ลิเวอร์พูล มีนักเตะย้ายออกไปมากมายซึ่งเป็นเรื่องปกติของวิถีฟุตบอล โดยที่มีทั้งประสบความสำเร็จและล่องจุ๊น ซึ่งสิ่งนี้น่าจะเป็นบทเรียนที่ดีให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้ศึกษาก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกอยู่หรืออำลาถิ่นแอนฟิลด์
อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ เรอัล มาดริด ตกเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง หลังนักเตะสามารถเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับทีมต่างแดนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 แม้บทสรุปยังไม่มีความชัดเจน แต่หลายคนฟันธงว่า "รองเทรนต์" น่าจะตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ต้องการเปิดเผยในเวลานี้
แน่นอนว่าการย้ายทีมเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นกับทุกๆ สโมสร โดยก่อนหน้านั้น "หงส์แดง" ก็มีผู้เล่นระดับเวิลด์คลาสเก็บข้าวของออกจากดินแดนเมอร์ซี่ย์ไซด์ และประสบความสำเร็จหลายราย ยกตัวอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ หรือ สตีฟ แม็คมานาแมน ที่ออกไปคว้าแชมป์มากกว่ากับ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม "เดอะ เร้ดส์" มีผู้เล่นระดับโลกหลายคนที่ต้องล้มเหลวไม่เป็นท่าเช่นกัน และที่โดดเด่นซึ่งสาวก "เดอะ ค็อป" จดจำได้ไม่มีวันลืมนั่นก็คือ 6 สตาร์ของทีมที่ต้องน้ำตาตกเมื่ออำลาถิ่นแอนฟิลด์
1. เอียน รัช
"รัชชี่" คือหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดของ ลิเวอร์พูล และอาจจะระดับโลกในยุคของเขา เพราะนี่คือผู้เล่นที่ช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์มากมายมหาศาล และยังเป็นเจ้าของสถิติดาวซัลโวตลอดกาลของทีมด้วยจำนวน 346 ประตู (660นัด)
ผลงานของ ดาวเตะเจ้าของฉายา "เพชฌฆาตหน้าติดหนวด" โดนอกโดนใจ ยูเวนตุส อย่างมาก และส่งเทียบเชิญให้ไปร่วมทัพ "ม้าลาย" ในปี 1986 แต่สุดท้ายฟอร์มไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่ตั้งความหวัง โดยยิงได้แค่ 13 ประตูจากการเล่น 40 เกม สุดท้ายต้องระเห็จกลับมาตายรังทีมรักเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม รัช ยืนยันว่าตนไม่ได้ล้มเหลวในการเล่นให้ทัพ "เบียงโคเนรี่" แม้จะยิงประตูได้ไม่เยอะแต่การย้ายไปค้าแข้งในลีกมะกะโรนีช่วยพัฒนาศักยภาพการเล่นของตนและทำให้การกลับมายัง ลิเวอร์พูล คำรบสองฟอร์มโหดกว่าเดิม
"ที่ ยูเวนตุส ผมได้เรียนรู้ในการเป็นนักเตะที่ครบเครื่องยิ่งขึ้น ผมย้ายไป อิตาลี ในฐานะดาวซัลโว และกลับมาเป็นนักเตะที่เก่งขึ้น ที่ ลิเวอร์พูล เราเป็นทีมชั้นยอด งานของผมก็คือการวิ่งเข้าไปหรืออยู่รอบๆ กรอบเขตโทษ แต่ใน อิตาลี ผมต้องอยู่ทั่วสนาม ลงกลับมาที่บริเวณกลางสนาม และทำทุกอย่าง" ตำนานดาวเตะชาวเวลส์ ระบุ
แม้คำพูดดังกล่าวอาจจะมีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่ รัช ยิงได้แค่ 7 ประตูในศึกกัลโช่ เซเรีย อา และไม่ได้แชมป์อะไรเลย ที่สำคัญเขาคงไม่หวนกลับ ลิเวอร์พูล เร็วขนาดนี้หากประสบความสำเร็จ จริงไหม !!!
2. ไมเคิ่ล โอเว่น
เรอัล มาดริด แสดงออกอย่างชัดเจนที่จะคว้าตัว ไมเคิ่ล โอเว่น ซึ่งคว้ารางวัลบัลลงดอร์ ประจำปี 2001 โดยหวังจะนำมาประสานงานกับ "R9" โรนัลโด้, เดวิด เบ็คแฮม หลุยส์ ฟิโก้ และ ซีเนดีน ซีดาน
อดีตดาวยิงเจ้าของฉายา "เบบี้โกล" ตัดสินใจทิ้ง ลิเวอร์พูล เพื่อไปเล่นในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ซึ่งในเวลานั้นพวกเขาคือทีมกลาติกอสที่รวมเหล่าซูเปอร์สตาร์ลูกหนังมากมายอยู่ในทีม
อย่างไรก็ตามชีวิตในเมืองหลวงแดนกระทิงดุไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และ โอเว่น ต้องพบกับความจริงว่าการทีเขาเก่งกาจในอังกฤษไม่ได้หมายความว่าจะฮอตในยุโรป โดยผลงานซัดไป 16 ประตูในทุกรายการถือว่าย่ำแย่สุดๆ สำหรับนักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าเวิลด์คลาสในเวลานั้น
โอเว่น อยู่กับ "ราชันชุดขาว" แค่ซีซั่นเดียวก่อนจะกลับมาทำมาหารับประทานที่อังกฤษ โดยไปเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซึ่งผลงานก็ลุ่มๆ ดอนๆ และมีโอกาสได้เซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้เขาจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกแต่ก็กลายเป็นตราบาปชีวิต เพราะแฟนบอล "หงส์แดง" ไม่นับญาติกับเจ้าตัวอีกต่อไป
ถ้าจะให้ความเป็นธรรมกับ โอเว่น ที่ไม่ประสบความสำเร็จนับตั้งแต่อำลา "เดอะ เร้ดส์" อาจจะมาจากอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่กล้ามเนื้อหลังต้นขา ซึ่งถ้าหากเจ้าตัวฟิตสมบูรณ์ไม่แน่อาจยิ่งใหญ่กับ เรอัล มาดริด ก็ได้ ใครจะไปรู้ !!!
3. เฟร์นานโด ตอร์เรส
หากมองแบบแฟร์ๆ เฟร์นานโด ตอร์เรส อำลา ลิเวอร์พูล และประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์กับ เชลซี โดยเฉพาะการได้ชูโทรฟี่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่หากมองจากจำนวนประตูและสถิติการลงสนามต้องบอกว่าน่าผิดหวังสิ้นดี
สำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" ทุกคนไม่มีวันลืมความร้อนแรงในการยิงประตูของ "เอลนินโญ่" เพราะนี่คือหนังในกองหน้าที่มีสัญชาตญาณการจบสกอร์ที่เฉียบคมและเด็ดขาด ที่สำคัญยังสามารถยิงประตูได้ทุกรูปแบบ
น่าเสียดายที่ ตอร์เรส ไม่ได้เป็นแบบเดิมนับตั้งแต่ที่้ย้ายไปสวมเครื่องแบบ "สิงโตน้ำเงินคราม" เขามีปัญหาเรื่องความมั่นใจและความคงเส้นคงวาในการเล่น ด้วยฟอร์มแบบนั้นทำให้ทุกคนลืมไปแล้วว่านี่คือกองหน้าที่ทำให้ เนมานย่า วิดิช ตำนานกองหลัง แมนยู ต้องปั่นป่วนทุกครั้งที่ปะทะแข้งกัน
ลองพิจารณาจำนวนประตูอย่างเดียวนะไม่เอาเรื่องถ้วยแชมป์ ! ตอร์เรส ตะบันไปถึง 81 ประตูจากการเล่น 145 เกมให้ ลิเวอร์พูล ขณะที่ช่วงที่ค้าแข้งกับ เชลซี เขาทำได้แค่ 45 ลูกจาก 172 แมตช์
4. ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
ต้องยอมรับว่านี่คือหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลลิเวอร์พูล รู้สึกเสียดายอย่างยิ่งที่ตัดสินใจอำลาทีม เพราะหลายคนมั่นใจว่าเขาจะเป็นคีย์แมนสำคัญในยุคเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่จะนำ "หงส์แดง" กลับมาผงาดฟ้าอีกครั้ง
