ปีศาจแดงจากการทำงานของ รูเบน อโมริม เก็บได้แค่ 11 แต้มจาก 11 นัดในพรีเมียร์ลีก โดยล่าสุดมีข่าวว่าผู้เป็นกุนซือตบะแตกจนถึงขั้นกระทืบทีวีในห้องแต่งตัวที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จนจอแตกเลยทีเดียว
1. ในการให้ปากคำนักข่าวหลังจบเกมที่พ่ายให้ทีมนกนางนวล อโมริม บอกว่า “เรากำลังจะเป็นทีมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
เข้าใจว่าโค้ชหนุ่มชาวโปรตุเกสพูดแบบนั้นเพราะหงุดหงิดสุดๆ กับแข้งผีแดงชุดปัจจุบัน ที่นับวันยิ่งมีมาตรฐานเดียวกับทีมหนีตกชั้นมากขึ้นทุกที
คำถามก็คือ แล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบัน “ห่วยที่สุดในประวัติศาสตร์” จริงไหม
2. ถ้านับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกก่อตั้งขึ้นมาเป็นลีกสูงสุดของอังกฤษแทนดิวิชั่น 1 เมื่อปี 1992 นี่คือฤดูกาลที่พลพรรคปีศาจแดงห่วยแตกที่สุดจริงๆ นะครับ
ผ่านไป 22 นัด เก็บได้แค่ 26 แต้ม แถมผลต่างประตู -5 จนรั้งแค่อันดับ 13
ขนาด 22 นัดแรกของฤดูกาลที่แล้วที่ เอริค เทน ฮาก ยังเป็นผู้จัดการทีม ยังเก็บได้ตั้ง 35 แต้มเลยนะครับ ดีกว่าผลงานตอนนี้ตั้ง 9 แต้มแน่ะ
3. ครั้งสุดท้ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีแต้มน้อยกว่านี้หลังจากลงแข่งเกมลีกไปแล้ว 22 นัด คือศึกดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 1989-90 ซึ่ง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (ตอนนั้นยังไม่เป็นท่านเซอร์) พาทีมเก็บได้แค่ 24 แต้มเท่านั้น
ผลงานบัดซบขนาดนั้น ทำให้บรรดาแฟนผีเรียกร้องให้สโมสรรีบๆ ไล่ผู้จัดการทีมออกไปซะ
แมนฯ ยูไนเต็ด จบฤดูกาลดังกล่าวด้วยอันดับ 13 แต่ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ ทำให้ป๋าเฟอร์กี้ได้โอกาสอยู่คุมทีมต่อจนกลายเป็นตำนาน
4. ขอโทษ...นั่นก็ยังไม่ใช่ฤดูกาลที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
มันมีฤดูกาลที่แย่กว่านั้น ก็คือซีซั่น 1973-74 ที่จบอันดับรองบ๊วยในลีกที่มีทั้งหมด 22 ทีม จนถึงขั้น “ตกชั้น” กันเลยทีเดียว
22 นัดแรกของฤดูกาลนั้น ทีมชนะแค่ 4 นัด เสมอ 7 แพ้ 11 ถือว่าผลงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ที่ว่าห่วยแตก ก็ยังนับได้ว่าดีกว่าตอนนั้นเยอะ
5. สำหรับฤดูกาลที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นในลีกสูงสุดได้ห่วยแตกที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง คือซีซั่น 1930-31 ที่ตกชั้นไปด้วยการเป็นทีมบ๊วย โดย 12 นัดแรกของซีซั่นนั้น ทีมแพ้ทุกนัด
หลังจากตกชั้นลงไป แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตกต่ำอย่างต่อเนื่องจนเกือบจะตกชั้นลงไปเล่นในดิวิชั่น 3 เลยด้วยซ้ำในปี 1934
แต่โชคดีที่เรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้นในหน้าพงศาวดารของสโมสร เพราะฤดูกาล 1933-34 ทีมเอาตัวรอดในศึกดิวิชั่น 2 ได้หวุดหวิด ด้วยการจบอันดับที่ 20 ซึ่งสมัยนั้นจะเอาทีมตกชั้นแค่ 2 ทีม จากการแข่งขันที่มี 22 ทีมในลีก
สิ่งที่เกิดในฤดูกาลนี้มันเด็กๆ ครับ ขอบอก
“บอ.บู๋”