ลิเวอร์พูล ช้ำนาทีบาปอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อโดน เอฟเวอร์ตัน แบ่งแต้มได้สำเร็จในช่วงทดเวลาจากผลเสมอ 2-2 ในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ นัดทิ้งทวนที่ กูดิสัน พาร์ค เมื่อวันพุธที่ 12 ก.พ.ของการฟาดแข้งศึก พรีเมียร์ลีก นัดตกค้าง ส่งผลให้ หงส์แดง นำหน้า อาร์เซน่อล เป็นเจ็ดแต้มแทนที่จะเป็นเก้าแต้มโดยหลังจากเกมจบลงมีเหตุการณ์ชุลมุนจนทำให้ท่านเปาแจกสามใบแดง
1. ท๊อฟฟี่ปรับทัพหนึ่งตำแหน่ง
เอฟเวอร์ตัน เปลี่ยนโผนักเตะตัวจริงรายเดียวจากเกม เอฟเอ คัพ รอบสี่นัดแพ้คารังต่อ บอร์นมัธ 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมสกอตติชได้ วิทาลี่ มิโคเลนโก้ ดาวเตะทีมชาติ ยูเครน หายเจ็บน่องกลับมาเป็นตัวจริงแทนที่ แอชลีย์ ยัง ปราการหลังวัยดึกที่ตกไปนั่งข้างสนาม
อย่างไรก็ดี ทีมลูกอมมีปัญหาขาดนักเตะเดี้ยงหลายรายทั้ง เชมัส โคลแมน , ดไวท์ แม็คนีล , โอเรล ม็องกาล่า , โดมินิค คัลเวิร์ต ลูวิน ,อาร์มานโด โบรฮา และ ยุสเซฟ เชอร์มิตี้ ส่งผลให้จำเป็นต้องใส่ชื่อสองนักเตะตัวรุกจากอะคาเดมี่ทั้ง มาร์ติน เชริฟ และ ไอแซ็ก ฮีธ นั่งอยู่ในซุ้มด้วย
ด้าน เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ลงสนามเกมพรีเมียร์ลีก นัดนี้ให้ทีม ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน ครบ 100 นัดพอดี
2. หงส์จัดไลน์อัพชุดประวัติศาสตร์
ลิเวอร์พูล กลับมาใช้งานทีมชุดใหญ่ตามปกติหลังบุกไปแพ้ พลีมัธ อย่างพลิกความคาดหมาย 1-0 กระเด็นตกรอบสี่ถ้วย เอฟเอ คัพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เทียบจากโผตัวจริงในเกมที่ โฮม พาร์ค อาร์เน่อ สล็อต สลับทัพสิบตำแหน่งเหลือแค่ หลุยส์ ดิอาซ ออกสตาร์ตต่ออีกเกมแค่รายเดียว
อย่างไรก็ดี ทีมเยือนได้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ หายเจ็บมีชื่อนั่งข้างสนาม แต่ เฟเดริโก้ เคียซ่า ไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้หลังโชว์ฟอร์มได้แย่ในถ้วยน็อกเอาต์ทั้งๆที่ได้ลงเล่นแบบเต็มเกม
พร้อมกันนี้ นับเป็นเกมแรกใน พรีเมียร์ลีก ของ หงส์แดง จาก 1,252 เกมที่พวกเขาไม่ส่งนักเตะอังกฤษลงเล่นเป็นตัวจริงเลยแม้แต่รายเดียวโดยมีสี่รายอยู่ในซุ้มทั้ง เคอร์ติส โจนส์ , ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ,จาเรลล์ ควานซาห์ และ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์
