จากเชลซีเมื่อสัปดาห์ก่อน มาคราวนี้เป็นทีของลิเวอร์พูลบ้าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้แพ้ เชลซีเสมอ มีเพียงอาร์เซน่อลเท่านั้นที่ชนะ เท่ากับลิเวอร์พูลได้กำไรเน้น ๆ คืนมาบ้างจากทีมสิงโตน้ำเงินคราม
จาก 2 คะแนนที่ถูกไล่มาก็กลับไปเป็น 4 คะแนน พร้อมเกมตกค้างในมืออีกนัด
เส้นทางยังอีกยาวไกลครับ นี่ยังไม่ถึงคริสต์มาสเลย แต่ยังไม่ถึงคริสต์มาสเลยนี่แหละที่ทำให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาอีกเรื่อง
ซาลาห์เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่แตะเลข 2 หลักทั้งยิงประตู (15 ลูก) และแอสซิสต์ (11 ลูก) ได้ตั้งแต่ยังไม่ถึงวันคริสต์มาส เขายังทำมันได้เป็นครั้งที่ 6 แซงหน้า เวย์น รูนี่ย์ และทำมันได้เป็นฤดูกาลที่ 4 ติดต่อกันอีกต่างหาก
ซาลาห์ยังคงเป็นหัวใจของลิเวอร์พูล ฤดูกาลนี้ผลงานของเขายังสม่ำเสมอ มีส่วนร่วมกับประตูแทบทุกเกม
16 นัดในลีก มีส่วนร่วมโดยตรง 26 ประตู (ยิง 15 จ่าย 11) จาก 37 ประตูที่ทีมยิงได้
25 เกมในทุกรายการ มีส่วนร่วมโดยตรง 33 ประตู (ยิง 18 จ่าย 15) จาก 60 ประตูที่ทีมยิงได้ แต่ถ้าตัดเกมลีก คัพ ที่ถูกใช้งานเป็นตัวสำรองแค่ 2 นัดและยิงได้ 1 ประตูออกไป ซาลาห์มีส่วนร่วมโดยตรง 32 ประตูจาก 50 ประตูของทีมในพรีเมียร์ลีกกับยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
กับเกมที่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม เมื่อคืนที่ผ่านมา ซาลาห์ยิง 2 จ่ายอีก 2..
มันกลายเป็นเกมที่ห่างกันเกินคาด ไม่เพียงผลการแข่งขันที่ออกมาแต่ยังเป็นรูปเกมด้วยที่ปกติ สเปอร์ส จะสร้างอันตรายได้มากกว่านี้ เล่นได้น่ากลัวกว่านี้
ลิเวอร์พูลเอาชนะสเปอร์สได้แทบจะในทุกจังหวะ บอลแรกชนะ บอลสองเก็บได้ บีบกดดันแย่งบอลได้ อ่านจังหวะตัดบอลแล้วโจมตีเร็วได้ ทุกครั้งที่ได้บุกใส่สเปอร์ส ดูเหมือนทางจะโล่งไปสู่การได้จบสกอร์อยู่ตลอด
สเปอร์สมีความไม่แน่นอนเรื่องเกมรับเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยังขาดผู้เล่นตัวหลักในเกมรับไปอีกหลายคน อย่างน้อย ๆ ก็ตำแหน่งที่เป็นหัวใจอย่างนายประตูและคู่เซนเตอร์แบ๊ก เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ที่เฝ้าเสาแทน กูเยลโม่ วิคาริโอ ไม่มั่นใจยามใช้เท้าออกบอล
เกมนี้แค่สองนาทีกว่า ๆ ก็ส่งบอลให้ซาลาห์หน้าเขตโทษตัวเองดื้อ ๆ ยังโชคดีที่ลิเวอร์พูลเปลี่ยนมันเป็นประตูไม่ได้
แนวรับคนอื่น ๆ ก็เช่นกัน การตัดสินใจทิ้งตำแหน่งของ ราดู ดรากูซิน เพื่อไปแย่งโหม่งบอลกับ โดมินิก โซโบซไล ตรงกลางสนามโดยที่ตัวเองเสียเปรียบทั้งจังหวะบอลและตำแหน่งกลายเป็นหายนะ มันนำมาซึ่งประตูที่ 3-1 ของลิเวอร์พูลในช่วงที่สเปอร์สควรจะจบครึ่งแรกด้วยการตามหลังเพียง 1-2
