หลังจาก แมนซิตี้ แพ้ นี่คือโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะต้องฉวยโอกาสหนี….
อาร์เน่อ บอกก่อนแข่งว่า “ควรชนะแมตช์นี้”
ทีมของ รัสเซลล์ มาร์ติน
ชนะ1 เสมอ 1 แพ้ 9 ยิง7 เสีย 21
อันดับท้ายตาราง
นัดนี้ขาด อารอน แรมสเดล และ แยน เบดนาเร็ก
จัดระบบ 5-3-2
ส่วน อาร์เน่อ พัก ดิอาส, แมคก้า ข้างสนาม
กลางใช้ โจนส์ , โซโบ และ กราเฟนแบร์ก
ก่อนแข่งมีสถิติ PL 12,516 แมตช์
มี จ่าฝูง vs บ๊วย 39 แมตช์ ในสุดสัปดาห์
บ๊วยชนะได้แค่4 หรือ 1.56%
บ๊วยล่าสุดที่ชนะจ่าฝูงคือ วูล์ฟ ปี2011
ชนะ แมนยู 2-1
1 ผลัดกันพลาด!!
ลิเวอร์พูล คุมเกมบุกฝั่งเดียว มีโอกาสยิงจาก ซาล่าห์2 ครั้ง
น. 30 โซโบ ฉวยโอกาส ฟลิน ดาวนส์ สกัดพลาด
หน้าเขตโทษ ยิง 1-0
2 ฟานไดจ์ พลาด & จุดโทษ
ท้ายครึ่งแรกนักบุญได้จุดโทษ
เกิดจาก ฟานไดจ์ เสียบอลกลางสนาม
บอลถึง ดริบบิงปีกดาวรุ่งเลี้ยงจี้ถึงหน้าเขตโทษ
ร็อบโบ้ เสียบ ดริบบิง ตรงเส้นโทษ
ทั้งผตส และ VAR ชี้ตรงกัน
ตามกติกาเท้าร็อบโบ้ เหยียบเส้นกรอบโทษพอดี
มันคือจุดโทษ
1-1 น.42 อารมสตรอง ยิงจุดโทษ
คลฮ ปัดมาเข้าทาง ซ้ำ ลอดขา!!!เข้า
3 นักบุญสวนกลับ
ครึ่งหลัง เล่นไป10 นาที จังหวะ ลิเวอร์พูล บุกเสียบอล
ดริบบิ้ง หลอก โซโบ ที่ริมเส้น ก่อนฝากให้ อาร์มสตรอง
ถึงหน้าเขต ไหลให้ เฟร์นานเดส แปนิ่มๆ2-2
4 ลิเวอร์พูลตีเสมอง่ายๆ 2-2
พอเสียประตู อารเน่อ เปลี่ยน2 คน
ดิอาส แทนกัคโป แมคก้า แทนโจนส์ น.62
แค่3 นาทีหงส์ตีเสมอ จากจังหวะ กราเฟนแบรก เปิดหลังไลน์ บอลถึง ซาล่าห์ จับบอลแรกยาว
ปรากฏ แมคคาร์ธีย์ ออกมาช้า บอลไหลเข้าประตู!!
5 นักบุญโชคร้าย
บอลครอส เข้าไป ถึง ซูกาวาระ ทำแฮนด์บอล
แม้กระดอนตัวแต่ แขนกลาง เสียจุดโทษ
โม จัดการไม่พลาด น.83 เป็น 3-2
บทพิสูจน์ เกมนี้ชัดเลยว่า เส้นทางสายนี้ไม่มีอะไรง่าย
แม้กระทั่งทีมอันดับ20 ของตาราง
เซาธ์ คือทีมที่โดนล่อเป้ามา11 นัด!!!
แต่กลับยิง ลิเวอร์พูล ได้สองลูกด้วยกัน
นี่คือเกมยากเกมหนึ่งใน12 เกมของหงส์
ชัยชนะที่ได้มาแบบ winning ugly
เป็น 3 แต้ม ที่ต้องการ
แม้ผลงานในสนามอาจจะไม่สวยงามก็เถอะ
แต่นั่นก็เพียงพอต่อช่องว่าง 8 คะแนน