มีเพียง 2 ทีมเท่านั้นที่มีโอกาสเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในวันคริสต์มาสปีนี้ ไม่ เชลซี ก็ ลิเวอร์พูล..
เชลซีจะแซงลิเวอร์พูลขึ้นนำเป็นจ่าฝูงถ้าเอาชนะเอฟเวอร์ตันได้ที่กูดิสัน พาร์ค (เตะ 21.00 น. คืนนี้) ส่วนจะอยู่ตรงนั้นในวันคริสต์มาส 25 ธันวาคมไหมขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันของทีมหงส์แดงที่จะลงสนามไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น (เยือน สเปอร์ส 23.30 น.)
ตำแหน่งในวันคริสต์มาสไม่ได้บอกอะไรเรามากนัก ยิ่งไม่ได้เป็นหลักประกันหรือการการันตีว่าฤดูกาลจะดำเนินไปอย่างนั้น ด้วยแต่ละทีมยังเตะกันไปไม่ถึงครึ่งทางด้วยซ้ำ โดยปกติจุดครึ่งทางของซีซั่น 19 นัดมักจะเป็นเกมสุดท้ายของปี
หลังคริสต์มาส 1 วันยังเป็นโปรแกรมเตะบ๊อกซิ่งเดย์ที่ผลการแข่งขันมักจะมีเกมพลิกผันให้ตื่นเต้นกันทุก ๆ ปีด้วย
ว่ากันถึงตำแหน่งจ่าฝูงวันคริสต์มาส หลาย ๆ ลีกอาจจะมีสถิติที่น่าพอใจสำหรับทีมนำว่าสุดท้ายมักจะไม่พลาดแชมป์ในบั้นปลาย มันอาจอยู่ในระดับ 60-70 เปอร์เซนต์ หรือไปถึง 80 เปอร์เซนต์ในบางลีก
แต่ไม่ใช่กับพรีเมียร์ลีก..
ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันนับตั้งแต่ฤดูกาลแรก 1992/93 ที่เปลี่ยนชื่อจากดิวิชั่นหนึ่งเดิมมาเป็นพรีเมียร์ลีก อัตราส่วนระหว่างจ่าฝูงวันคริสต์มาสก้าวต่อไปเป็นแชมป์ลีก กับสะดุดไม่ได้เป็นแชมป์ลีกนั้นอยู่ในระดับ.. เท่ากัน
50-50
เป็นสถิติที่น่าแปลกใจ แต่ก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ
32 ฤดูกาลที่ผ่านมานับตั้งแต่ 1992/93 ถึง 2023/24 จ่าฝูงวันคริสต์มาสก้าวต่อไปเป็นแชมป์ในบั้นปลาย 16 ครั้ง และพลาดแชมป์.. 16 ครั้ง
อาร์เซน่อลใน 2 ซีซั่นหลังสุดเป็นอย่างนั้น ทีมปืนใหญ่นำเป็นจ่าฝูงในวันที่ 25 ธันวาคมแต่สุดท้ายถูกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงคว้าแชมป์ทั้ง 2 หน
ทีมเรือใบสีฟ้ายังทำอย่างนั้นกับลิเวอร์พูลด้วยในฤดูกาล 2020/21 จุดเริ่มต้นของการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 4 ปีซ้อนเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนังอังกฤษ
5 ฤดูกาลติดต่อกันระหว่างซีซั่น 1995/96 ถึง 1999/2000 คือช่วงเวลายาวนานที่สุดที่จ่าฝูงวันคริสต์มาสลงเอยด้วยความผิดหวัง
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1995/96, ลิเวอร์พูล 1996/97, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1997/98, แอสตัน วิลล่า 1998/99 และ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1999/2000 เรียงคิวชอกช้ำกันแบบไม่ซ้ำหน้า
ทีมสิงห์ผงาดของ จอห์น เกรกอรี่ 1998/99 หนักกว่าเพื่อนเพราะจนถึงวันนี้พวกเขายังเป็นจ่าฝูงวันคริสต์มาสที่อันดับรูดไปไกลที่สุดในจำนวน 32 ฤดูกาลพรีเมียร์ลีกเมื่อไปจบซีซั่นด้วยอันดับ 6
<สถิติ สถิติ สถิติ>
บทสรุปของจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในวันคริสต์มาส (32 ฤดูกาล)