พื้นที่กลางสนามของ สเปอร์ส ก็ยังเป็นรองตลอดทั้งเกม ป๊าป ซาร์ กับ อีฟส์ บิสซูม่า พยายามทำงานหนักแต่ก็ไม่เจอบอลด้วยลิเวอร์พูลไม่เพียงมี อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ที่แข็งแกร่งและเชิงสูงทั้งคู่ แต่ยังมี โซโบซไล ที่ยังคงวิ่งขึ้น-ลงราวกับมนุษย์ปอดเหล็กมาช่วยเพิ่มกำลังคนอีกราย
และที่เป็นอาวุธหนักฆ่าสเปอร์สโดยแท้ในเกมนี้คือเกมรุก
ผู้เล่นเกมรุกของหงส์แดงเปี่ยมด้วยสีสันและชีวิตชีวา ต่อบอลเข้าทำเองก็ไหลลื่น เล่นโต้กลับก็ฉาบฉวยแม่นยำรวดเร็ว เล่นกับพื้นที่ว่างทั้งหลายของทีมไก่เดือยทองอย่างเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย และเป็นธรรมชาติ
สิ่งที่ผมชอบมากในเกมบุกของลิเวอร์พูลคือไทม์มิ่งของแต่ละคนที่เมื่อประกอบเป็นภาพรวมแล้วคือบอลที่ถูกจังหวะอย่างยิ่ง การเข้าทำอย่างมีประสิทธิภาพไม่จำเป็นต้องปล่อยบอลเร็วเสมอไป กุญแจของมันคือการปล่อยบอลให้ถูกจังหวะต่างหาก
บางครั้งดึงบอลไว้กับตัวอีกนิด ขยับตัวปล่อยบอลไหลอีกหน่อย คู่แข่งเสียจังหวะ ขาตายเพราะคิดว่าจะส่งบอลตั้งแต่ทีแรก กลายเป็นเปิดพื้นที่โจมตีได้มากกว่า
เกมรุกของลิเวอร์พูล "เล่น" กับการตัดสินใจยามตั้งรับของคู่แข่งได้ดีขึ้น ยังคงทำเร็วฉึบฉับเหมือนเดิมได้ดี แต่เพิ่มความเยือกเย็นในการเลือกจังหวะเล่นมากขึ้น นี่คือสิ่งที่ผมสังเกตเห็นในฤดูกาลนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เกมนี้
นักเตะเกมรุกทุกคนได้ปล่อยของ นอกจาก ซาลาห์ แล้ว โซโบซไล ก็มีเกมที่โดดเด่นมาก วิ่งขึ้นลงไม่มีหมด เชื่อมเกมไหลลื่นไม่ติดขัด สร้างสรรค์เกมให้ทีม มีส่วนร่วมแทบจะทุกการเล่นเกมบุกด้วยตำแหน่งที่ยืนคือเบอร์ 10
ยามเพรสกดดันแดนบน โซโบขึ้นไปเป็นกองหน้าอีกตัวร่วมกับ หลุยส์ ดิอาซ แล้ววิ่งกลับลงมารับบอลทำเกม แทบไม่มีจังหวะติดขัด ส่งบอลน้ำหนักขาดหรือเกินเลย
ลิเวอร์พูลใส่ความเข้มข้นตั้งแต่เริ่มเกม บีบแดนบน อ่านจังหวะแย่งบอล ชนะในการดวลกันตลอดไม่ว่าจะเกมรุกหรือรับ แค่ 20 นาทีแรกเฉพาะ ซาลาห์ คนเดียวได้โอกาสสับไกยิงไป 5 ครั้งแล้ว มีคานช่วยไว้หนึ่งลูกด้วย
คู่เซนเตอร์แบ๊กของลิเวอร์พูลระวังตัวดี ไม่เสี่ยงวัดกับความเร็วของเจ้าถิ่น ไม่เปิดพื้นที่ด้านหลังให้ต้องอยู่ในสถานการณ์วิ่งไล่กวดไปกับกองหน้า แต่ขณะเดียวกันนักเตะเกมรุกของสเปอร์สเองนอกจาก ซน ฮึง-มิน ก็ไม่มีใครเป็นตัวเลือกให้ทิ้งบอลข้ามแนวให้ด้วยทั้ง โดมินิก โซลันกี้, เจมส์ แม้ดดิสัน และ เดยัน คูลูเซฟสกี้
ลิเวอร์พูลยังดูดีมากในรายละเอียดของการเล่น ประตูขึ้นนำ 1-0 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ บอกกับเราอย่างนั้น