"คูตี้" เคยสร้างวีรเวรหลั่งน้ำตารดสนามบอลตอนที่ยิงประตูให้ทีมชาติบราซิล เพราะอัดอั้นจาการที่ ลิเวอร์พูล ไม่ยอมปล่อยตัวเขาไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 อย่างไรก็ตามนักเตะสมหวังในช่วงเดือนมกราคม 2018 เมื่อได้ย้ายไปสวมเครื่องแบบ "เลือดหมูน้ำเงิน" อย่างที่ใจปรารถนา
สำหรับค่าตัวของ คูตินโญ่ ในตอนนั้นว่ากันว่าสูงถึง 142 ล้านปอนด์ (ราว 6,248 ล้านบาท) และเม็ดเงินจำนวนนั้นทำให้ คล็อปป์ มีโอกาสได้สร้างทีมใหม่ด้วยการคว้าตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ (ย้ายมาเดือนก.ค. 2018) กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (ย้ายมาเดือนม.ค. 2018) มาเสริมแกร่ง
การย้ายไปเล่นกับ บาร์ซ่า นักเตะได้สมหวังในการคว้าแชมป์ ลา ลีกา แต่หากมองจำนวนการลงสนามเขาแทบไม่ค่อยได้รับโอกาสเป็นตัวจริง และไม่ใช่ผู้เล่นตัวหลักของทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" ซึ่งต่างจากสมัยอยู่กับ ลิเวอร์พูล อย่างสิ้นเชิง
ท้ายที่สุดนักเตะก็ต้องระหกระเหินโดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ บาเยิร์น มิวนิค และ แอสตัน วิลล่า ก่อนจะย้ายมาเป็นแข้ง "สิงห์ผงาด" ถาวรในปี 2022 และก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นเดิม ล่าสุดก็โดนส่งไปให้ วาสโก ดา กาม่า ยืมใช้งานเป็นเวลาหนึ่งซีซั่น
5. ซาดิโอ มาเน่
แฟนบอลลิเวอร์พูล จดจำได้เป็นอย่างดีว่าพวกเขามีความสุขมากแค่ไหนที่ได้เห็นสามประสานหิน เหล็ก ไฟ (SMF) กระซวกตาข่ายคู่แข่งเป็นว่าเล่นจนนำความสำเร็จมาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ มากมาย อาทิเช่น แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คือสามแนวรุกที่ทำให้คู่แข่งทุกสโมสรทั้งในอังกฤษ และยุโรป ต้องหวาดหวั่น โดยเฉพาะเมื่อมาทำงานร่วมกับ คล็อปป์ ยิ่งทำให้ "เดอะ เร้ดส์" มีเกมรุกที่โหดทะลุเพดานเดือด
อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อ มาเน่ ตัดสินใจอำลา "หงส์แดง" เพื่อไปเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยค่าตัว 27.4 ล้านปอนด์ (ราว 1,205 ล้านบาท) ช่วงซัมเมอร์ปี 2022 แต่ผลงานของเขาไม่โดดเด่นอย่างที่ทัพ "เสือใต้" คาดหวังเอาไว้
แม้จะคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ในซีซั่นแรกที่อยู่กับสโมสร แต่ก็ไม่ใช่ผู้เล่นตัวหลักของทีม ที่สำคัญยังมีเรื่องชกต่อกับ ลีรอย ซาเน่ จนโดนแบนและปรับเงิน สุดท้ายก็ต้องระเห็จไปหากินกับ อัล-นาสเซอร์ ในปีถัดมา จบช่วงเวลา 1 ปีกับยอดทีมแห่งแคว้นบาวาเรียแบบไม่สวยงาม
ส่วนในรายของ ฟีร์มีโน่ อำลา ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 ไปเล่นกับ อัล-อาห์ลี แต่นักเตะย้ายไปเยี่ยงวีรบุรุษ และมีการเลี้ยงฉลองเพื่อเป็นเกียรติให้กับเขา ขณะที่ "บังโม" ปัจจุบันยังเป็นตัวหลักของสโมสร แถมฟอร์มโหดกว่าเดิมอีกต่างหาก
ทอมเม้ง