10 เรื่องเด่นวงการฟุตบอลประจำปี 2024

10 เรื่องเด่นวงการฟุตบอลประจำปี 2024
หลังจากสิ้นสุดปี 2024 วงการลูกหนังโลกมีเรื่องน่าสนใจมากมาย ทั้งความสำเร็จที่สุดยิ่งใหญ่ของ แมนซิตี้, การเปลี่ยนแปลงของ ลิเวอร์พูล, ความย่ำแย่ แมนยู และดราม่าบัลลงดอร์ โดยนี่คือ 10 เรื่องเด่นส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

1. แมนซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ


นับตั้งแต่ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามากุมบังเหียน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขากลายเป็นมหาอำนาจลูกหนังวงการฟุตบอลอังกฤษ และโลกไปเรียบร้อยแล้ว 

ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ กุนซือจากแคว้นคาตาลัน นำความสำเร็จมาสู่ถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม มากมายมหาศาล อาทิเช่นการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 6 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยส์ ลีก 1 สมัยเป็นต้น

ไฮไลท์สำคัญก็คือการนำทีมผงาดคว้าทริปเบิ้ลแชมป์เมื่อฤดูกาล 2022/2023 อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ กวาร์ดิโอล่า กลายเป็นผู้จัดการทีมระดับขึ้นหิ้งนั่นก็คือการสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 4 ซีซั่นติดต่อกัน ซึ่งไม่เคยมีใครทำได้เลยตั้งแต่ยุคดิวิชั่น 1 จนเปลี่ยนเป็นพรีเมียร์ลีก

  แม้ในซีซั่นปัจจุบัน เป๊ป จะนำทัพ "สำเภาทอง" กระท่อนกระแท่นเหลือเกิน และโอกาสลุ้นสร้างสถิติคว้าแชมป์ลีก 5 สมัยติดต่อกันค่อนข้างริบหรี่เหลือเกิน แต่กระนั้นสิ่งนี้ไม่สามารถลบล้างความยิ่งใหญ่ที่เขาได้สร้างเอาไว้ในวงการฟุตบอลอังกฤษ

2. คล็อปป์ อำลา ลิเวอร์พูล


เจอร์เก้น คล็อปป์ มหาบุรุษผู้เปลี่ยน ลิเวอร์พูล จากทีมที่มีแค่ชื่ออันยิ่งใหญ่ให้กลับมาเป็นทีมอลังการอีกครั้ง ด้วยสไตล์การเล่นแบบเฮฟวี่เมทัลที่สร้างความสนุกเร้าใจให้กับสาวก "เดอะ ค็อป" ทั่วโลก

นายใหญ่ชาวเยอรมัน นำความสำเร็จมาสู่ถิ่นแอนฟิลด์มากมาย โดยเฉพาะการช่วย "หงส์แดง" สิ้นสุด 30 ปีแห่งการรอคอยแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ด้วยการนำทีมคว้าโทรฟี่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อฤดูกาล 2019/2020 

แน่นอนว่า คล็อปป์ เป็นที่รักของแฟนบอล "หงส์แดง" ทุกคน และการได้ยินเขาประกาศวางมือจากการทำงานให้ ลิเวอร์พูล สร้างความเศร้าใจให้กับสาวก "เดอะ ค็อป" เป็นอย่างยิ่ง 

หากจำกันได้ในวันสุดท้ายของฤดูกาล 2023/2024 ตอนที่ คล็อปป์ อำลาทีมทำเอาแฟนบอลน้ำตาตก เพราะมันมีทั้งความเศร้าและความปลื้มปริ่ม ยิ่งไปกว่านั้นการได้ยินเขาร้องเพลงต้อนรับ อาร์เน่อ สล็อต มันช่างน่าประทับใจอย่างยิ่ง 

3. เลเวอร์คูเซ่น ผงาดทริปเบิ้ลแชมป์ไร้พ่าย

หนึ่งในสิ่งที่วงการฟุตบอลต้องตะลึงก็คือการได้เห็น ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ล้ม บาเยิร์น มิวนิค พร้อมกับผงาคว้าแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี และ เดเอฟเบ โพคาล เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และยังเป็นการคว้าดับเบิ้ลแชมป์แบบไร้พ่ายซะด้วย

ชาบี อลอนโซ่ เข้ามากุมบังเหียน เลเวอร์คูเซ่น  เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ปี 2022 โดยตอนนั้น "ห้างขายยา" อยู่ในอันดับที่ 17 ของตารางคะแนน หรือก็คืออันดับรองสุดท้ายของลีก แต่พยายามยกระดับผลงานของทีมจนจบอันดับ 6 ของตารางคะแนน

กระนั้นในฤดูกาล 2023/2024 "คุณชาย" นำทีมคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา ไปครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วยการเก็บไป 79 คะแนนจาก 29 เกม แถมยังมีผลต่างประตูได้-เสีย ดีถึงระดับ +55 ลูกด้วย นอกจากนี้ เลเวอร์คูเซ่น ก็ยังไม่แพ้ใครเลยจากการลงเล่น 43 นัดในทุกรายการอีกต่างหาก

น่าเสียดายเหลือเกินที่ อลอนโซ่ แอนด์ โค. พลาดท่าให้กับ อตาลันตา ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ซึ่งเป็นการพ่ายแพ้เกมเดียวเท่านั้นของพวกเขาเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา 

4. ปีทองวงการลูกหนังสเปน 


ต้องยอมรับว่าปี 2024 ถือเป็นปีทองสำหรับวงการฟุตบอลสเปน อย่างแท้จริง เพราะพวกเขาประสบความสำเร็จทั้งในระดับชาติ, สโมสร, โอลิมปิก และรางวัลส่วนบุคคล  

เริ่มต้นด้วยการที่ เรอัล มาดริด ปราบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากนั้นทีมชาติสเปน ก็โชว์ฟอร์มสุดยอดไร้พ่ายทั้งทัวร์นาเมนต์ พร้อมคว้าแชมป์ยูโร 2024 ไปครอบครองอย่างยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นสมัยที่ 4 ของทัพกระทิงดุ 

ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะ สเปน ยังสร้างความยิ่งใหญ่ต่อเนื่องเมื่อ คว้าแชมป์ฟุตบอลชายโอลิมปิก 2024 หลังชนะฝรั่งเศส ช่วงต่อเวลาพิเศษ 5-3 และถือเป็นเหรียญทองแรกครั้งแรก ในรอบ 32 ปีที่ นับตั้งแต่ทำได้ครั้งหลังสุดที่เป็นเจ้าภาพเมื่อปี 1992

ผลงานส่วนรวมถือว่าเต็มอิ่มแล้ว ผลงานส่วนตัวก็ไม่ธรรมดา เมื่อ โรดรี้ ได้รับเสียงโหวตคว้ารางวัลบัลลงดอร์ แซงหน้า วินิซิอุส จูเนียร์ ตัวเต็ง โดยเขากลายเป็นแข้

งชาวสแปนิชคนที่สองที่คว้ารางวัลทรงเกียรตินี้ และเป็นคนแรกนับตั้งแต่ หลุยส์ ซูอาเรซ  ตำนานบาร์เซโลนา เคยทำได้ในปี 1960 หรือเมื่อ 64 ปีก่อน 

5. ปลด เทน ฮาก แต่ แมนยู ก็ยังย่ำแย่ 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุค เอริค เทน ฮาก ดูเหมือนจะย่ำแย่สุดๆ โดยฤดูกาลที่ผ่านมา โดยนำ "ปีศาจแดง" จบในอันดับ 8 ซึ่งถือว่าเป็นการจบซีซั่นในอันดับที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรนับตั้งแต่เข้าสู่ยุคของพรีเมียร์ลีก

เข้าสู่ฤดูกาลใหม่ผลงานของ เทน ฮาก กับ แมนยูไนเต็ด ไม่ได้กระเตื้องขึ้นเลย แถมยังน่าอนาถกว่าเดิมด้วยซ้ำ โดยเข้านำทีมหล่นไปอยู่อันดับ 13 ของตารางลีก และสุดท้ายก็โดนปลดออกจากตำแหน่งเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมปี 2024

สิ่งดีๆ ที่พลพรรคแฟนผีโปรเจกต์ยังพอยิ้มได้ก็คือการคว้าแชมป์คาราบาว คัพ กับ เอฟเอ คัพ ในช่วง 2 ปีกว่าๆ ที่ กุนซือชาวดัตช์ เข้ามากุมบังเหียน และวลีเด็ดที่แฟนบอล "เร้ด อาร์มี่" ปลื้มอกปลื้มใจก็คือการประสบความสำเร็จเป็นรองแค่ แมนซิตี้ ในเรื่องโทรฟี่แชมป์ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา!!!

หลังการจากไปของ เทน ฮาก และการมาของ รูเบน อโมริม สถานการณ์ของ แมนยูไนเต็ด ก็ไม่ได้ดีขึ้นไปกว่าเดิม ทำให้ตอนนี้สาวก "ผีแดง" ชักเริ่มหวั่นใจว่าเมื่อเข้าสู่ปี 2025 สถานการณ์ของทีมจะย่ำแย่กว่าเดิมในยุค กุนซือพี่เจ๋ง หรือเปล่า  

6. ดราม่า บัลลงดอร์ 

ประเด็นมีการพูดถึงการมากในช่วงปี 2024 ก็คือเรื่องการประกาศผลรางวัลบัลลง ดอร์ ประจำปี 2024 เพราะเกิดเรื่องดราม่าที่ทำให้คนในวงการลูกหนังถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกในเรื่องพฤติกรรมของ วินิซิอุส จูเนียร์ และสโมสรเรอัล มาดริด

ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศ "บอลทองคำ" ดูเหมือน วินิซิอุส จะนอนมา เพราะหลายสื่อค่อนข้างมั่นใจว่าผลงานของเขากับ "ราชันชุดขาว" มันช่างโดดเด่นเหลือเกิน และสมควรที่จะได้รางวัลทรงเกียรตินี้ไปครอบครอง

ขนาดก่อนวันประกาศไม่กี่วันชื่อของ สตาร์ทีมชาติบราซิล ก็ยังคงเป็นเต็งหนึ่ง แต่แล้วเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะมีการประกาศผลรางวัล กลายเป็นชื่อมีข่าวหลุดออกมาว่า วินิซิอุส ชวดบัลลงดอร์ และคนที่ได้ก็คือ โรดรี้

เจอแบบนี้เข้าไป ดาวยิงเจ้าน้ำตาจากแดนแซมบ้า ถึงกับตบะแตก และตัดสินใจไม่เดินทางมาร่วมงานพิธี ขณะที่ เรอัล มาดริด ก็ออกโรงหนุนนักเตะตัวเองอย่างเต็มที่ ด้วยการไม่มาร่วมงานด้วยเช่นกัน บทสรุปก็คือทั้งนักเตะและสโมสรโดนวิจารณ์อย่างหนัก 

อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุด วินิซิอุส ผงาดคว้ารางวัล "เดอะ เบสต์ ฟีฟ่า เมนส์ เพลเยอร์" หรือ นักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมของ ฟีฟ่า ประจำปี 2024 ตามด้วยรางวัลนักเตะชายยอดเยี่ยมแห่งปี โกลบ ซอคเกอร์ ดูไบ อวอร์ดส์ 2024  ด้วย 

7. ลิเวอร์พูล ยุคใหม่ผลงานกระฉูด

 ลิเวอร์พูล เข้าสู่ยุคผลัดใบจาก คล็อปป์ มาเป็น อาร์เน่อ สล็อต แน่นอนว่าแฟนบอล "หงส์แดง" ทั่วโลกคงงงว่าชายหัวใสชาวดัตช์รายนี้เป็นใคร และเก่งมากแค่ไหน เพราะเท่าที่รู้ก็คือเคยคุม อาแซ่ด อัลค์มาร์ กับ เฟเยนูร์ด เท่านั้น

นับตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาทำงานในถิ่นแอนฟิลด์ ช่วงซัมเมอร์นี้ โค้ชอาร์เน่อ ต้องเจอกับข้อสงสัยและคำถามมากมายว่าจะสามารถสานต่องานของ คล็อปป์ ได้ไหม และจะนำ "เดอะ เร้ดส์" ไปในทิศทางแบบไหน  

จากวันแรกจนถึงเกมล่าสุดที่นำทีมถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 5-0 สาวก "เดอะ ค็อป" และแฟนบอลทีมอื่นๆ ต่างซูฮกให้กับความเก่งฉกาจของ กุนซือชาวดัตช์ วัย 46 ปีอย่างมาก เพราะในฤดูกาล 2024/2025 เขานำ ลิเวอร์พูล ชนะ 23 เสมอ 3 และแพ้ 1 เกมในการแข่งขันทุกรายการ 

ความยอดเยี่ยมของ อาร์เน่อ ทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล สามารถครองจ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และยังรั้งอันดับ 1 ในตารางเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส พร้อมทั้งพา "หงส์แดง" ทะลุตัดเชือก คาราบาว คัพ และมีลุ้นโทรฟี่ เอฟเอ คัพ ด้วย 

8. โค้ชอาร์เน่อ แพ้เกมเดียวรอบปีปฎิทิน 2024

ต่อเนื่องจากความยอดเยี่ยมของ อาร์เน่อ ไม่ใช่แค่ผลงานที่โดดเด่นเป็นสง่ากับ ลิเวอร์พูล เท่านั้น เพราะตลอดปี 2024 เขาทำสถิติที่น่าประทับใจมากๆ และนั่นเป็นบทพิสูจน์ว่าชายคนนี้ไม่ใช้กุนซือเผื่อเลือกของ "หงส์แดง" 

บอสหัวใสชาวดัตช์  มีสถิติที่น่าเหลือเชื่อมากๆ เมื่อแพ้ไปเพียง 1 นัด จากทั้งหมด 51 นัดในทุกรายการ ตลอดปีปฏิทิน 2024 (นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2024) 

สำหรับผลงานในปี 2024 ของ บอสอาร์เน่อ แบ่งเป็นการชนะได้ถึง 41 แมตช์ เสมอ 9 นัด ซึ่งความปราชัยเพียงนัดเดียวตลอดทั้งปีของเขาได้แก่เกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ ลิเวอร์พูล แพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-1 เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ขณะที่ตอนคุม เฟเยนูร์ด นั้นเขานำทีมไม่แพ้ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของซีซั่น 2023/2024 โดยการตกรอบ ยูโรปา ลีก รอบเพลย์ออฟ มาจากผลเสมอ โรม่า 1-1 ทั้ง 2 เกมเหย้า-เยือนก่อนจะแพ้ดวลจุดโทษ แม้สุดท้ายจะชวดแชมป์เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ แต่ก็ได้โทรฟี่ เคเอ็นวีบี คัพ (ดัตช์ คัพ) มาปลอบประโลมใจ 

9.  โม ซาลาห์ สร้างผลงานสุดโหด

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สร้างผลงานในปี 2024 ได้อย่างสุดยอด โดยเขาเป็นนักเตะเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำประตูมากที่สุดในทุกรายการจากทั้งหมด 5 ลีกชั้นนำในยุโรป 

สำหรับฤดูกาล 2024/2025 "บังโม" ซึ่งตะบันในลีกไปแล้ว 20 ประตูกับ 17 แอสซิสต์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำประตูและแอสซิสต์รวม 37 ลูก แต่ถ้าเฉพาะในปี 2024 ซาลาห์ จบปีด้วยการซัดไป 29 ประตูกับ 23 แอสซิสต์ รวมเบ็ดเสร็จเขามีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุด 52 ลูกในรอบปีปฏิทิน ซึ่งมากกว่าประตูที่ เอฟเวอร์ตัน ทำได้ 37 ลูกในปีนี้ 

จากสถิติที่ของเว็บไซต์ออปต้าระบุว่าเมื่อจบปี 2024 ซาลาห์ เป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับการทำประตูมากที่สุดในทุกรายการจาก 5 ลีกชั้นนำในยุโรป แซงหน้า  แฮร์รี่ เคน (50 ประตู), คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (49 ประตู) และ วินิซิอุส จูเนียร์ (46 ประตู)

นอกจากนี้ภายใต้สถิติการเล่น 44 เกมในรอบปีทำให้ ซาลาห์ มีค่าเฉลี่ยในการทำประตูและแอสซิสต์ได้ทุกๆ 64 นาทีที่ลงสนาม ที่สำคัญผลงานการมีส่วนร่วมยิง 1 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ในเกมถล่ม เวสต์แฮม ทำให้เขายิง 20 ลูกหรือมากกว่านั้นในทุกรายการตลอด 8 ซีซั่นที่อยู่กับ ลิเวอร์พูล 

ขณะเดียวกัน "คิง ออฟ อียิปต์" กลายเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมในการทำประตู 30 ลูก (ซัดไป 17 ประตูกับ 13 แอสซิสต์) ในพรีเมียร์ลีก  เร็วที่สุดในลีก หลังลงสนามไปเพียง 18 แมตช์เท่านั้นน้อยกว่าที่ หลุยส์ ซัวเรซ เคยทำเอาไว้เมื่อฤดูกาล 2013/2014 (19 เกม)

10. อาร์เจนติน่า แชมป์ระดับชาติต่อเนื่อง

อาร์เจนติน่า ประสบความสำเร็จในระดับชาติอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่พวกเขาผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ จากนั้นอีกสองปีก็คว้าแชมป์โกปา อเมริกา 2024 

ความสำเร็จของทัพ "ฟ้าขาว" เป็นการยืนยันว่าพวกเขาคือประเทศมหาอำนาจลูกหนังในทัวร์นาเมนต์ระดับประเทศอย่างแท้จริง และผลงานที่น่าประทับใจแบบนี้คงไม่มีใครปฎิเสธว่านี่คือประเทศที่เป็นเลิศในเกมลูกหนัง

อาร์เจนติน่า ภายใต้การกุมบังเหียนของกุนซือลิโอเนล สกาโลนี่ สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจนถึงนัดชิงชนะเลิศ โดยพวกเขาไม่แพ้ให้กับทีมใดเลยจนกระทั่ง ลิโอเนล เมสซี่ ได้ชูโทรฟี่แชมป์ทวีปอเมริกาใต้ 

หลังจากนี้ในศึกเวิลด์ คัพ 2026 ที่แคนาดา, เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา พวกเขาจะยังครองความยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่องได้หรือไม่ เอาไว้รอดูกันต่อไป

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport