ข้อเสียระบบ 'หลังสาม' ของ แมนยูไนเต็ด
1.รูเบน อโมริม เอาสูตรนี้มาติดตั้งให้ปีศาจแดงมา 9 นัดแล้วนะครับ แต่ยังหาปราการหลัง 3 ตัวที่เหมาะสมและลงตัวที่สุดไม่เจอเลย
9 นัดที่ผ่านมา แมนยูไนเต็ด เสียไปถึง 17 ประตู โดยเก็บคลีนชีตได้แค่นัดเดียวเท่านั้น !!!
2. การมีเซ็นเตอร์แบ็ค 3 คน ไม่ได้ช่วยให้เกมรับของปีศาจแดงเหนียวแน่น และแข็งแกร่งขึ้นเลย ด้วยเหตุผลจากข้อ 1
นอกจากนี้ กองหลังทั้ง 3 ตัวยังต้องมาทำความเข้าใจกับระบบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ทว่ากลับต้องสลับกันลงทุกนัดแบบนี้ มันทำให้สอดประสานกันไม่ลงตัวสักที
นุสแซร์ มัซราวี เดี๋ยวเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฯ เดี๋ยวเล่นเป็นวิง-แบ็ค
มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ เดี๋ยวยืนตัวกลาง เดี๋ยวยืนทางซ้าย เดี๋ยวยืนทางขวา โอยยยย !!!
3.สูตรนี้ต้องมี 'วิง-แบ็ค' 2 ข้างที่เก่งจริงๆ สามารถรับและรุกได้ในร่างเดียวกัน แถมใช้พลังงานมหาศาล เพราะต้องวิ่งขึ้นและวิ่งลงตลอดเวลา
ทว่าในทีมชุดปัจจุบันยังหาผู้เล่นที่มีคุณสมบัตินี้ไม่เจอเลย โดยไม่เว้นแม้แต่ อาหมัด ดิยัลโล่ หรือ นุสแซร์ มัซราวี
4. สูตร 3-4-2-1 ทำให้ผู้เล่นที่จัดอยู่ในประเภทปีกอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ และอันโตนี่ ทำตัวลำบาก เพราะถูกขยับเข้ามาอยู่ด้านในมากกว่าด้านกว้าง
ขณะที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ต้องละทิ้งตำแหน่งหมายเลข 10 คนเดียวที่ตัวเองเคยเฉิดฉาย แถมถูกถอยลงมาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง (เบอร์ 😎 อีกตะหาก
5. ทีนี้ลองคิดเล่นๆ ดูนะครับ
สมมุติ รูเบน อโมริม ผู้นิยมสูตร 'หลังสาม' ทำหน้าที่กุนซือได้ 2 ปี แล้วถูกปลดออกจากตำแหน่งเหมือน
ผู้จัดการทีมคนก่อนๆ แมนยูไนเต็ด จะต้องเลือกกุนซือแบบไหนมาเสียบแทน ???
เท่าที่เห็นกุนซือระดับอ๋องที่นิยมใช้ 'หลังสาม' ก็มีแค่ ชาบี อลอนโซ่, ซิโมเน่ อินซากี้ และ อันโตนิ คอนเต้
หากเป็นคนอื่นก็เท่ากับว่าปีศาจแดงต้องกลับมาเริ่มใหม่กับสูตร 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 อีกเหรอ ???
คิดแล้วก็เครียดจนความดันขึ้น ขออนุญาตไปแดกยาระงับประสาทตราลิงนั่งชักวาวยิกๆๆๆ ก่อนนะครับ