แต้มที่ แมนยู น่าคว้าชัย, ลิเวอร์พูล ยังมีจุดบอด

อย่างที่ผมเขียนบอกไปก่อนหน้านี้ว่า

“การป้องกัน การเล่นเกมรับในกรอบโทษมีปัญหา”

ไม่ใช่ แมนยู มาเปิดแผล แต่ทีมอารเน่อ โดนมาหลายลูกก่อนหน้านี้ 

นี่ 6 เกมล่าสุดโดนก่อน 4 เกม แม้เอาตัวรอดได้แต้ม

ไม่มีไรเสียหาย แต่การมีจุดอ่อนให้คู่แข่งโจมตีได้ง่ายๆ

ไม่นับว่าเป็นเรื่องดีแน่ๆ

จากมุมมองในสนามนะครับ

รูเบน อโมริม วางเกมแพลนมาเล่นไม่เสี่ยง

ไม่ได้ แต่ต้องไม่เสีย  มีจุดโจมตี ชัดเจน 

Shape เกมรับ 5 คน ยืนเรียงไลน์ ได้ดี 

แดนกลางเข้าบอลดุดัน เพื่อตัดเกม

ไม่ให้หงส์ เดินเกมสะดวก

โอเค แม้เกือบโดนก่อน2 จังหวะ

กัคโป เดี่ยวยิงออก และ แมคก้า ติดเซฟ โอนานา

แต่ภาพรวม 45 นาทีแรก สู้ได้ดีเกินคาด

อูการเต้ เด่นเป็นพิเศษ จังหวะเข้าบอล แย่งบอล

ที่สำคัญ อโมริม มีจุดโจมตี ชัดเจน

ไม่บิลด์ อัพ ใช้โอนานา เปิดเกมโจมตี ฝั่งเทรนต์

โดยมี ฮอยลุนด์ ขยับออกมา ซึ่งโกนาเต้ ครึ่งแรกเสียเหลี่ยมบ่อยๆ 

บอลจังหวะสองเป็นของ แมนยู มากกว่า ลิเวอร์พูล 

แม้จะทำเสียบอลบ้างไรบ้างแต่… ทำลายจังหวะหงส์ได้

แล้วพอลิเวอร์พูล จะบุก พวกเขาถอยมายืนshape ได้เร็ว

ครึ่งหลัง…เป็นจังหวะเสียบอลแดนกลางของหงส์

เลยโดนลงโทษง่ายๆ แถม มาร์ติเนส ยิงโคตรดี 

โอเค เกมรุกคือ จุดแข็งหงส์ การตีเสมอและขึ้นนำ

เป็นงานปกติ แต่การป้องกัน ดูมีปัญหา 

การโดนโจมตี ฝั่งเทร้นต์ โดย ดาโลต์ + การนาโช่

ที่เปลี่ยนลงมา… มีผลชัดเจน

ดาโลต์ โดดเด่นมากๆ 

นอกจากนี้นักเตะลิเวอร์พูล ทำเสียบอลบ่อยมาก

โดยเฉพาะเทรนต์ ที่โดนวิจารณ์เยอะ

คหสต เกมรับไม่ใช่จุดแข็ง ไม่แปลกใจ

แต่การเปิดบอลเกมนี้เสียมากกว่าได้ 

คงเป็นนัดที่เล่นได้แย่เกมหนึ่ง

เกมนี้ ต้องให้เครดิตเกมแพลน ที่ อโมริมวางเอาไว้

แล้วทำได้ตามน้้น ทั้งกองหลัง กองกลางทำได้ตามเป้า

ถ้าจังหวะ เซิร์กเซ่ ไหลเข้าในเป็นบรูโน ไม่ใช่แมกไกวร์

ป่านนี้ แฟนหงส์คงโดนล้อว่า “คาบ้าน”

มองมุมบวกคือดีที่ไม่แพ้ ได้แต้มจากเกมที่เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ในจังหวะที่คู่แข่งเสียแต้มเช่นกัน

ส่วนผีแดงนั้น รอดูความต่อเนื่อง

จากเกมที่เล่นได้ยอดเยี่ยมกับ “จ่าฝูง”