ฟอเรสต์ พบ ลิเวอร์พูล : หงส์สู้เต็มสูบไล่ตีเสมอเจ้าป่าหืดจับ

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง "เจ้าป่า" น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เปิดรัง ซิตี้ กราวนด์ ต้อนรับการเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จ่าฝูง วันอังคารที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา 

เปิดเกม ลิเวอร์พูล ครองบอลได้เป็นส่วนใหญ่และมีโอกาสลุ้นทำประตูแต่ยิงทิ้งยิงขว้าง จนกระทั่งนาทีที่ 9 ฟอเรสต์ ใช้โอกาสไม่เปลืองหลังตัดบอลจากแดนกลางได้ ก่อนที่ แอนโธนี่ เอลังก้า จะส่งให้ คริส วู้ด จัดการกดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างงดงาม เจ้าบ้านนำ 1-0

ทัพ "หงส์แดง" เดินหน้าเต็มตัวในการที่จะยิงประตูตีเสมอให้ได้ แต่ก็ทำได้เพียงแค่หวาดเสียวเท่านั้น ขณะที่ ฟอเรสต์ รอจังหวะของตัวเองเพื่อสวนกลับ แต่ก็ยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเช่นกัน 

ฟอเรสต์ สามารถประคับประคองเกมได้ดี โดยเฉพาะเกมรับที่เล่นได้อย่างเหนียวแน่น จนทำให้แนวรุกของ "เดอะ เร้ดส์" ไม่สามารถเจาะเข้าไปสร้างความหวาดเสียวได้เลย จบครึ่งแรก "เจ้าป่า" รักษาสกอร์ 1-0 เอาไว้ได้

ครึ่งแรก ฟอเรสต์ 1-0 ลิเวอร์พูล

เริ่มครึ่งหลังทีมเยือนได้ครองเกมได้ตลอด แต่หลังจากผ่านไปสักพัก ฟอเรสต์ เริ่มกลับมามีโอกาสโดยใช้จังหวะทีเด็ดนั่นก็การสวนกลับ ซึ่งทำให้แนวรับ "หงส์แดง" ปั่นป่วนพอสมควร 

หลังจากเข้าสู่นาทีที่ 66 คอสตาส ซิมิกาส เปิดลูกเตะมุมให้ ดีโอโก้ โชต้า ได้โหม่ง และเป็นประตูช่วยให้ ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอเจ้าบ้าน 1-1 ได้สำเร็จ  

ลิเวอร์พูล เดินเครื่องเต็มสูบ เพื่อหวังเอาประตูเพิ่มและได้โอกาสจาก โม ซาลาห์ และ โกดี้ คักโป แต่ก็ติดแนวรับ กับผู้รักษาประตูของ ฟอเรสต์ จบเกมทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน

รายชื่อทั้ง 2 ทีม

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (4-2-3-1) : มัตซ์ เซลส์ - โอล่า ไอน่า, นิโกล่า มิเลนโควิช, มูริลโล่, เนโค่ วิลเลี่ยมส์ (อเล็กซ์ โมเรโน่ น. 90) - ไรอัน เยตส์ ( นิโกลัส โดมิงเกซ น. 76) , เอลเลียต แอนเดอร์สัน - แอนโธนี่ เอลังก้า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ (เฟลิเป้ น. 90), คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ( โชต้า ซิลวา น. 83) - คริส วู้ด (ไตโว อโวนิยี่ น. 90)

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้ (ดีโอโก้ โชต้า น. 66) , เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คอสตาส ซิมิกาส น. 65) - อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ค - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซโบซไล, โกดี้ คักโป - หลุยส์ ดิอาซ (เคอร์ติส โจนส์ น. 75)