เป็นเรื่องที่นักข่าวทราบกันดีว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษเท่าไหร่ ตลอด 7 ปีครึ่งที่อยู่ ลิเวอร์พูล นักเตะรายนี้เคยหยุดเดินใน มิกซ์ โซน แล้วให้สัมภาษณ์กับสื่อตอนหลังจบเกมแค่สองครั้ง
หนแรกคือในเดือนเมษายน ปี 2018
ตอนนั้น ซาลาห์ รักษาสัญญาต่อนักข่าวท้องถิ่นหลังทำสถิติบนขวบปีแรกที่ แอนฟิลด์ จากประตูที่ 40 นัดเจอ บอร์นมัธ
เวลาผ่านไป 14 เดือน ซาลาห์ ทำแบบนั้นอีกหลังจบเกมชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ แล้วได้ชูโทรฟี่ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กรุงมาดริด
แล้วจากนั้น มีนับร้อยคำปฏิเสธที่เขาบอกปัดอย่างสุภาพ และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแบบนั้นอีกครั้ง
แต่กลับกลายว่าไม่ใช่...
หลังชัยชนะเหนือ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 ซาลาห์ เดินออกจากตัวสนาม เซนต์ส แมรี่ เพื่อไปขึ้นรถโค้ชสโมสรท่ามกลางกระแสลมพัดแรงพร้อมกับเสียงตะโกนจากแฟน ๆ ที่ร้องเรียกชื่อของเขา
เขาเหลือบเห็นนักข่าว 4 คนที่ยืนรอด้านหลังแผงกันทางขวาของตัวเอง...
แทนที่เขาจะส่งคำขอโทษแล้วเดินจากไปเหมือนเคย ๆ แต่ ซาลาห์ กลับเดินตรงเข้าไปหาท่ามกลางเสียงอึกทึก
จากที่ไม่เคยปริปากเรื่องสัญญามาก่อน ซาลาห์ ตัดสินใจที่จะพูดมันออกมาด้วยอาการไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่
"เรามาเกือบจะเข้าเดือนธันวาคม แล้วผมยังไม่ได้รับข้อเสนอใด ๆ เพื่ออยู่ต่อกับสโมสร ดังนั้นผมมีโอกาสจะไปมากกว่าอยู่" ซาลาห์ พูดออกมาแบบนั้น
"ผมน่ะยังไม่เลิกเล่นเร็ว ๆ นี้หรอก ผมมุ่งมั่นที่จะลงเล่นในฤดูกาลนี้ และผมพยายามที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ให้ได้ รวมถึง แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยเช่นกัน"
"ผมผิดหวังนะ แต่เราต้องรอดูกันต่อไป"
เมื่อถูกถามว่าตัวเองต้องการอยู่ ลิเวอร์พูล ต่อหรือไม่ ซาลาห์ ก็เสริมขึ้นมาว่า "ผมอยู่สโมสรนี้มาหลายปี ไม่มีสโมสรไหนเหมือนที่นี่"
"ผมรักแฟน ๆ แล้วแฟน ๆ ก็รักผม เพียงแต่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมหรือแฟนบอล ผมแค่ทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด เพราะนี่คือตัวตนของผมและผมก็พยายามมอบทุกสิ่งอย่างเพื่อตัวเองและสโมสรนี้"
...
เอาจริง ๆ สิ่งที่ ซาลาห์ พูดออกมามันก็ไม่ใช่จังหวะเวลาที่ดีต่อ ลิเวอร์พูล เท่าไหร่ เพราะมันนำไปสู่การพาดหัวข่าวชิ้นโตก่อนเข้าสู่ช่วงสัปดาห์สำคัญที่มีเกมรับมือ เรอัล มาดริด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รออยู่
มันควรจะเป็นไปในทิศทางเชิงบวกจากการลงใต้ไปควักชัยชนะพร้อมทะยานนำจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ด้วยระยะห่าง 8 คะแนน
ในมุมของ ซาลาห์ เอง เราพอเข้าใจได้ที่เขาเลือกพูดออกมาเพื่อกดดันไปยังเบื้องบนสโมสร
สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า ผลงานในสนามก็ยิ่งตอกย้ำให้ ซาลาห์ เหมือนมีอำนาจบนโต๊ะเจรจามากขึ้น
ซาลาห์ อยู่ในเส้นทางที่จะทำผลงานที่ดีที่สุดบนอาชีพการเป็นนักฟุตบอล
เมื่อเทียบกับปีที่ดีที่สุดของเขาคือฤดูกาล 2017/18 ที่ ซาลาห์ ยิงได้ 44 ลูกกับ 14 แอสซิสต์ ซึ่งตัวเลขคือมีส่วนร่วมกับประตูทุก ๆ 71 นาที
ส่วนซีซั่นนี้ เขาลงเล่นไป 18 นัดทุกรายการทำไป 12 ประตู 10 แอสซิสต์ โดยมีตัวเลขเฉลี่ยที่ดีกว่าคือทุก ๆ 65 นาที
"หากเราเจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก เราทราบดีว่าเราเชื่อใจเขาได้" อาร์เน่อ กล่าวถึงลูกทีมชาวอียิปต์
...