สำหรับ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก นัดนี้เป็นเกมที่ 50 ของเขากับ หงส์แดง และเป็นขุนพลของสโมสรรายที่ 7 ที่ลงสนามครบครึ่งร้อยนัดตรงกับเกมดาร์บี้แมตช์ต่อจาก คาร์ลไฮนซ์ รีดเล่ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด ,ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ , เนธาเนี่ยล ไคลน์ , โม ซาลาห์ และ โจ โกเมซ
3. คิงโม สร้างสถิติ
แม้จะมีศักยภาพเป็นรอง แต่ เอฟเวอร์ตัน ได้เฮก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 11 จากประตูของ เบโต้ ซึ่งทำให้กองหน้าชาวเมืองฝอยทองยิงได้ในเกมลีกซีซั่นนี้เป็นเม็ดที่สี่ มากกว่าซีซั่นก่อนที่เขาตะบันได้สามเม็ด
นอกจากนี้ เบโต้ ยังพังประตูในเกม พรีเมียร์ลีก สองนัดซ้อนได้เป็นหนแรกเช่นกัน ขณะที่สี่ประตูของเขาล้วนเกิดขึ้นใน กูดิสัน พาร์ค ทั้งสิ้น รวมถึงขณะนี้เขายิงได้ 7 เม็ดในทุกรายการ
อย่างไรก็ดี เพียงไม่นานอีกห้านาทีให้หลัง เครื่องจักรสีแดง ก็ทำงานเมื่อ ซาลาห์ ตักบอลจากกราบขวาให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โขกเสียบเสาไกลเป็นประตูตีเสมอ 1-1
จากสกอร์ที่ว่าทำให้ดาวเตะทีมชาติ อาร์เจนติน่า สอยประตูทีมลูกอมได้อีกตามเคยเนื่องจากเป็นลูกที่สี่จากเจ็ดเกมใน พรีเมียร์ลีก แล้วที่เขาคลำเป้าได้ในนัดบู๊กับ เอฟเวอร์ตัน
อย่างไรก็ดี จากการแอสซิสต์ทำให้ ซาลาห์ สร้างสถิติใหม่ได้สำเร็จด้วยการเป็นนักเตะใน พรีเมียร์ลีก ที่มีส่วนกับประตูในเกมเยือนซีซั่นนี้มากที่สุด 22 ประตู (ยิง 13 แอสซิสต์ 9) จากการลงเล่น 13 นัดเหนือกว่า แอนดี้ โคล เจ้าของสถิติเดิม 21 ประตูในซีซั่น 1993/94
ยิ่งไปกว่านั้น ซาลาห์ ยังเป็นที่พึ่งของทีมเช่นเดิมแม้เกมของ หงส์แดง นัดนี้จะเลวร้าย แต่กองหน้าไอยคุปต์สบโอกาสซัดประตูให้ทีมนำ 2-1 ในครึ่งหลังจนได้ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยผลเสมอ 2-2 อย่างน่าช็อก
ถึงตอนนี้ ซาลาห์ เพิ่มผลงานนำหน้าเป็นดาวซัลโวของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ 22 ประตูแล้ว แถมนำหน้าเป็นจอมแอสซิสต์เช่นกันจากจำนวน 14 ประตู
สำหรับเกม พรีเมียร์ลีก ดาร์บี้ แมตช์ บังโม กระทุ้งได้ 8 เม็ดแล้วจาก 11 นัดเป็นรองแค่ เจอร์ราร์ด รายเดียวในหมู่ขุนพล เร้ด แมชีน ที่ซัดประตูได้ในเกมนี้ (9ประตู)
4. ทีมชุดใหญ่ก็ฟอร์มแย่
นัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายต่อทีมบ๊วยของ แชมเปี้ยนชิพ ในถ้วย เอฟเอ คัพ เป็นที่วิจารณ์กันว่าถือเป็นเกมที่เลวร้ายที่สุดของ สล็อต นับตั้งแต่เขาเข้ามาคุมทีมดังของถิ่น แอนฟิลด์
