เขาไม่ใช่แค่คนปิดทองหลังพระให้กับ ลิเวอร์พูล

เขาไม่ใช่แค่คนปิดทองหลังพระให้กับ ลิเวอร์พูล
การจัดการอันรอบคอบช่วยให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ฟอร์มสุดยอดกับ ลิเวอร์พูล

ตอนที่ อาร์เน่อ สล็อต เข้ามาคุม ลิเวอร์พูล เมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา เขาสัญญาว่าจะเปลี่ยนวิธีการเตรียมความพร้อมของนักเตะสำหรับการลงเล่นในแต่ละนัด

กิจวัตรประจำวันตอนเช้าแบบใหม่ถูกนำมาทดลองใช้ และมีการให้ความสำคัญในเรื่องการพักกับการฟื้นฟูสภาพร่างกายมากขึ้น 

อาร์เน่อ กับทีมงานด้านพัฒนาศักยภาพของเขาวางแผนงานให้นักเตะแต่ละคนทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง โดยมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนว่าต้องการเลี่ยงอาการเบิร์นเอาต์ที่เคยส่งผลกับ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นก่อน ๆ

หนึ่งในคนที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษคือ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กองกลางที่เคยไม่ได้ลงเล่นหลายนัดในยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ เมื่อตอนปี 2024 แถมช่วงซัมเมอร์เขายังไปช่วยทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดที่ได้แชมป์ โคปา อเมริกา มาอีก

ด้วยความที่ฤดูกาลนี้มีโปรแกรมเกมทีมชาติแทรกเข้ามา 3 ช่วงก่อนถึงตอนสิ้นปี ทำให้ อาร์เน่อ รู้ดีว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ จำเป็นต้องได้รับการจัดการด้วยความละเอียดถี่ถ้วน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่เคยถูกบีบให้ต้องฝืนเล่นเลยในช่วงเดือนแรก ๆ ของฤดูกาลใหม่ 

ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยที่ช่วยทำให้ แม็คก้า กำลังเล่นได้ยอดเยี่ยมอย่างทุกวันนี้

...

แม้ว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ จะเป็นฟันเฟืองสำคัญของ ลิเวอร์พูล แต่จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ไปเพียง 76 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนเกมทั้งหมด 

บางนัดเหตุมาจากเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่นการติดโทษแบน 2 เกมที่เขาเพิ่งชดใช้ไปเมื่อไม่นานมานี้ ส่วนที่เหลือมาจากการที่ อาร์เน่อ ตัดสินใจพักลูกทีมของเขาเอง

แม็ค อัลลิสเตอร์ มีชื่อเป็นเพียงสำรองในเกมลีกถึง 2 จาก 3 นัดที่เตะกันหลังจบโปรแกรมเกมทีมชาติ 

ส่วนเกมเดียวที่เขาได้เป็นตัวจริงร่วมกับ หลุยส์ ดิอาซ อีกหนึ่งแข้งจากอเมริกาใต้นั้นมันเป็นเกมเดียวที่ ลิเวอร์พูล แพ้จนถึงตอนนี้ 

นั่นคือวันที่พ่าย น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อช่วงเดือนกันยายน

ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้น อาร์เน่อ แก้ไขอย่างรวดเร็ว บางทีตอนนั้นเขาอาจจะยังไม่ตระหนักว่าการเดินทางในสัปดาห์ของโปรแกรมเกมทีมชาติจะส่งผลกระทบกับลูกทีมของเขามากแค่ไหน

ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็เคยมีอาการหมดแรงบริเวณขาในเกมที่ไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในยุคที่ ลิเวอร์พูล มี คล็อปป์ เป็นกุนซือ และขอให้เปลี่ยนตัวเองออกตอนช่วงพักครึ่งมาแล้ว เพราะเขาแทบจะเล่นไม่ได้เลยหลังเพิ่งกลับมาจากการรับใช้ชาติ ซึ่งมันก็ส่งผลเสียกับฟอร์มของ ลิเวอร์พูล วันนั้นตามไปด้วย

ขณะที่นักเตะคนอื่น ๆ ในลีกอาจจะรู้สึกล้า แต่ แม็ค อัลลิสเตอร์ ยังฟิตเต็มที่และพร้อมช่วยทีม อาร์เน่อ รู้ดีว่าการจะลุ้นแชมป์ระยะยาวในฤดูกาลนี้ได้นั้น เขาจำเป็นต้องโรเตชั่นให้เหมาะสมด้วย 

ชัยชนะ 2 นัดหลังสุดเหนือ เวสต์แฮม กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เราได้เห็น แม็ค อัลลิสเตอร์ เล่นในระดับที่ต่างออกไปได้ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการวางแผนที่มีการไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบตั้งแต่ตอนเริ่มฤดูกาล

แน่นอน การที่เขาโดนแบนไป 2 นัดช่วยให้เขาได้พักในช่วงเวลาสำคัญเช่นกัน แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพรวมที่ใหญ่กว่า 

แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็เหมือนกับนักเตะคนอื่น ๆ ในทีมที่ได้รับการดูแลแบบแทบจะไร้ที่ติ และตอนนี้ ลิเวอร์พูล ก็กำลังได้รางวัลตอบแทนจากเรื่องนั้น

แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นมิดฟิลด์ครบเครื่องทำได้หลากหลาย อาทิ

สามารถแย่งบอลกลับมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ, เลือกจ่ายบอลแม่นได้อยู่บ่อยครั้ง, วิ่งไปทั่วสนามแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย, มักอยู่ถูกที่ถูกเวลาเพื่อตัดเกมคู่แข่ง หรือเป็นทางเลือกในจังหวะจ่ายบอล

Unsung Hero หรือ ผู้ปิดทองหลังพระ คำนี้อาจใช้กับ แม็ค อัลลิสเตอร์ ไม่ได้ เพราะในแต่ละเกมแฟนบอลลิเวอร์พูลแสดงออกด้วยความรักผ่านเพลงเชียร์อย่างกึกก้อง เพียงแต่ว่า แม็คก้า ไม่ค่อยมีชื่อบนพาดหัวข่าวสักเท่าไหร่

เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่ -แตะต้องไม่ได้- เหมือนอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ หรือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และในสนาม เขาเองก็ไม่ได้มีจุดเด่นแบบโดดด้านใดด้านหนึ่งอย่างคนอื่น

ตัวอย่างคือ เขาไม่ได้วิ่งเยอะเท่า โดมินิค โซโบซไล หรือครองบอลได้เหนียวแน่นเท่า เคอร์ติส โจนส์ และจากหลักฐานในฤดูกาลนี้ เขาไม่ได้ดูเพลินตาตอนครองบอลเท่า ไรอัน กราเฟนแบร์ก 

สถิติการสร้างสรรค์เกมของเขาก็ไม่ได้สะดุดตาอะไรมากมาย มีเพียง 1 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีก 

อย่างไรก็ตาม 

เขาเป็นผู้เล่นที่ช่วยปลดล็อคศักยภาพของคนรอบข้าง และเขารวมเอาทักษะชั้นยอดของคนอื่น ๆ มาอยู่ในตัวเองได้อย่างลงตัว

ทั้งหมดก่อนให้เกิดสถิติการผ่านบอลสำเร็จตรงพื้นที่สุดท้ายสูงถึง 86 เปอร์เซ็นต์ และอยู่อันดับที่ 15 ในการแย่งบอลกลับคืนมาได้ (91 ครั้ง) เมื่อเทียบบรรดากองกลางพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 

มันชัดเจนเลยว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ คือผู้เล่นสุดครบเครื่องที่ทำผลงานระดับท็อปต่อเนื่องสม่ำเสมอ และ อาร์เน่อ ก็กำลังสนุกกับการทำงานด้วยกันแบบชัดเจน

แม็ค อัลลิสเตอร์ คือกุญแจสำคัญในการขึ้นเกมของ ลิเวอร์พูล และเป็นผู้เล่นที่แย่งบอลในพื้นที่สุดท้ายได้มากที่สุดในทีม (14 ครั้ง) และเป็นอันดับ 5 ของกองกลางทั้งหมด 

เพื่อให้เห็นว่า เราควรชื่นชมเขาอย่างเต็มใจ คุณต้องมองให้ลึกกว่าตัวเลขสถิติ

ถ้าจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในเกมที่ทำให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ แตกต่างออกไป มันคือลูกตักบอลข้ามแผงกองหลังเพื่อส่งไปยังผู้เล่นแนวรุก ซึ่งนั่นสร้างความสั่นคลอนได้ทุกรูปแบบในเกมกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

มันเป็นการจ่ายบอลที่คล้ายกับแอสซิสต์ให้ ดาร์วิน นูนเญซ ทำประตูชัยตอนนาทีที่ 97 ในเกมกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อซีซั่นก่อน

ถึงกระนั้น แม็ค อัลลิสเตอร์ จะเลือกใช้การจ่ายบอลลักษณะนี้เฉพาะจังหวะที่เขารู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะทำ 

อย่างเกมเจอ นิวคาสเซิ่ล คุณเห็นเขาใช้ลูกเล่นนี้เพื่อเปิดทางให้ ซาลาห์ หลุดโล่ง ๆ ทางกราบขวา

อีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีเช่นกันคือเกมเจอ เรอัล มาดริด แม็ค อัลลิสเตอร์ มองเห็น คอเนอร์ แบรดลีย์ สอดขึ้นไปในกรอบเขตโทษ เพียงแต่พลาดไปที่จะทำให้เกิดประตู

คำถามคือ เรื่องการใช้งาน แม็ค อัลลิสเตอร์ อย่างระมัดระวังในแต่ละสัปดาห์แต่ละเดือน ยังคงต้องรอดูกันต่อไป

เขาลงเป็นตัวจริงทุกนัดใน แชมเปี้ยนส์ ลีก และจะเป็นกำลังสำคัญในทุกเกมใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า

ย้อนไปไม่นานนี้ กองเชียร์ ลิเวอร์พูล เคยผิดหวังจากการพลาดตัว จู๊ด เบลลิงแฮม แต่การเลิกให้ความสนใจผู้เล่นทีมชาติอังกฤษ รายนี้กลับนำพาให้พวกเขาได้สร้างแผงมิดฟิลด์ชุดใหม่ที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา

ในราคา 35 ล้านปอนด์ ตอนนี้คือความคุ้มค่า และที่สำคัญคือเป็นหัวใจสำคัญของ ลิเวอร์พูล

เรียบเรียงจาก The Athletic

HOSSALONSO


ที่มาของภาพ : getty image
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport