รูเบน อโมริม กุนซือ แมนยูไนเต็ด ระบุ อยากให้ลูกทีมวางตัวตามแนวทางที่ควรจะเป็น ภายหลังเขาดร็อป มาร์คัส แรชฟอร์ด อย่างต่อเนื่อง พร้อมบอกว่าทุกวันนี้เหล่าแข้ง "ปีศาจแดง" ไม่ได้เจอกับความกดดันจากแฟนบอลมากเท่าไหร่ด้วยซ้ำ
รูเบน อโมริม เฮดโค้ช แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่าตนแค่ต้องการให้ลูกทีมทุกคนปฏิบัติตัวตามแนวทางที่ควรจะต้องทำเท่านั้น หลังจากที่เขาตัดชื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าคนดังออกจากทีมอย่างต่อเนื่อง
หลังจบเกมกับ ฟูแล่ม นัดล่าสุดนั้น มีคนถาม อโมริม ถึงเรื่องที่ แรชฟอร์ด หลุดออกจากทีมอีกครั้ง ซึ่ง อโมริม ก็ถึงขั้นตอบว่าตนให้ความสำคัญกับเรื่องความขยันและความทุ่มเทมากๆ จนยอมที่จะใส่ชื่อโค้ชผู้รักษาประตูเป็นตัวสำรองมากกว่าคนที่ไม่ทำงานอย่างจริงจังเพื่อทีม
ถึงแม้ อโมริม จะไม่ได้พูดชื่อ แรชฟอร์ด ด้วยตัวเองแม้แต่คำเดียว แต่หลายคนก็เชื่อว่ามันเป็นการสื่อถึง แรชฟอร์ด อย่างชัดเจน จนมีการเชื่อกันว่าหัวหอกชาวอังกฤษน่าจะหมดอนาคตกับทีมในยุคของ อโมริม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ล่าสุด อโมริม ได้เปิดใจหลายประเด็นกับ เฟร็ด คัลเดยร่า นักข่าวจาก ทีเอ็นที สปอร์ตส์ สาขาเม็กซิโก โดยช่วงหนึ่ง คัลเดยร่า ถามว่าการตัดสินใจในเรื่องของ แรชฟอร์ด มันเป็นการส่งสารถึงคนในทีมหรือไม่ ซึ่งกุนซือชาวโปรตุกีสก็ตอบว่า "ผมไม่ได้อยากส่งสารถึงใครเลย ผมก็แค่แสดงจุดยืนที่ชัดเจนมากๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ผมคาดหวังจากลูกทีมของผม แน่นอนว่าในบางด้านน่ะผมตั้งมาตรฐานเอาไว้สูงมากๆ แต่โดยรวมแล้วผมก็เหมือนกับโค้ชคนอื่นๆ ทุกคนนั่นแหละ"
"มันมีเส้นกำหนดบางอย่างที่ผมเชื่อว่าทุกคนต้องทำตามเพื่อที่จะช่วยให้เราชนะเกมต่างๆ และได้แชมป์มาครอง ถ้ามันไม่มีการให้ความเคารพเส้นที่ว่าทุกคนก็จะทำเรื่องต่างๆ ตามความชอบของตัวเองกันไปหมด บางอย่างคุณก็ต้องสื่อกับนักเตะให้ชัดเจนไปเลย ก็แค่นั้น ผมไม่ได้พยายามจะส่งสารถึงใครทั้งนั้น"
อโมริม บอกด้วยว่าที่จริงบรรดานักเตะ แมนยูไนเต็ด ไม่ได้เจอกับแรงกดดันจากแฟนบอลมากมายด้วยซ้ำหากเทียบกับในลีกอื่น "ผมเคยบอกกับลูกทีมไปว่าถ้าเป็นในประเทศอื่นน่ะแรงกดดันมันจะหนักหนาสาหัสกว่านี้เยอะ ยกตัวอย่างเช่นในโปรตุเกส ถ้าทีมของคุณเจอกับสถานการณ์แบบทุกวันนี้แล้วล่ะก็ บรรดานักเตะก็จะใช้ชีวิตได้ยากแม้กระทั่งตอนออกมาเดินในที่สาธารณะหรือตอนนอนเล่นอยู่ที่บ้านของตัวเองด้วยซ้ำ"
"ที่นี่ผมไม่รู้สึกถึงความกดดันจากภายนอกในระดับเท่าๆ กันเลย จริงอยู่ว่ามันมีแรงกดดันทางโซเชียลมีเดียอยู่บ้าง นั่นเป็นโลกอีกใบหนึ่ง แต่เรายังพอควบคุมได้ว่าจะมีส่วนร่วมกับโซเชียลมีเดียมากแค่ไหน ผมบอกกับลูกทีมอยู่เสมอว่าต้องให้ความสำคัญกับโลกความเป็นจริงเป็นหลัก และต้องตระหนักว่าการได้เล่นให้สโมสรแห่งนี้คือเกียรติที่พิเศษ ทุกครั้งที่ผมได้สัมผัสกับช่วงเวลาที่พิเศษที่เกี่ยวข้องกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่ะผมก็จะรู้สึกได้ถึงความภาคภูมิใจและการมีอารมณ์ร่วมอย่างมาก"