เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ซีอีโอ อาแจ็กซ์ บอกเอง เพิ่งตกลงที่จะต่อสัญญากับ อาแจ็กซ์ 3 ปี โดยตอนนี้เหลือแค่รอการอนุมัติจากคนใหญ่คนโตของสโมสร พร้อมบอกว่า อาร์เซน่อล ให้ค่าตัวต่ำไปเองจนทำให้อดได้ตัว ลิซานโดร มาร์นิเตซ ไปร่วมทัพ
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ประธานบริหารของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สโมสรดังของศึก เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ เปิดเผยว่าตนเพิ่งตกลงแบบปากเปล่าที่จะต่อสัญญากับทีมไปอีก 3 ปี โดยตอนนี้เหลือเพียงรอให้ที่ประชุมทำการอนุมัติเท่านั้น
หลังจากแขวนถุงมือไปแล้วนั้น ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็เข้ามารับงานด้านบริหารกับ อาแจ็กซ์ โดยเขาเริ่มจากตำแหน่งผู้อำนวยการด้านการตลาดในปี 2012 ก่อนจะถูกเลื่อนมาเป็นซีอีโอเมื่อปี 2016 และอยู่ในตำแหน่งดังกล่าวมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้โดดเด่นมากๆ จนทำให้มีข่าวลืออยู่เรื่อยๆ ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการเอาเขามาทำงานร่วมกับทีม
"ผมเพิ่งตกลงที่จะขยายสัญญาไปอีก 3 ปี แต่มันก็ต้องรอให้ถึงการประชุมผู้ถือหุ้นในสัปดาห์หน้ากว่าที่พวกเขาจะอนุมัติสัญญาฉบับนั้นน่ะนะ ผมอยู่กับที่นี่มาแล้ว 10 ปี ผมสนุกกับชีวิตของผมที่นี่ ผมมีบ้านอยู่แถวชายหาด มันอยู่ห่างจากที่นี่แค่ราวครึ่งชั่วโมง แน่นอนว่ามันเป็นงานที่หิน แต่มันก็ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า เราจะรอดูกันว่าอนาคตหลังจากนี้มันจะเป็นยังไงต่อไป" ฟาน เดอร์ ซาร์ เผยกับ ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชื่อดัง
ตำนานมือกาวชาวดัตช์บอกด้วยว่าที่จริง อาร์เซน่อล เข้ามาทาบทาม ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลังชาวอาร์เจนไตน์ก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ฝั่ง "ไอ้ปืนใหญ่" ให้ค่าตัวต่ำไป "อาร์เซน่อล เป็นทีมที่ขอซื้อ ลิซานโดร ก่อน แต่จำนวนเงินที่พวกเขาเสนอเข้ามามันทำให้เราตอบกลับไปประมาณว่า -ขอบคุณสำหรับข้อเสนอนะ แต่เราขอเก็บเขาเอาไว้ดีกว่าจะมาเริ่มการเจรจาแล้วกัน- แต่กับ ยูไนเต็ด มันต่างไปนิดหน่อย ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาเรามีการเจรจาทำธุรกิจกันหลายครั้ง อย่างกรณีของ ดาเล่ย์ บลินด์, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ซึ่งงานของผมน่ะคือการทำให้มั่นใจว่าผมจะทำการตัดสินใจที่ส่งผลดีที่สุดต่อ อาแจ็กซ์ ได้"