"Oh Ruben Almorim..."เสียงกู่ก้องก่อนเกมจากแฟนผีหลายพันชีวิต เข้าใจว่าความปิติจากชัยชนะล่าสุดเหนือเพื่อนร่วมเมืองสีฟ้ายังคงไม่หนีไปไหน
ก็อย่างที่ อังก์ ปอสเตโคกลู ได้เปิดรอยยิ้มมุมปากให้สัมภาษณ์เอาไว้หลังแมตช์ "พวกคุณไม่สนุกกันหรอ? ผมเชื่อว่าในสตูดิโอคงมีคนวิจารณ์ถึงแท็กติกของผมอีกตามเคย"
เกมบ้าๆอีกเกม จากสกอร์ 3-0 ที่ สเปอร์ส ยิงนำขาดตั้งแต่ต้นครึ่งหลังโดยตอนนั้นก็เหมือนว่าน่าจะประคองเกมให้จบแบบไม่ยากแต่ความผิดพลาดสองครั้งของ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ นายประตูมือสองก็ทำให้โมเมนตัมเหวี่ยงไปอีกฝ่าย
จาก 3-0 ในนาที 54 ก็กลายเป็น 3-2 ในอีก 15 นาทีต่อมา แน่นอนว่าใครก็ตามที่เรียกตนว่า 'ยิด' ก็ย่อมนั่งก้นไม่ติดเบาะ ภาพในอดีตต้องผุดมาหลอกหลอน มันจะเกิดกับทีมเราอีกแล้วใช่หรือเปล่า
ฟุตบอลก็แค่นี้ครับ
บ่อยครั้งตัดสินกันที่ความผิดพลาด มันใช่ว่าทีมที่เล่นดีกว่าต้องชนะเสมอไป
โชคดีของทาง สเปอร์ส ที่มาได้ประตูที่สี่จากลูกเตะมุมที่ก็ไม่น่าจะมีอะไรมากกว่าเปิดเข้าไปกลางประตู ทว่ากลายว่า ซน ฮึง มิน เปิดมุดเสียบตาข่ายเข้าไปเลยซะงั้น
สกอร์ที่จบ 4-3 กับสโมสรที่มีฉายาว่า 'ไก่เดือยทอง' โดยเฉพาะภายใต้ปอสเตโคกลูดูจะปกติเหลือเกิน โค้ชคนนี้นิยมเสนอความเอนเตอร์เทน ยิงได้แล้วก็ต้องการได้เพิ่มหรือต่อให้เสียไปแล้วก็เสียไป ตำราเดียวของทีมก็คือบุก บุกและบุก
มองไปอีกด้าน ภาพที่พบบ่อยสุดก็เป็นการออกมานั่งยองๆ ตรงริมเส้นสีขาวของ รูเบน อโมริม มีเรื่องติดตลกว่าแค่ไม่กี่เกมที่เขาเข้ามาคุม แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะลุกออกมาจากซุ้มมากกว่าตลอดเวลา 4 ปีกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซะอีก
8 เกมแล้วครับกับยุคใหม่ที่ปวง เร้ด อาร์มี่ส์ ตั้งความหวังไว้ว่า 'ต้องดีกว่าเก่า'
มันมีทั้งดีทั้งแย่ปะปนในนั้น เราเห็นความเปลี่ยนแปลงจากทีมชุดนี้ เริ่มจากระบบการเล่นไปจนถึงการดร็อปสองสตาร์อย่างมาร์คัส แรชฟอร์ด และ อเลฮานโดร การ์นาโช่
เมื่อคืนพฤหัสฯก็น่าสนใจว่าถ้าจัดทีมชุดใหญ่ลงเต็มสูบ ผลลัพธ์จะออกมาเช่นนี้ไหม? ยกตัวอย่างก็พอส่ง อาหมัด ดิอัลโล่ ลงมาแทนอันโตนี่ก็ทำให้เกมรุกทีมดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันที มีตัววิ่ง มีตัวที่แสดงถึงแพสชั่นในการสวมเครื่องแบบโลโก้อสูร มีตัวที่ทำให้บอลจู่โจมเข้าทำเร็ว
ครับ เราก็คงพอพูดได้ว่าจากการจัดทีมแล้วทาง สเปอร์ส ต้องการโทรฟี่มากกว่า แมนฯยูไนเต็ด...
"มันคือฟุตบอล เราอาจไม่ใช่ทีมดีสุดตลอดทั้งเกมแต่ผมคิดว่าส่วนใหญ่ของเกมแล้วเราทำกันได้ดี ยกเว้นก็แค่ช่วงต้นของครึ่งหลัง(ที่ทีมเสียสองลูก)" อโมริมกล่าวไว้
ผมเองก็มองอย่างนั้นครับ ดูจากสถิติที่สะท้อนออกมาก็ได้ค่า xG นั้นทางตราไก่ 0.67 ส่วนปีศาจแดงนั้น 2.56
ความต่างก็ตรงดีเอ็นเอของ สเปอร์ส ทีมนี้มันชัดเจนนับแต่ ปอสเตโคกลูเข้ามา นี่คือปีที่สองแล้ว ขณะที่ อโมริม นั้นเพิ่งได้มารับงานแค่เดือนเศษ
จากกิริยา แววตาและสีหน้าก็รับรู้ได้ว่าโค้ชวัย 39 ชาวโปรตุกีสคงไม่คิดว่างานชิ้นนี้จะสาหัสเท่านี้ หากมันเป็นเช่นนั้น
โค้ชทุกคนต้องการเวลา
ยิ่งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยแล้วที่มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ส่วนบนลงมา อย่างน้อยในรอบแปดทีม คาราบาว คัพ ก็ได้เห็นว่าต่อให้โดนไปสามลูกก็ยังไม่ถอดใจซึ่งมันก็เหมือนกับใน แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่แซงกลับมากำชัย 2-1ตอนท้ายเกมได้
ใจสู้ซะอย่าง อะไรก็เป็นไปได้
สำคัญที่สุด-ฟุตบอลเปลี่ยนแปลงเร็วเสมอ
"ไก่ป่า".....