หลังบุกไปแพ้ อาร์เซน่อล ยับเยิน 5-1 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนซิตี้ ตัดสินใจทุ่มเงินอีกก้อนจ่ายตลาดทิ้งทวนเป็นดีลเร่งด่วนรายสุดท้ายก่อนตลาดวาย
เป็นที่คาดหมายกันว่า เรือใบสีฟ้า ฉุด นิโก้ กอนซาเลซ กองกลางร่างโย่งของ ปอร์โต้ มาร่วมทีมเพื่อให้ทดแทน โรดรี้ เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ ที่เจ็บยาว
รวมทั้งสิ้น แชมป์ พรีเมียร์ลีก เทกระเป๋าเป็นเงิน 180 ล้านปอนด์กับการเสริมทัพในตลาดหน้าหนาวด้วยการเซ็นสัญญากับ วิตอร์ เฮส , อับดูโกดีร์ คูซานอฟ และ โอมาร์ มาร์มุช ไปก่อนแล้ว
สำหรับ กอนซาเลซ อดีตเด็กปั้นของ บาร์เซโลน่า ซึ่งย้ายมาร่วมทีมดังของถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ เราสมควรทำความรู้จักกับดาวเตะวัย 23 ปีให้มากขึ้น
- จุดเริ่มต้น
นิโก้ เป็นลูกชายของ ฟราน ตำนานมิดฟิลด์ทีม ลา กอรุนญ่า ซึ่งค้าแข้งกับสโมสรนาน 17 ปีในยุคที่เรียกขานทีมชุดคว้าแชมป์ ลา ลีกา ซีซั่น 1999/2000 ว่า "ซูเปอร์เดปอร์"
แม้จะเกิดในครอบครัวลูกหนัง แต่แรกทีเดียว นิโก้ แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นที่จะเล่นกีฬาเพียงน้อยนิด
"นิโก้ ไม่อยากเล่นฟุตบอลในตอนแรก" ฟราน เผย "ตอนที่เขามีอายุหกขวบ เขาไม่ได้สนใจ ตอนนั้นผมยังเล่นฟุตบอลอยู่ กระทั่งวันหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่เขาเริ่มเล่นฟุตบอล"
นิโก้ ใช้สนามฟุตบอลขนาดย่อมที่บ้านฝึกฝนทักษะโดยมีอดีตกองกลางทีมชาติ สเปน ผู้พ่อให้คำชี้แนะ กระทั่งมีอายุ 10 ปี นิโก้ ก็ได้เล่นให้กับทีมชุดยู 13 ของทีมท้องถิ่น มอนตาเนรอส และได้ฟาดแข้งในทัวร์นาเมนต์ที่มี บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด ร่วมบู๊ด้วยโดยเขากระทุ้งประตูใส่ทีมจากกาตาลันได้สองเม็ด
ถึงตอนนี้สองยักษ์ใหญ่ของประเทศแสดงความสนใจที่จะเซ็นสัญญากับเขา และแม้ ราชันชุดขาว จะเสนอเงินให้มากกว่า แต่ นิโก้ และคุณแม่ชื่นชอบ บาร์เซโลน่า จนในที่สุดเขาก็เดินเข้าสู่อะคาเดมี่ ลา มาเซีย ในปี 2013 และมีพัฒนาการที่ดีกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นสมาชิกขาประจำของทีมสำรองในซีซั่น 2020/21
- จุดเปลี่ยน
ในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 บาร์ซ่า เจอกับเรื่องที่น่าเจ็บปวดเนื่องจากพวกเขาต้องแยกทางกับ ลิโอเนล เมสซี่ หลังประสบกับปัญหาทางด้านการเงิน และด้วยเหตุที่ไม่สามารถคว้านักเตะค่าตัวแพงมาเสริมทัพได้ ทีมดังของถิ่น คัมป์นู จึงเปิดโอกาสให้กับดาวรุ่งหลายรายทั้ง อับเด เอซซัลซูลี่ , อเลฆานโดร บัลเด้ , เฟร์ราน ฆุตกล้า , กาบี้ และ นิโก้ ด้วยเช่นกัน
นิโก้ ได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ในฐานะตัวสำรองแมตช์เปิดซีซั่น 2021/22 นัดต่อกรกับ เรอัล โซเซียดาด และในไม่ช้าเขาก็เป็นนักเตะตัวจริงขาประจำ กระทั่งเดือนธ.ค.เขาก็เบิกประตูแรกกับสโมสรได้ในเกมบุกไปเสมอกับ โอซาซูน่า 2-2 จากการแอสซิสต์ของ กาบี้ แถมอีกเจ็ดวันต่อมา นิโก้ ช่วยให้ บาร์ซ่า รอดพ้นจากความขายหน้าต่อหน้าสาวกของทีมเนื่องจาก บาร์ซ่า ถูก เอลเช่ ตามตีเสมอได้ทั้งๆที่ทีมเจ้าบ้านนำหน้าก่อนถึง 2-0 และเป็น นิโก้ ที่กดประตูชัยให้ทีมได้ในช่วงสิบนาทีสุดท้ายจากการผ่านบอ
ลของ กาบี้ อีกครั้ง
จากฟอร์มดังกล่าวทำให้ดาวเตะร่างสูง 188 ซ.ม.ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ตำนานมิดฟิลด์ของทีมโดย ฟรานซิสโก้ ซาเบียร์ การ์เซีย อดีตโค้ชทีมเยาวชนของ บาร์ซ่า เคยเอ่ยเอาไว้ในปี 2021 ว่า "หากเราจะมองหานักเตะที่โดดเด่นของ บาร์เซโลน่า นิโก้ จะเป็นตัวแทนของ บุสเก็ตส์ ได้นานหลายปี"
- เวลาต่อมา
แม้จะเริ่มต้นกับ บาร์ซ่า ได้ดี แต่ถัดมา นิโก้ ไปได้ไม่สุดเหมือนกับ กาบี้ และ เปดรี้ ในยุคของกุนซือ ชาบี เอร์นานเดซ โดยเขาไม่มีโอกาสได้ลงเล่นมากนัก และถูกปล่อยให้ บาเลนเซีย ยืมตัวในซีซั่น 2022/23
กระนั้นก็ดี นิโก้ ไม่ประสบความสำเร็จกับทีมตราค้างคาวเนื่องจากไม่ได้ถูกกุนซือ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ส่งลงเล่นมากเช่นกัน แถมในเดือนธ.ค.เขามีปัญหาเจ็บเท้าจนต้องพักยาวสามเดือนก่อนกลับมาอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น และโชว์ฟอร์มในท้ายซีซั่นได้ดีพอกระทั่ง ปอร์โต้ คว้าเขาไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 8.5 ล้านยูโร
อย่างไรก็ดี นิโก้ เริ่มต้นไม่สวยในลีกฝอยทองโดยโค้ช แซร์โจ้ คอนไซเซา ยอมรับว่านักเตะประสบกับความยากลำบากหลังเปลี่ยนสโมสร แต่ในที่สุดเขาก็ยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้นับตั้งแต่เดือนม.ค.2024
"แซร์โจ้ คอนไซเซา มีความต้องการสูง และมันเป็นเรื่องสำคัญ ผมยังเด็กมากตอนอายุ 20 ปี แต่เมื่อมีอายุ 21 ปี ผมมีประสบการณ์ในดิวิชั่นหนึ่งเต็มเปี่ยมแล้ว ความต้องการของเขาทำให้ผมพัฒนา ผมเติบใหญ่ขึ้นมาก ในวันนี้ผมเป็นนักเตะที่ดีกว่าปีก่อน" นิโก้ เอ่ยหลังจบซีซั่นที่ผ่านมา
หลังจาก คอนไซเซา อำลาทีม ปอร์โต้ ในช่วงซัมเมอร์ พวกเขาก็มีซีซั่นที่ยากลำบากจนทำให้ วิตอร์ บรูโน่ โดนปลดในเดือนม.ค.แต่ นิโก้ ยังมีผลงานที่ดี และได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีก 17 จาก 19 นัดก่อนย้ายมาร่วมทีม แมนฯ ซิตี้
นอกจากจะซัดได้ 5 ประตูและ 2 แอสซิสต์ในลีกฝอยทองแล้ว นิโก้ ยังมีผลงานที่โดดเด่นในเกม ยูโรปา ลีก ด้วยโดยเขาทำแอสซิสต์ได้ในเกมบู๊กับ อันเดอร์เลชท์ และ ฮอฟเฟ่นไฮม์ อีกทั้งมีส่วนทำให้ ซามู โอโมโรเดี้ยน ซัดประตูได้ในนัดเปิดรังเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-3 กระทั่งในเกมสุดท้ายของรอบ ลีก เฟส เขาซัดประตูโทนให้ ปอร์โต้ บุกไปคว่ำ มัคคาบี้ เทล อาวีฟ 1-0 พาทีมเข้าไปเตะรอบเพลย์ออฟได้โดยรอชี้ชะตากับ โรม่า
- จุดแข็ง
จากการเติบใหญ่ใน ลา มาเซีย นิโก้ จึงครองบอลได้อย่างเป็นธรรมชาติ และผ่านลูกสั้นได้ดีซึ่งเหมาะกับระบบของ กวาร์ดิโอล่า
"บาร์ซ่า สอนคุณตั้งแต่อายุยังน้อยให้เล่นง่ายๆเข้าไว้กับการสัมผัสบอลแค่หนึ่งหรือสองครั้ง และเล่นอย่างรวดเร็ว" นิโก้ เอ่ย
ด้าน บรูโน่ อดีตกุนซือ ปอร์โต้ เผยถึง นิโก้ ว่า "เขามีความสามารถในการเติมเกมรุกด้วย และอ่านเกมได้ดีมาก"
นอกจากจะสวมบทบาทหมายเลข 6 แล้ว นิโก้ พร้อมทำหน้าที่เป็นหมายเลข 8 เช่นกันเนื่องจากในระยะหลังเขาขยับขึ้นมาเล่นสูงขึ้นกระทั่งยิงได้ 7 ประตูในทุกรายการของซีซั่นนี้
- ค่าตัวแพงเกินจริง?
พอล เมอร์สัน คอมเมนเตเตอร์ค่าย สกาย สปอร์ตส์ ชี้ว่า เรือใบสีฟ้า ซื้อแบบตื่นตูมก่อนปิดตลาดที่ลงทุน 50 ล้านปอนด์ในนาทีสุดท้าย
ด้าน ฌูเลียง โลร็องส์ กูรูค่าย อีเอสพีเอ็น ลงความเห็นตรงกันหลัง แมนฯ ซิตี้ จ่ายแพงทั้งๆที่ ปอร์โต้ คว้าเขามาจาก บาร์เซโลน่า ในราคาที่ย่อมเยา
"พวกเขาน่าจะจ่ายแพงเกินไปสำหรับเขา แต่ความพ่ายแพ้ที่มีต่อ อาร์เซน่อล แสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องการหมายเลข 6 โดยด่วน แต่เขาไม่ดีพอสำหรับทั้ง บาร์เซโลน่า และ บาเลนเซีย เขายิงประตู มัคคาบี้ ได้ เขาเล่นได้ดี แต่เขาไม่มีอะไรที่โดดเด่น"
"การเล่นให้กับทีมที่ดีขึ้นจะทำให้เขาเก่งขึ้น นิโก้ เป็นนักเตะที่ดีอยู่แล้ว คุณภาพของเขาเหมาะกับ แมนฯ ซิตี้ แต่นี่คือระดับที่สูงกว่า ปอร์โต้ มันน่าสนใจว่าพวกเขาจ่ายเงินแพงไปมั้ย"