แล้วในที่สุด ถัดมาอีกไม่กี่วัน ทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ก็โชว์ฟอร์มได้แย่ไม่แพ้กัน แต่ขณะเดียวกันต้องชมทีมเจ้าบ้านที่เล่นกันได้ดี ไม่เปิดโอกาสให้คู่ปรับได้ต่อบอลกันอย่างสะดวกจนทำให้เกมของทีมจ่าฝูงขาดความไหลรื่น
แม้ ลิเวอร์พูล เกือบกำชัยได้ แต่ เอฟเวอร์ตัน แบ่งแต้มได้สำเร็จในช่วงทดเวลาซึ่งต้องบอกว่าทีมของ มอยส์ สมควรได้หนึ่งแต้มอย่างแท้จริงจากสถิติที่ปรากฏ
นับตั้งแต่จบครึ่งแรกแล้วที่ ลิเวอร์พูล มีผลงานที่ย่ำแย่โดยพวกเขาครองบอลได้มากกว่า 68.4%:31.6% ก็จริง แต่พวกเขาได้ส่องยิงเพียงน้อยนิดแค่ 3 ครั้งเท่ากับ เอฟเวอร์ตัน และส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 2:1 ครั้ง
กระทั่งหลังจบ 90 นาที สถิติของ หงส์แดง ก็ไม่กระเตื้องเนื่องจากพวกเขาครองบอลได้มากกว่า 63.4%:36.6% แต่ได้ยิงน้อยกว่าเจ้าบ้าน 10:6 ครั้งแม้จะส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 4:3 ครั้งจึงชัดเจนว่าทีมของ สล็อต เล่นกันได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และผิดฟอร์มเมื่อมาเจอสไตล์วิ่งสู้ฟัดของคู่ปรับร่วมเมืองจนทำเอายอดดาวเตะหลายรายเล่นกันไม่ออก และหาโอกาสคลำเป้าได้จุ๋มจิ๋มผิดจากที่แฟนบอลเคยเห็นกันจนชินตาโดยเป็นสถิติได้ยิงน้อยที่สุดแค่หกครั้งเท่านั้นในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ของพวกเขา
5. ดาร์บี้แมตช์ที่แท้ทรู
หลังเกมจบปรากฏว่านักเตะไม่จบเนื่องจาก โจนส์ มีปัญหากับ อับดูลาย ดูกูเร่ และได้อีกเหลืองทั้งคู่เป็นใบแดงเช่นกัน
เท่านั้นไม่พอ สล็อต ก็โดนผู้ตัดสินตะเพิดออกจากสนามด้วยจึงถือว่าสมศักดิ์ศรีเกม เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ อย่างยิ่งเพราะก่อนเกมนี้นี่คือศึกดาร์บี้แมตช์ของลีกอังกฤษที่มีการแจกใบแดงมากที่สุดอยู่ก่อนแล้ว (23ใบ เอฟเวอร์ตัน ได้ 16 ใบ)
กระทั่งล่าสุดทั้งสองทีมเพิ่มสถิติใบแดงเพิ่มอีกสามใบในเกมทิ้งทวนสนาม กูดิสัน พาร์ค ซึ่งต้องบอกว่า เอฟเวอร์ตัน ไม่ทำให้สาวกต้องผิดหวังที่แบ่งแต้มได้สำเร็จแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
หลังจบเกมนี้ แน่นอนว่าแม้สถิติโดยรวมของ ลิเวอร์พูล ยังข่มทีมร่วมเมือง แต่หากจะนับเฉพาะเกมลีกในรังของทีม ท๊อฟฟี่ ปรากฏว่าทั้งสองทีมมีผลงานเท่ากันเป๊ะ
จากทั้งหมดที่ได้ดวลกันมา 120 นัด สองคู่ปรับชนะเท่ากัน 41 นัด และเสมอกัน 38 นัดจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่ากองเชียร์ลูกอมสามารถเชิดหน้าชูคอได้กับการเป็นสักขีพยานเกมสั่งลาสนามของสโมสรก่อนขึ้นบ้านใหม่ขนาดความจุห้าหมื่นกว่าชีวิตในซีซั่นหน้า