-จบด้วยการเป็นแชมป์ 16 ครั้ง (แมนฯ ยูไนเต็ด 5 ครั้ง เชลซี 5 ครั้ง แมนฯ ซิตี้ 3 ครั้ง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, เลสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ทีมละ 1 ครั้ง - ครั้งล่าสุดฤดูกาล 2021/22 แมนฯ ซิตี้)
-จบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ 8 ครั้ง (ลิเวอร์พูล 3 ครั้ง อาร์เซน่อล 3 ครั้ง นิวคาสเซิ่ล 1 ครั้ง และ แมนฯ ยูไนเต็ด 1 ครั้ง - ครั้งล่าสุดฤดูกาล 2023/24 อาร์เซน่อล)
-จบด้วยอันดับสาม 5 ครั้ง (นอริช ซิตี้, ลีดส์ ยูไนเต็ด, แมนฯ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ทีมละ 1 ครั้ง - ครั้งล่าสุดฤดูกาล 2020/21 ลิเวอร์พูล)
-จบด้วยอันดับสี่ 2 ครั้ง (ลิเวอร์พูล 1996/97 กับ นิวคาสเซิ่ล 2001/02)
-จบด้วยอันดับห้า 0 ครั้ง
-จบด้วยอันดับหก 1 ครั้ง (แอสตัน วิลล่า 1998/99)
-------------
ในทางกลับกัน มันย่อมหมายความว่าทีมที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงของตารางในวันคริสต์มาสสามารถเบียดแทรกขึ้นมาคว้าแชมป์ได้ในจำนวนถึงครึ่งหนึ่งของทั้งหมด
16 จาก 32 ครั้ง แชมป์ลีกมาโดยการแซงจากตำแหน่งที่เป็นรองในวันคริสต์มาส
บางครั้งตามหลังไม่มาก บางครั้งอยู่ห่างพอสมควร หรือบางคราก็ถูกทิ้งไกลลิบชนิดใช้คำว่าไม่เห็นฝุ่น.. แต่ก็ยังกลับมาได้
วีรกรรมที่น่าเหลือเชื่อที่สุดคือการไล่ล่าของอาร์เซน่อลเมื่อฤดูกาล 1997/98
ทีมปืนใหญ่ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง 13 คะแนนก่อนเตะบ๊อกซิ่งเดย์ (26 ธันวาคม) อยู่ในอันดับ 6 ของตาราง แต่สุดท้ายไล่กวดแซงทุกทีมที่ขวางหน้าเรียบวุธจนคว้าแชมป์
แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็เคยถูก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทิ้งห่างถึง 10 แต้มในวันคริสต์มาสฤดูกาล 1995/96 ทั้ง ๆ ที่เป็นรองจ่าฝูงด้วยซ้ำ แต่ทีมสาลิกาดงของ เควิน คีแกน สะดุดขาตัวเองหลายครั้งเมื่อเข้าสู่ปีใหม่ สุดท้ายทีมปีศาจแดงทะยานแซงเข้าป้ายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 3 ใน 4 ฤดูกาล
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2020/21 คือทีมที่ตามหลังด้วยอันดับต่ำที่สุดในบรรดาทีมที่แซงขึ้นมาเป็นแชมป์ได้
ทีมเรือใบสีฟ้าจมอยู่อันดับ 8 ของตาราง สะดุดไปถึง 7 จาก 16 เกมแรก (เสมอ 5 แพ้ 2 เพียงแค่นัดที่สองของฤดูกาลก็ถูก เลสเตอร์ ซิตี้ บุกถล่มยับคาบ้าน 2-5 แล้ว) มีคะแนนตามหลังลิเวอร์พูลแชมป์เก่าและจ่าฝูงถึง 8 แต้ม
แต่สุดท้ายฤดูกาลนั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาซิตี้เป็นแชมป์ด้วยการทิ้ง แมนฯ ยูไนเต็ด รองแชมป์ 12 คะแนน ทิ้งลิเวอร์พูล 17 คะแนน
ส่วนฤดูกาลที่เข้มข้นที่สุดมีอยู่ 3 ครั้งที่ช่องว่างห่างกันแค่คะแนนเดียว
-อาร์เซน่อลแชมป์ฤดูกาลไร้พ่าย 2003/04 ตามยูไนเต็ด 1 แต้มในวันคริสต์มาส
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแชมป์ฤดูกาล 2007/08 ตามหลังอาร์เซน่อล 1 แต้มในวันคริสต์มาส
-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาล 2013/14 ตามหลังลิเวอร์พูล 1 คะแนนในวันคริสต์มาส ทั้งยังอยู่อันดับ 3 รองจากอาร์เซน่อล..