แฟน ๆ หลายคนอาจสงสัยจากคำพูดของ ซาลาห์ ที่ว่า "ผมยังไม่ได้รับข้อเสนอใด ๆ ทั้งนั้น"
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันมีอะไรที่ละเอียดมากกว่านั้น
ไม่น่ามีความเป็นไปได้ว่าการพูดคุยเรื่องสัญญาระหว่าง ริชาร์ด ฮิวจ์ส ผู้อำนวยการกีฬากับ รามี่ อับบาส ตัวแทนของ ซาลาห์ จะไม่เคยเกิดขึ้น
การเจรจาส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นด้วยทางวาจาก่อนไปสู่การเสนอสัญญาอย่างเป็นทางการ
ซาลาห์ ยืนกรานว่าเรื่องนั้นยังไม่เคยเกิดขึ้น ขณะที่ฝั่ง ลิเวอร์พูล ไม่ได้ออกมาแถลงอะไรเพื่อไม่อยากเติมเชื้อไฟจนเกิดเป็นความขัดแย้ง
ผู้บริหารระดับสูง ลิเวอร์พูล ซึ่งไม่ขอเปิดเผยตัวตนได้บอกกับ ดิ แอธเลติก เพื่อปกป้องความสัมพันธ์
เขายืนยันว่าการเจรจากับ อับบาส เป็นไปในทิศทางบวก และยังเดินหน้าไปต่อ
...
สถานะของ ซาลาห์ เขาคือนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุด (ราว 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์บวกโบนัส) และ ลิเวอร์พูล เองก็จำเป็นต้องวางแผนสำหรับอนาคต
ซึ่งหมายความว่าการต่อสัญญาครั้งนี้เป็นอะไรที่ซับซ้อน
ลิเวอร์พูล ต้องการเก็บ ซาลาห์ ไว้ต่อไป แต่ก็ต้องอยู่ในกรอบที่พวกเขาเชื่อว่าสมเหตุสมผลในแง่ของเรื่องการเงิน
พวกเขาต้องการใช้เงินอย่างชาญฉลาด
ตัว ฮิวจ์ส เองไม่ได้มีงานที่ต้องทำแค่ ซาลาห์ แต่เขาต้องพยายามหาทางเรื่องต่อสัญญากับอีกสองนักเตะสำคัญอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
ซึ่งทั้ง ซาลาห์, วีวีดี และ เทรนต์ สามารถเจรจากับสโมสรอื่น ๆ ในต่างประเทศเมื่อถึงวันที่ 1 มกราคม 2025
...
สิ่งที่พอจะอ่านออกจากคำพูดของ ซาลาห์ ได้คือเขายังมุ่งมั่นที่จะลงเล่นเพื่อล่าความสำเร็จบนแผ่นดินยุโรป
เขามีความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้าที่บอกปัดการไปเล่นที่ลีก ซาอุดีอาระเบีย ในปี 2025 แบบรวดเร็ว
"ผมไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนั้น(การไปเล่นที่ลีก ซาอุฯ)" ซาลาห์ ปัดทันควัน
ต่อคำถามที่ว่าอยากเป็นเหมือน ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยังเล่นเวทีระดับสูงบนวัย 30 กลาง ๆ หรือไม่นั้น
เขากล่าวอย่างเปิดใจมากขึ้น "ผมมีความเป็นมืออาชีพมากนะ ทุกคนเห็นได้จากการทำงานของผม"
"ผมแค่พยายามสนุกกับการเล่นฟุตบอล และจะเล่นในระดับสูงให้นานที่สุด"
"ทีมนี้กำลังมีเคมีที่ลงตัวกับผู้จัดการทีมคนใหม่ หวังว่าเราจะรักษาเก็บชัยชนะต่อไปและคว้าแชมป์ได้ในบั้นปลาย"
...
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นคนที่ชอบเล่นหมากรุก และการที่เขาพูดออกมาแบบนั้นเมื่อวันอาทิตย์ เหมือนเป็นช่วงเวลาที่เขากำลังจะรุกฆาต
เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า ซาลาห์ กินขุนอีกฝ่ายได้ไหม
แต่ไม่ว่าอย่างไร ทุกสิ่งทุกถ้อยคำที่ออกจากปาก ซาลาห์ คือคำพูดของคนที่ต้องการอยู่ ลิเวอร์พูล ต่อไป
และกำลังพยายามทุกทางเพื่อให้ได้สัญญาใหม่ที่เหมาะสมกับสถานะของตัวเอง
เรียบเรียงจาก The Athletic
HOSSALONSO