หนักใจแทน อโมริม เมื่อเห็นสภาพแนวรุก แมนยู

หนักใจแทน อโมริม เมื่อเห็นสภาพแนวรุก แมนยู
ย้อนกลับไปในเกมแรกของ รูเบน อโมริม ในฐานะกุนซือ แมนยู เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ผมดีใจนะครับที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ถูกเลือกให้ลงเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าก่อน ราสมุส ฮอยลุนด์

เพราะผมคิดว่า 'แรชชี่' เป็นผู้เล่นที่มีทักษะ และความสามารถเฉพาะตัว รวมถึงสัญชาติญาณของกองหน้ามากกว่าหัวหอกสายพันธุ์โคนม 🇩🇰

แถมในระบบ 3-4-2-1 น่าจะเหลือตำแหน่งการเล่นให้คุณพี่เขาลงเพียงแค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้น 

คือศูนย์หน้า

จังหวะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 ในวินาทีที่ 81 ของเกม เด็กผีทางบ้านอย่างผมโคตรดีใจแบบดับเบิ้ล

เพราะไม่ใช่แค่ปีศาจแดงออกนำคู่แข่งอย่างเดียว มาร์คัส แรชฟอร์ด ยังทำลายตาข่ายได้อีกต่างหาก

การเปิดฉากอย่างสะเด่าไปเลยอีน้อง มันน่าจะเพิ่มความมั่นใจให้ดาวเตะผู้นี้มิใช่น้อย เช่นเดียวกับสร้างความประทับใจให้กุนซือคนใหม่มิใช่เบา

'ไอ้แรชกลับมาแล้วโว้ยยยย !!!' ผมคำรามสนั่นในใจ

ทว่าหลังจากนั้น

สิ่งที่เห็นคือ...คือ...คือ...คือ...คือการเล่นแบบเหยาะๆ แหยะๆ และเอื่อยๆ เฉื่อยๆ เหมือนเดิม

จังหวะ 50-50 กูไม่เอา

จังหวะการปะทะ จังหวะเบียด จังหวะกระแทกกับคู่แข่งกูก็ไม่เอา

จังหวะพุ่ง จังหวะโฉบ หรือจังหวะวิ่งทำทางก็ดูเก้ๆ กังๆ ยังไงชอบกล

บอลที่ถูกแทงขึ้นมาให้เขาหน้าไลน์ถูกกองหลังคู่แข่งชิงจังหวะตัดไปเกือบทุกครั้ง

สัมผัสไม่ได้ถึงความดุดันอะไรเลยสักนิดเดียว

หลังจากที่ยิงประตูแรกในวินาทีที่ 81 ก็ไม่มีโอกาสสับไกยิงอีกเลย !!!

เทียบกับ 'หน้าเป้า' ของคู่แข่งอย่าง เลียม ดีแลป แล้วก็อยากสบถถึงของเหลวในลำไส้เป็นภาษาแมนคูเนี่ยน 

แม้หัวหอกของ อิปสวิช จะทำประตูไม่ได้ แต่กลับคุกคามเกมรับพลางสร้างความระทมกบาลให้กองหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นระยะ

การเล่นของ เลียม ดีแลป เปี่ยมไปด้วยพลังงานที่ระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง ตรงกันข้ามกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด อย่างสิ้นเชิง

นี่ถ้าปีศาจแดงไม่ได้ อองเดร โอนาน่า ช่วยเอาไว้คงตูดบานไปแล้ว

รูเบน อโมริม ทนดูอยู่ถึงนาทีที่ 68 แล้วตัดสินใจส่ง ราสมุส ฮอยลุนด์ ลงไปเป็นหัวหอกแทน

ส่วนกองหน้าทีมชาติเดนมาร์กที่อาจแสดงออกถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเทมากกว่า แต่คุณภาพฝีเท้าก็ไม่สูงพอที่จะทำอะไรให้มันดีขึ้นได้

เห็นผู้เล่นในแผนกกองหน้าของ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบันแล้วก็หนักใจแทนพ่อใหญ่คนใหม่แห่ง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ยิ่งนัก

เพราะไม่ใช่แค่ มาร์คัส แรชฟอร์ด คนเดียว

ยังมี ราสมุส ฮอยลุนด์, โจชัว เซิร์คซี่, อันโตนี่ และอเลฮานโดร การ์นาโช่

หลังจบเกม รูเบน อโมริม ให้ปากคำนักข่าวหลายประเด็น แต่มีอยู่ประโยคหนึ่งที่เขาบรรจงบ้วนออกมาจากปากพลางถอนใจ

"We are going to suffer for a long period."

"เราคงต้องทนทุกข์ทรมานกันไปอีกนานเลยทีเดียว" 

"บอ.บู๋"


ที่มาของภาพ : getty image
BY : บอ.บู๋
บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport