แม้ว่าจะมีอดีตนักเตะลิเวอร์พูลหลายคนที่ต้องพบกับความยากลำบากหลังอำลาถิ่นแอนฟิลด์ แต่ก็มีหลายคนที่ประสบความสำเร็จเมื่อไปเล่นกับสโมสรอื่น
ในกรณีของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กับ ไมเคิ่ล โอเว่น ถือว่าน่าผิดหวังหลังโบกมือลาทัพ "หงส์แดง" แต่กระนั้นก็มีตัวอย่างมากมายที่ย้ายจาก ลิเวอร์พูล แล้วไปได้ดิบได้ดีเติบโตจนคว้าแชมป์เป็นกอบเป็นกำ
หากจะไล่ชื่อทั้งหมดก็คงใช้เวลาหลายชั่วโมง งั้นเลือกเฉพาะคนที่สาวก "เดอะ ค็อป" จำได้เป็นอย่างดี และทั้ง 5 คนนี้ยังคงเป็นที่รักของแฟนบอลสโมสรแห่งนี้มาตลอด จนกระทั่งปัจจุบัน
1. หลุยส์ ซัวเรซ
ซัวเรซ คือหนึ่งในปรากฎการณ์ในการย้ายมาเล่นให้กับ "เดอะ เร้ดส์" โดยเฉพาะฟอร์มการเล่นในช่วง 2 ปีสุดท้ายของเขากับสโมสรต้องบอกว่าสุดยอดเหลือเกินเมื่อซัดไป 61 ประตูจากการเล่นแค่ 81 เกมเท่านั้น
สำหรับนักเตะหลายคนคงต้องเจอกับแรงกดดันมหาศาลในการย้ายไปร่วมทีมบาร์เซโลน่า แต่ไม่ใช่กับ ซัวเรซ เพราะขณะที่เขาต้องชดใช้โทษแบน 4 เดือน (จากกรณีกัดบรรลือโลกใส่ จอร์โจ คิเอลลินี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี ในศึกเวิลด์ คัพ 2014) ตอนย้ายไปเล่นในคัมป์ นู แต่ก็ใช้เวลาไม่นานในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้เป็นอย่างดี
"คิง หลุยส์" ประสานงานกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ เนย์มาร์ คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลแรกที่ย้ายมาอยู่กับ บาร์ซ่า พร้อมกับตะบันไปถึง 25 ประตู รวมทั้งยังยิงประตูในรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย
ดาวยิงระดับตำนานชาวอุรุกวัย คว้าแชมป์ไปถึง 13 รายการร่วมกับยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นคาตาลัน และตะบันไปถึง 198 ประตูจากการเล่น 283 เกมในทุกรายการให้กับสโมสร ซึ่งจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะเป็นที่รักของแฟนบอล "เจ้าบุญทุ่ม" อย่างมาก
ในฤดูกาล 2015/2016 ซัวเรซ สร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซด้วยการเอาชนะ เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ด้วยการคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของยุโรป ด้วยสถิติการยิงประตูถึง 59 ลูก
2. ชาบี อลอนโซ่
นี่คือหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จตลอดอาชีพของเขาทั้งในประเทศสเปน และเยอรมนี ซึ่งแฟนบอลยอมรับว่า ชาบี อลอนโซ่ ได้ดิบได้ดียิ่งกว่าตอนที่เขาร่วมหัวจมท้ายกับ ลิเวอร์พูล ซะอีก
หลังจากใช้เวลา 5 ปีในถิ่นแอนฟิลด์ นักเตะย้ายไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2009 และหลังจากนั้นนักเตะได้สร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับทัพ "ราชันชุดขาว" ก่อนจะอำลาทีมไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค
ในช่วงเวลาที่เล่นให้ เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น นั้น "คุณชาย" คว้าแชมป์รวม 10 รายการ และหลังจากแขวนสตั๊ดเจ้าตัวก็ยังสร้างชื่อในฐานะโค้ชชั้นยอด และได้รับการยกย่องว่าเป็นกุนซือคนหนุ่มที่เก่งที่สุดตลอดกาลในช่วงเวลานี้
"ผมต้องเจอกับความยากลำบากตอนที่ตัดสินใจอำลาทีม (ลิเวอร์พูล) แต่บางทีมันเป็นเรื่องดีสำหรับผมเพราะถ้าผมยังอยู่กับทีมอีกซีซั่น มันอาจจทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ ผมมีความสุขกับทีมและเพื่อนร่วมทีม รวมทั้งรู้สึกว่าเราสามารถสร้างหลายสิ่งที่สุดยอดได้"
"ผมมีความสุขกับทีมชุดนั้น แต่สำหรับสโมสรเราต้องมองภาพใหญ่ และอีกฤดูกาล (ที่ ลิเวอร์พูล) มันคงเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับผมมากๆ" อลอนโซ่ ซึ่งนำ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คว้าดับเบิ้ลแชมป์แบบไร้พ่ายเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ระบุ
3. ราฮีม สเตอร์ลิง
ปีกก้นงอนแยกทางกับ ลิเวอร์พูล ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" ไม่ค่อยปลื้ม หลังนักเตะตัดสินใจโบกมือลาสโมสรเมื่อปี 2015 แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาประสบความสำเร็จหลังจากย้ายไปเล่นกับ แมนซิตี้
สเตอร์ลิง คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยกับทัพ "เรือใบสีฟ้า" และยังได้แชมป์ฟุตบอลถ้วยอีกหลายครั้ง แถมนักเตะอยู่ในช่วงฟอร์มพีคสุดขีด นับตั้งแต่ที่เก็บเสื้อผ้าออกจากถิ่นแอนฟิลด์
ในช่วงที่ฟอร์มอยู่ในจุดสูงสุด สเตอร์ลิง เป็นหนึ่งในปีกที่รับมือได้ยากมากๆ และนั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาช่วยยอดทีมแห่งถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ประสบความสำเร็จมากมาย
อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา เพราะเมื่ออายุมากขึ้นฟอร์มก็ค่อยๆถดถอย และสุดท้าย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตัดสินใจขายนักเตะให้กับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี แต่เขาก็ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ ทำให้ตอนนี้ถูกส่งไปยืมตัวกับ อาร์เซน่อล
4. ฮาเวียร์ มาสเคราโน่
ไม่ว่าเขาจะเล่นตำแหน่งกองกลางหรือกองหลัง ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ เป็นหนึ่งในนักเตะที่สุดยอดมากๆ ในยุคของเขา และนั่นไม่มีอะไรเกินจริงเลย โดยเฉพาะตอนที่เขาย้ายไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า
"มาสเค" ตัดสินใจอำลา ลิเวอร์พูล ในปี 2010 และเกือบสร้างประวัติศาสตร์คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลแรกกับ บาร์เซโลน่า (คว้าแชมป์ ลา ลีกา กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2010/2011) พร้อมกับลงเล่น 45 เกมในทุกรายการ
ตลอดระยะเวลา 7 ปีครึ่งที่เล่นในถิ่นคัมป์ นู ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์มากถึง 17 รายการ และแน่นอนว่าคงไม่มีใครปฏิเสธว่าเขาได้ดิบได้ดีเมื่อออกจากถิ่นแอนฟิลด์อย่างแท้จริง
5. สตีฟ แม็คมานามาน
หากมองจากผลงานการเล่นส่วนตัว แม็คมานามาน ไม่ได้อยู่ในฟอร์มการเล่นระดับสูงเหมือนตอนที่เขาค้าแข้งกับ "หงส์แดง" แต่ต้องยอมรับว่าหากมองเรื่องความสำเร็จ นักเตะประสบความสำเร็จมากมายกับ เรอัล มาดริด
ช่วงระยะเวลา 4 ปีกับยอดทีมแห่งเมืองหลวงกระทิงดุ "แม็กก้า" คว้าแชมป์ 6 รายการ รวมทั้ง แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย อย่างไรก็ตามแม้เจ้าตัวจะคว้าแชมป์กับ เรอัล มาดริด แต่เขายอมรับว่ามันไม่ได้รู้สึกเหมือนกับการได้แชมป์ร่วมกับ ลิเวอร์พูล
" ผมยังจำได้ตอนที่เราคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรก (ปี 2000) และผมเพิ่งจะมาอยู่กับสโมสรแค่ 10 เดือนเท่านั้น ทุกๆ คนในห้องแต่งตัวร้องเพลงภาษาสแปนิช และยกชูประธานอย่างมีความสุข ซึ่งผมก็ทำ แต่ผมแค่รู้สึกเหมือนหลอกๆ ตัวเอง เพราะพวกเขาร้องเพลงภาษาสแปนิช และผมก็คิดว่าตัวผมรู้สึกแปลกๆ"
"ผมจำได้ว่าตอนนั้นกำลังคิดว่า -ผมอยากทำแบบนี้กับ ลิเวอร์พูล- เพราะผมคงอยู่ด้านหน้า และรู้เรื่องทุกคำ และทุ่มเทกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ตอนนั้นผมอยู่รอบนอกของการฉลองเพราะผมไม่เข้าใจอะไรเลย" แม็คมานามาน กล่าว