บอร์นมัธ พบ ลิเวอร์พูล ! 5 ข้อหงส์ข่มเชอร์รีส์-ซาลาห์ เช็กบิลแซง แลมพาร์ด

1. เจ้าถิ่นคงโผชุดเดิมยำเจ้าป่า

อันโดนี่ อิราโอล่า ผู้จัดการทีม บอร์นมัธ ไม่เปลี่ยนโผนักเตะ 11คนแรกจากเกมล่าสุดที่พวกเขาเอาชนะ ฟอเรสต์ ได้อย่างเหลือเชื่อ 5-0 ที่ ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม

อย่างไรก็ดี ในซุ้มม้านั่งข้างสนาม เจ้าบ้านเปลี่ยนให้ วิลล์ เดนนิส เป็นนายประตูตัวสำรองแทน มาร์ค ทราเวอร์ส ในเกมนี้ นอกนั้นนักเตะรายอื่นๆเป็นโผชุดเดิมทั้งหมดเช่นกัน

2. หงส์ส่งทีมชุดใหญ่ออกศึก

อาร์เน่อ สล็อต กุนซือทีม ลิเวอร์พูล หวนกลับมาใช้งานทีมชุดใหญ่ลงบู๊หลังจากเขาพักสตาร์ดังรวมเก้ารายจนออกไปแพ้ พีเอสวี 3-2 หลังเข้ารอบน็อกเอาต์ถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ล่วงหน้าก่อนแล้ว

หงส์แดง โรเตชั่นทีมจากเกมกลางสัปดาห์รวมเก้าชีวิตคงเหลือแค่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน กับ โคดี้ กัคโป ที่ได้ออกสตาร์ตต่ออีกนัด

จากการวางโผดังกล่าวเท่ากับว่า เร้ด แมชีน ใช้บริการทีมชุดเดียวกันกับที่พวกเขาลงเล่นเกมลีกนัดล่าสุดที่เฝ้าบ้านทุบ อิปสวิช กระเจิง 4-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ทีมเยือนได้ ดีโอโก้ โชต้า หายเจ็บ และ ดาร์วิน นูนเญซ หายป่วยกลับมารับบทตัวสำรอง

ถึงกระนั้น เฟเดริโก้ เคียซ่า ไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้ทั้งๆที่เขาเล่นกับ พีเอสวี ได้ครบทั้ง 90 นาที แต่ เคอร์ติส โจนส์ ที่หายเจ็บมีชื่อเป็นตัวสำรอง

3. คิงโม คลำเป้าแซง แลมพาร์ด

จะว่าไป เกมนี้เจ้าบ้านออกสตาร์ตได้อย่างน่าดูชมโดยเฉพาะพวกเขาเน้นทำเกมรุกทางด้านซ้ายเป็นหลักสร้างความปั่นป่วนให้กับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็คขวาทีมเยือนที่เล่นเกมรับได้อย่างหละหลวมได้หลายต่อหลายครั้ง

กระทั่งนาทีที่ 30 จุดเปลี่ยนของเกมก็เกิดขึ้นจนได้เมื่อ ลูอิส คุ้ก ทำฟาวล์ โคดี้ กัคโป ในเขตโทษ และมีหรือที่เพชฌฆาตอย่าง โม ซาลาห์ จะพลาดซึ่งทำให้ หงส์แดง นำหน้า 1-0 ใน 45 นาทีแรก

จากประตูดังกล่าว ทำให้ คิงโม เข่นได้ในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ 20 เม็ดแล้ว และเป็นประตูที่ 177 ในเกม พรีเมียร์ลีก ของเขาซึ่งทำให้กองหน้าทีมชาติ อียิปต์ ขยับขึ้นสู่ทำเนียบดาวซัลโวสูงสุดของรายการนี้ในอันดับหกร่วมกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด และเป็นประตูที่ 16 ในเกม พรีเมียร์ลีก 16 นัดหลังของเขาด้วยแม้เมื่อเดือนมี.ค.2023 ซาลาห์ จะยิงลูกโทษพลาดจน ลิเวอร์พูล พ่าย บอร์นมัธ 1-0

ขณะเดียวกัน ซาลาห์ คลำเป้าในเกม พรีเมียร์ลีก ได้ 20 เม็ดขึ้นไปเป็น ซีซั่นที่ห้า แล้ว

เท่านั้นไม่พอ ขณะที่เกมในครึ่งหลัง เดอะ เชอร์รีส์ พยายามหาทางตีเสมอ และมีโอกาสไม่น้อย ซาลาห์ ก็โชว์เหนือเข่นให้ทีมเยือนนำหน้าเป็น 2-0 ในนาทีที่ 75 เพิ่มสถิติเป็นประตูที่ 178 ในเกม พรีเมียร์ลีก ขยับนำ แลมพาร์ด ได้สำเร็จ และ เป็นประตูที่ 25 ในทุกรายการของซีซั่นนี้

นอกจากนี้ ซาลาห์ เพิ่มผลงานการยิงประตูในการค้าแข้งของตัวเองในทุกรายการกับทุกสโมสรในยุโรปเป็น 301 เม็ดแล้ว

4. อลิสซง เบรกสถิติ เชอร์รีส์

นอกจาก ซาลาห์ จะโชว์ฟอร์มได้อย่างร้ายกาจในเกมที่ ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม แล้ว นักเตะ ลิเวอร์พูล อีกรายที่สมควรได้รับคำชมเช่นกันย่อมหนีไม่พ้น อลิสซง ซึ่งเซฟลูกยากได้ตลอดทั้งแมตช์ทั้งในครึ่งแรกและครึ่งหลัง

ที่ต้องบอกอย่างนั้นก็เพราะนายทวารทีมชาติ บราซิล ปฏิเสธโอกาสทำประตูของทีมเจ้าบ้านได้อย่างเหลือเชื่อจากการป้องกันลูกยิงระยะเผาขนได้เรียบวุธพร้อมทั้งหยุดสถิติไม่แพ้เกม พรีเมียร์ลีก นาน 11 นัดติดต่อกันของ บอร์นมัธ (ชนะเจ็ด เสมอสี่) ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาในการเล่นเกมลีกระดับสูงสุดของประเทศ

แน่นอนว่าแม้ทีมของ อิราโอล่า จะพ่าย ลิเวอร์พูล แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาทำได้ทัดเทียมกับอาคันตุกะในเกมนี้คือเปอร์เซนต์การครองบอลซึ่งทั้งสองทีมทำได้เท่าเทียมกันในระดับ 50:50% ทั้งในครึ่งแรก และหลังจบ 90 นาที จะแตกต่างกันก็ตรงที่ความเด็ดขาดของ ซาลาห์ และความเหนียวหนึบของ อลิสซง นั่นเอง

ขณะเดียวกัน จากฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ อลิสซง ส่งผลให้น่าคิดว่าซีซั่นหน้าเขาจะอยู่กับทีมต่ออีกหรือไม่หลังจาก สล็อต เซ็นสัญญาล่วงหน้ากับ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ ผู้รักษาประตูทีมชาติ จอร์เจีย ของสโมสร บาเลนเซีย เอาไว้แล้วหลังคาดกันว่าอดีตมือกาวทีม โรม่า มีแผนย้ายไปเฝ้าเสาในลีก ซาอุดิ อาระเบีย แถมอย่าลืมว่า ควีวิน เคลเลเฮอร์ ก็ไม่น่าจะยินดีรับใช้ หงส์แดง ต่อหากซีซั่นหน้าเขาจะต้องตกเป็นมือสองของทีมต่อไป

5. นำก่อนไม่มีแพ้ ไม่มีเสมอ

หลังบุกกำราบ บอร์นมัธ ได้สำเร็จ ลิเวอร์พูล สร้างผลงานไม่แพ้เกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้เพิ่มเป็น 19 นัดแล้วนับตั้งแต่โดน ฟอเรสต์ บุกมาคว่ำ 1-0 ถึง แอนฟิลด์ เมื่อเดือนก.ย.

และที่สำคัญ เร้ด แมชีน มีสถิติที่น่าเกรงขามอย่างยิ่งอีกด้วยเนื่องจากทีมของ สล็อต สามารถกำชัยในซีซั่นนี้ได้แบบ 100% หากเป็นฝ่ายได้ประตูนำคู่แข่งกันซึ่งเกมที่ ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม ยังเป็นเช่นนั้น และถือเป็นนัดที่ 15 แล้ว

อีกทั้งในการต่อกรกับ เดอะ เชอร์รีส์ หงส์แดง มีถิติที่ข่มมิดเนื่องจากนับตั้งแต่ได้ดวลกันหนแรกเมื่อปี 1927 ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์กำชัยได้เพิ่มเป็น 19 นัด เสมอ 3 นัด และแพ้แค่ 2 นัดเท่านั้น

นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ซึ่งชนะคู่แข่งรายนี้ 11 จาก 12 เกมหลังลั่นกระสุนใส่ บอร์นมัธ ไม่สำเร็จแค่เกมเดียวเท่านั้นในการเผชิญหน้ากันของศึก พรีเมียร์ลีก รวม 16 นัด แถม หงส์แดง มีผลงานสอยตาข่าย เดอะ เชอร์รีส์ ได้อย่างน้อยสามประตูรวม 10 จาก 16 นัดด้วย