อาร์เซน่อล กลับมาโชว์ฟอร์มโหดอย่างต่อเนื่องล่าสุดเปิดบ้านไล่ทุบ แมนยู สบายเกือก 2-0 จากสองประตูในครึ่งหลัง คว้า 3 คะแนนสำคัญ ตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูงเหลือ 7 แต้ม
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 14 เมื่อวันพุธที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ระหว่าง อาร์เซน่อล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม โดยทั้งสองทีมต้องการชัยชนะอย่างมากเพื่อขยับอันดับในตารางลีก
เริ่มต้นเกม อาร์เซน่อล ค่อยข้างดูดีกว่ามีจังหวะบุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถสร้างความอันตรายได้มากนัก โดยจังหวะหวาดเสียวที่สุดเกิดขึ้นจากลูกเตะมุมในนาทีที่ 7 และ ปาร์เตย์ ได้โหม่งแต่สะบัดออกเสาไปนิดเดียว
ทั้งสองทีมเล่นกันค่อนข้างรัดกุม โดย อาร์เซน่อล ได้ครองบอลเยอะกว่า แต่ก็ไม่มีจังหวะอันตรายได้แค่วูบวามไปมาแถวหน้าประตู ส่วน "ปีศาจแดง" รอตัดบอลและสวนกลับแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จบครึ่งแรกเสมอกันแบบไร้สกอร์
ครึ่งแรก อาร์เซน่อล 0-0 แมนยู
เกมผ่านเข้าสู่นาทีที่ 54 เดแคลน ไรซ์ ได้โอกาสเปิดมุมเข้ามาที่เสาแรง ทิมเบอร์ โหม่งเช็ดเบาๆ บอลลอยเข้าไปซุกก้นตาข่ายทำให้ อาร์เซน่อล มีสกอร์ขึ้นนำไปก่อน 1-0
แมนยู ได้ฟรีคิกบริเวณกรอบเขตโทษด้านขวา กัปตันบรูโน่ เปิดบอลไปที่เสาไกล เดอ ลิกต์ ขึ้นโขกเต็มศีรษะบอลพุ่งอย่างแรง แต่ ดาบิด ราย่า โชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดออกไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
อาร์เซน่อล ได้ประตูขึ้นนำ 2-0 ในนาทีที่ 73 จากจังหวะเตะมุม ซาก้า เปิดบอลไปที่เสาสอง ปาร์เตย์ โหม่งเข้ามาและบอลไปโดนสะโพก ซาลีบา เข้าประตูไปอย่างง่ายดาย
ช่วงเวลาที่เหลือเกมยังคงเป็นของ อาร์เซน่อล และมีลุ้นทำประตูทั้งจังหวะสวนกลับ และลูกเตะมุมแต่ได้แค่หวาดเสียว จบเกมเจ้าบ้านทุบ "ปีศาจแดง" 2-0 คว้าสามคะแนนสำคัญ รั้งอันดับ 2 มี 28 คะแนน ตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูง 7 แต้ม
รายชื่อทั้ง 2 ทีม
อาร์เซน่อล (4-3-3) : ดาบิด ราย่า - เจอร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลี่ยม ซาลีบา, ยาคุบ คิวิออร์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (อังเกล เมริโน่ น. 71) - มาร์ติน โอเดอการ์ด (จอร์จินโญ่ น.90), โธมัส ปาร์เตย์, เดแคลน ไรซ์ - บูคาโย่ ซาก้า, ไค ฮาแวร์ตซ์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (เลอันโดร ทรอสซาร์ น. 71)
แมนยูไนเต็ด (3-4-3) : อันเดร โอนาน่า - มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (เลนี่ โยโร่ น. 59) , นูสแซร์ มาซราวี - ดีโอโก้ ดาโลต์, มานูเอล อูการ์เต้, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ไทเรลล์ มาลาเซีย (อาหมัด ดิยัลโล่ น. 46) - เมสัน เมาท์ (มาร์คัส แรชฟอร์ด น. 59), อเลฮานโดร การ์นาโช่ (โจชัว เซิร์กซี่ น. 59) , ราสมุส ฮอยลุนด์