ลูกกรอกคะนอง! 5 ข้อรู้จัก ก็อดวิลล์ คูคอนกี้ ดาวรุ่ง แมนยู

ลูกกรอกคะนอง! 5 ข้อรู้จัก ก็อดวิลล์ คูคอนกี้ ดาวรุ่ง แมนยู
สไตล์ ยอชโก้ กวาร์ดิโอล ร่างกายแข็งแกร่ง และถนัดเท้าซ้าย ทำความรู้จักเจ้าหนู ก็อดวิลล์ คูคอนกี้ ดาวรุ่ง แมนยู หลัง รูเบน อโมริม ดันให้ขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่

รูเบน อโมริม กุนซือคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำนักเตะ "ปีศาจแดง" ลงฝึกซ้อมครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หลังจากได้วีซ่าทำงานในประเทศอังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อโมริม เรียก ก็อดวิลล์ คูคอนกี้ กองหลังวัย 16 ปี ขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ด้วย หลังขาดนักเตะระดับซีเนียร์ไปถึง 14 ราย เนื่องจากทั้งติดภารกิจทีมชาติและมีอาการบาดเจ็บรบกวน 

เจ้าหนู คูคอนกี้ มีประวัติความเป็นมาและฝีเท้าเป็นอย่างไรบ้างเราจะไปทำความรู้จักเขาใน 5 ข้อสั้นๆ ดังนี้ 

1. เส้นทางลูกหนัง

คูคอนกี้ เกิดที่เมืองสโต๊ค เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี 2008 โดยเจ้าตัวยังมีเชื้อสายดีอาร์ คองโก ด้วย

คูคอนกี้ เป็นเด็กอคาเดมี่ของ แมนยู และได้เข้าไปอยู่ในรุ่นยู-18 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

ก็อดวิลล์ คูคอนกี้

2. ผลงานชุดยู-18

คูคอนกี้ มีผลงานชนะ 100 เปอร์เซ็นต์กับการลงเล่นให้ทีมยู-18 ของ แมนยู ที่ลงเล่นไป 9 นัดในซีซั่นนี้ และเพิ่งเสียไปแค่ 4 ประตูเท่านั้น

เจ้าหนูวัย 16 ยิงประตูแรกในทีมยู-18 นัดถล่ม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 9-0 และยังเคยถูกดันให้ขึ้นไปเล่นในทีมยู-21 เมื่อเดือนต.ค. ที่ผ่านมา ด้วย

3. ตำแหน่งถนัด

คูคอนกี้ สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งแบ็กซ้าย และเซนเตอร์แบ็ก โดยเจ้าตัวถนัดเท้าซ้าย และมีทักษะที่ยอดเยี่ยม 

การเล่นของ คูคอนกี้ น่าจะเข้ากับระบบ 3-4-3 ที่ อโมริม ชอบใช้ โดยเวลานี้กองหลังชุดใหญ่มีแค่ ลุค ชอว์ และ ลีซานโดร มาร์ตีเนซ เท่านั้นที่ถนัดเท้าซ้าย

4. จุดเด่น

คูคอนกี้ เป็นกองหลังที่มีรูปร่างสูงใหญ่ถึง 1.98 เมตร แต่ก็มีเทคนิค และความคล่องตัว รวมทั้งมีความเหนียวแน่นในการเล่นเกมรับด้วย

นอกจากนี้ คูคอนกี้ ยังเติมเกมบุกได้ดี หลังซีซั่นนี้ที่ลงเล่นให้ทีมยู-18 ทำไปแล้ว 1 ประตู และจัดไปอีก 1 แอสซิสต์ 

5. อนาคตนิว ยอชโก้ กวาร์ดิโอล?

ในเวลานี้เริ่มมีการนำเจ้าหนู คูคอนกี้ ไปเปรียบเทียบกับ ยอชโก้ กวาร์ดิโอล กองหลังทีมชาติโครเอเชีย ของ แมนซิตี้ แล้ว 

ทั้งคู่เป็นกองหลังถนัดเท้าซ้ายเหมือนกัน และเติมเกมบุกได้ดี รวมทั้งสามารถยืนเป็นแบ็กซ้ายหรือเซนเตอร์แบ็กก็ได้


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport