอาชีพผู้ตัดสินในปี 2006 โดยสตาร์ทจากเกมนอกลีก และเอฟเอ คัพ ขณะที่มีอายุแค่ 21 ขวบเท่านั้น

หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ไต่เต้า และเลื่อนขั้นขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้ตัดสินบนสมรภูมิแข้งพรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในฤดูกาล 2010/11

ตอนนั้น โอลิเวอร์ วัยเบญจเพศพอดี

2. ตอนเห็นเขาเป่าครั้งแรกๆ ขูดความจำได้ว่าผมยังรู้สึกชื่นชมเขาเลยในฐานะผู้ตัดสินมือใหม่ไฟแรงที่มีสายตาเฉียมคมประดุจเนตรอินทรีมากกว่าผู้ตัดสินแก่ๆ ที่สายตาฝ้าฟาง

แถมความหนุ่มแน่นและซอยยิกยังช่วยให้เขามีความปราดเปรียวกว่าผู้ตัดสินเก่าๆ ณ ขณะนั้น

3. ภาพตัดกลับมาอีกครั้งในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา

จากผู้ตัดสินดาวรุ่งอายุน้อย แทนที่จะพัฒนาตัวเองเป็นตุลาการสนามระดับอ๋อง ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ กลับสถาปนาตัวเองเป็นผู้ตัดสินชื่อดังในทางลบที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างจงหนัก

4. สังเกตได้ว่าเขาชอบทำอะไรที่มันค้านสายตา ย้อนแยง และอะไรของมึงเป็นประจำ

ที่สำคัญคือ 'บ้าอำนาจ' เกินไปจนไม่มีศิลปะ

'น้าแมว' เคยตั้งข้อสังเกตว่า ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ เป็นผู้ตัดสินที่ 'หิวแสง' โดยชอบทำตัวเด่น แต่ขณะเดียวกันคือ...ชอบทำอะไรสะเหล่อๆ 5555

ผลงานสร้างชื่อในฤดูกาลนี้คือการให้ใบเหลือง 2 เป็นใบแดงไล่ เลอันโดร ทรอสซาร์ ของ อาร์เซน่อล ออกจากสนาม ข้อหาเตะบอลทิ้งในจังหวะต่อเนื่อง ไม่ได้เจตนาซะขนาดนั้น

จังหวะแบบนี้มันอะลุ้มอล่วยกันได้ แต่ อ.โอ๋ กลับเถรตรงจนไอ้ปืนโตเหลือผู้เล่น 10 คน เป็นเวลาถึง 45 นาที สุดท้ายถูก แมนซิตี้ ตีเสมอ

จังหวะที่ชูใบแดงให้เจ้าหนู ไมล์ ลูอิส-สเคลลี่ ของ อาร์เซน่อล ตั้งแต่นาทีที่ 43 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนก็เช่นกันที่ดูยังไงมันก็ไม่รุนแรงถึงขั้นใบแดง

ต่อมาใบแดงนี้ถูกอุทธรณ์ผ่านซะด้วยอันสะท้อนให้เห็นถึงความผิดพลาดของกรรมการห้ามไก่ท่านนี้อย่างชัดเจน

5.ล่าสุดในศึก เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ที่ กูดิสัน พาร์ค

ความจริง ผู้ตัดสินวัย 39 ผู้นี้ก็เป่าพลาดเป็นระยะจนทั้ง 2 ทีมต่างเสียประโยชน์ และได้ประโยชน์

แต่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมที่เอาใจช่วย เอฟเวอร์ตัน ก็ยังสัมผัสได้ว่าเขาเป่าเอื้อประโยชน์ให้ทีมเจ้าบ้านมากกว่า 555555

เฉพาะอย่างยิ่งในช่วงทดเจ็บที่เป่าหมดเวลาสักนาทีที่ 97 ก็ได้ไม่น่าเกลียด เช่นเดียวกับจังหวะก่อน ลิเวอร์พูล จะถูกตีเสมอที่ โม ซาล่าห์ โดนสกัดจนล้มลงหน้ากรอบเขตโทษของทีมลูกอม

ผมมองว่ามันน่าจะเป็นการฟาวล์

สุดท้ายหลังจบเกมก็ยังมีวายแจกใบแดงให้ อาร์เน่อ ชล๊อต ที่ควันขึ้นหัวเข้ามาขอจับมือพร้อมพูดอะไรบางอย่าง

คาดว่าน่าจะเป็นคำว่า...เยอร์ ฟัคกลิ้ง แด๊ด เด๊ด !!! หรือ แปลเป็นไทยว่า 'พมต อส'

และนี่ผู้ตัดสินมือวางอันดับ 1 ของอังกฤษ และนาทีนี้