ซีซั่น 2013/14 นั้น ซิตี้ของ มานูเอล เปเยกรินี่ อยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงรวมกันแค่ 14 วันคือหลังจบเกมที่ 1 หลังจบเกมที่ 37 และหลังจบเกมสุดท้ายของฤดูกาลนัดที่ 38 แต่เพียงเท่านั้นก็เพียงพอต่อการคว้าแชมป์
<สถิติ สถิติ สถิติ>
ระยะห่างจากผู้นำของทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ไม่ได้เป็นจ่าฝูงในวันคริสต์มาส (16 จาก 32 ฤดูกาล)
-ไล่ตามจากอันดับสอง 7 ครั้ง (แมนฯ ยูไนเต็ด 3 ครั้ง อาร์เซน่อล 2 ครั้ง แมนฯ ซิตี้ 2 ครั้ง - ครั้งล่าสุดฤดูกาล 2022/23 แมนฯ ซิตี้)
-ไล่ตามจากอันดับสาม 3 ครั้ง (แมนฯ ยูไนเต็ด 1998/99, 2002/03 และ แมนฯ ซิตี้ 2013/14)
-ไล่ตามจากอันดับสี่ 3 ครั้ง (แมนฯ ยูไนเต็ด 1992/93, 2008/09 และ แมนฯ ซิตี้ 2023/24)
-ไล่ตามจากอันดับห้า 1 ครั้ง (แมนฯ ยูไนเต็ด 1996/97)
-ไล่ตามจากอันดับหก 1 ครั้ง (อาร์เซน่อล 1997/98)
-ไล่ตามจากอันดับเจ็ด 0 ครั้ง
-ไล่ตามจากอันดับแปด 1 ครั้ง (แมนฯ ซิตี้ 2020/21)
-------------
ประวัติเก่า ๆ ที่ผ่านมาบอกกับเราว่า สิ่งที่เป็นไปในช่วงเทศกาลแห่งความสุขวันคริสต์มาสนั้นไม่ได้ยืนยันอะไรกับเราเลย
คุณนำเป็นจ่าฝูงก็ใช่ว่าจะวางใจได้ เช่นเดียวกันหากคุณไม่ใช่จ่าฝูง ก็อย่าเพิ่งทิ้งความหวัง
กระนั้นถ้ามองให้ละเอียดมากขึ้นอีกนิด เราจะพบอัตราส่วนที่น่าสนใจยิ่งขึ้น
จ่าฝูงวันคริสต์มาสได้แชมป์ 16 จาก 32 ครั้ง คิดเป็น 50%
รองจ่าฝูงวันคริสต์มาสได้แชมป์ 7 จาก 32 ครั้ง คิดเป็น 21.87%
อันดับสามวันคริสต์มาสได้แชมป์ 3 จาก 32 ครั้ง คิดเป็น 9.37%
อันดับสี่วันคริสต์มาสได้แชมป์ 3 จาก 32 ครั้ง คิดเป็น 9.37%
นั่นหมายความว่าแชมป์ตกจะอยู่ในมือของ 2 อันดับแรกในวันคริสต์มาสถึง 71.87% เกือบ ๆ 3 ใน 4
มองยืดไปอีกเป็น Top 3 หรืออันดับ 1-3 แชมป์จะตกอยู่ในมือทีมกลุ่มนี้ 81.2% หรือ 4 ใน 5
และถ้าเป็นกลุ่ม Top 4 ในวันคริสต์มาส อัตราส่วนจะเพิ่มเป็น 90.57% หรือ 9 ใน 10
29 จาก 32 ครั้งที่แชมป์พรีเมียร์ลีกจะตกเป็นของทีมอันดับ 1-4 ของตารางในวันคริสต์มาส และแค่ 3 หนเท่านั้นที่หลุดไปอยู่ในมือทีมนอก 4 อันดับแรก (อันดับ 5, 6 และ 😎
จ่าฝูงวันคริสต์มาสปีนี้จะเป็นใครระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เชลซี นั้นเรื่องหนึ่งนะครับ ใครเป็นจ่าฝูงก็มีโอกาสเป็นแชมป์ 50 เปอร์เซนต์ตามสถิติ
แต่ที่แน่ ๆ เส้นทางยังอีกยาวไกลเกินครึ่งทาง โอกาสอีกครึ่งหนึ่งยังเปิดให้กับทีมที่ไม่ได้เป็นจ่าฝูงในวันที่ 25 ธันวาคม
โดยเฉพาะกับทีมที่ตามมาในอันดับ 2, 3 และ 4 ทุกอย่างยังเป็นไปได้ทั้งนั้น..
ตังกุย