เขาเงยหน้ามองเพื่อนที่อยู่ในเขตโทษตั้งแต่ก่อนรับบอล คิดอ่านสถานการณ์ไว้เรียบร้อย เมื่อบอลไหลมาถึงตัวทุกอย่างจึงเป็นอัตโนมัติ แตะบอล แล้วเปิดไปยัง หลุยส์ ดิอาซ ที่เป็นเป้าหมายทันที
ไม่ใช่จับบอลก่อนแล้วค่อยมอง แล้วค่อยคิด แล้วถึงจะเปิดบอล
การควบคุมเกมของลิเวอร์พูลอยู่ในระดับสูง พวกเขาคุมสถานการณ์ได้ทั้งยามตั้งรับและครองบอล เร็วได้ ช้าได้ ถ้าผู้เล่นสเปอร์สไม่ขึ้นมาไล่ก็ครองบอลไว้กับตัวก่อน ค่อย ๆ ผ่านบอลหาช่องเข้าทำ และการที่คุณมีตัวรุก 4 คนรวมทั้งคนอื่น ๆ ที่พร้อมทะลุขึ้นไปสนับสนุน เคลื่อนที่ให้เห็นเป็นทางเลือกอยู่ตลอด มันก็ไม่ยากนักที่จะเห็นช่องให้โจมตี
ลิเวอร์พูลใช้พื้นที่บุกได้เต็มสนาม ไม่หนักไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ประตูแรกมาจากการเปิดทางขวา ประตูที่สองมาจากการตักบอลทางซ้ายของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่ โซโบซไล ได้โหม่งตั้งแล้วเป็น แม็ค อัลลิเตอร์ พุ่งเข้าโหม่งตัดหน้าฟอร์สเตอร์ตุงตาข่าย
ประตู 1-2 ที่สเปอร์สไล่มาในนาทีที่ 41 น่าจะเป็นเรื่องน่าขัดใจเล็กน้อยสำหรับ อาร์เน่อ สล็อต เพราะ 40 นาทีก่อนหน้านั้นไม่มีวี่แววที่ทีมจะเสียประตูเลย แม็ค อัลลิสเตอร์ วัดใจเสียงนกหวีดเกินไปเลือกทิ้งตัวเอาฟาวล์มากกว่าเล่นบอล จึงถูก แม้ดดิสัน ลงโทษ
มันควรจะเป็นประตูที่ปลุก สเปอร์ส กลับมาได้ แต่จังหวะที่ เทรนต์ เตะจุดพลุสวนการบีบเข้าใส่และ โซโบซไล โหม่งชนะ ดรากูซิน ตรงกลางสนามทำให้ลิเวอร์พูลได้บุกในสถานการณ์ 4 ต่อ 2 ก่อนไปจบด้วยประตูของโซโบที่ ซาลาห์ ไหลหักข้อให้อย่างเหนือชั้น
ประตูนี้ฆ่าความฮึกเหิมถ้าพอจะเรียกกลับมาได้บ้างของสเปอร์ส เพราะมันเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาของครึ่งแรก จากที่ตามหลังเหลือประตูเดียวก็กลายเป็นห่าง 2 ประตูเหมือนเดิม
4 ประสาน ดิอาซ-คักโป-โซโบ-ซาลาห์ ยังคงกระชุ่มกระชวย ประตูที่ 4 กับ 5 ทั้งสี่คนมีส่วนร่วมกับมันทั้งหมด ประตู 4-1 ตัดบอลได้แล้วโต้ คักโปให้ดิอาซแล้ววิ่งเติมไปรับก่อนตวัดเข้ากลาง โซโบยิงติด ซาลาห์ซ้ำ ขณะที่ประตู 5-1 ดิอาซดึงจังหวะจ่ายขึ้นหน้าให้คักโป ผ่านเข้ากลางให้โซโบแตะทะลุเข้าเขตโทษแล้วไหลให้ซาลาห์ยิงนิ่ม ๆ
อย่างที่ สล็อต ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมนั่นล่ะครับ เมื่อทีมของคุณนำ 5-1 และควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้ บางทีมันนำมาซึ่งความหย่อนยานโดยไม่ตั้งใจ ประตู 5-2 เปิดโอกาสให้ คูลูเซฟสกี้ กับ โซลันกี้ เล่นง่ายเกินไปถ้าเทียบกับการจัดการได้อยู่หมัดก่อนหน้านั้น แม้ว่าสุดท้ายต้องชมการเข้าทำของทั้ง 2 คนด้วยก็ตาม
หลังเสียประตู 5-2 ลิเวอร์พูลยังมีโอกาสทำประตูที่ 6 อีก 2-3 ครั้ง ดิอาซได้หลุดเดี่ยวงัดข้ามหัวฟอร์สเตอร์ไปตกบนเพดานตาข่าย โซโบซไลได้โหม่งลูกเปิดของเทรนต์หลุดกรอบไป ก่อนที่ โรเบิร์ตสัน จะพลาดคุมหลวมทำให้ เบรนแนน จอห์นสัน ตัวสำรองได้โหม่งตั้งง่าย ๆ ให้โซลันกี้ล้มตัวยิงเป็น 5-3
แฟนบอลอาจจะรู้สึกหวาดเสียวขึ้นมาบ้างแต่นักเตะลิเวอร์พูลกลับมาเน้นและมีสมาธิเต็มที่อีกครั้ง ประตูฝัง 6-3 ได้มาในแบบเรียบง่ายไม่ซับซ้อน เคาะบอลเล่นลิงหนีการไล่แย่งหน้าเขตโทษของเจ้าถิ่นก่อนที่ ฟาน ไดค์ จะตักให้ดิอาซหลุดโล่งขึ้นไปทางซ้าย
ดิอาซฝากบอลให้โชต้าแล้วตัวเองวิ่งตีรถเปล่าอ้อมย้ายฝั่งไปทางขวา โชต้าไหลเข้ากลางให้โซโบซไลที่จ่ายต่อไปถึงซาลาห์ ก่อนที่ซาลาห์จะแทงเข้าเขตโทษให้ดิอาซสับไกยิงเสียบเสาไกล
สดชื่น กระฉับกระเฉง มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยการสร้างสรรค์ นี่คือวันที่เกมบุกของลิเวอร์พูลท็อปฟอร์มจริง ๆ
มันน่าจะจบอย่างสมบูรณ์แบบมากกว่านี้ถ้าจังหวะจ่ายไซด์ก้อยของ โซโบซไล ในช่วงทดเวลาหลุดไปถึง ดาร์วิน นูนเญซ แล้วหัวหอกอุรุกวัยทำประตูได้
จังหวะนั้นโซโบตั้งใจปั้นเพื่อนเต็มที่ แฟนบอลเคยวิจารณ์เขาว่าไม่ค่อยยอมส่งบอลให้ดาร์วิน ฉะนั้นถ้ามันเป็นประตูก็จะเป็นการตอบคำถามทั้งหมดได้ดี มีแต่ได้กับได้และเป็นการยืนยันถึงสปิริตอันเหนียวแน่นในทีม
ลิเวอร์พูลกลับมาได้จากการสะดุดแบบคาใจมา 2 เกมติดต่อกัน เกมเสมอนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ควีวิน เคลเลเฮอร์ พลาดทีเดียวแต้มหายไป 2 คะแนน เกมเสมอฟูแล่มก็ต้องเล่น 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 17
ทีมหงส์แดงตอบสนองความกังวลและสถานการณ์ที่บีบคั้นด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในเกมนี้ และมันยิ่งเป็นความชื่นใจสองแรงบวกเมื่อเชลซีที่ชนะมา 5 นัดรวดสะดุดบ้างแล้ว
ลิเวอร์พูลยึดตำแหน่งจ่าฝูงของลีกในวันคริสต์มาส สถิติตลอด 32 ฤดูกาลพรีเมียร์ลีกที่ผ่านมาบอกว่าโอกาสเป็นแชมป์ของพวกเขาคือ 50% ยืนพื้น
หากกูรูหลายคนมองไกลไปกว่านั้น บริษัทรับพนันถูกกฎหมายทั้งหลายพร้อมใจกันหั่นราคาแชมป์ของทีมหงส์แดงลงมาอีก
เวลานี้คุณต้องเอา 2 บาทไปแลกบาทเดียวแล้ว ขณะที่เชลซีหล่นไปเป็นเต็งสามที่อัตราจ่าย 6 ต่อ อาร์เซน่อลเต็งสองจ่าย 3 ต่อ แมนฯ ซิตี้หลุดไปไกลจ่าย 33 ต่อ
แต่ อาร์เน่อ สล็อต และลูกทีมของเขาคงไม่สนใจหรอกครับ ก้มหน้าก้มตาทำงานไปเกมต่อเกม ทำให้ดีที่สุด รักษาสมาธิให้แน่วแน่ที่สุด
มีเวลาดื่มด่ำกับผลงานได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวพฤหัสฯ นี้เกมบ๊อกซิ่งเดย์ก็มาแล้ว..
ตังกุย